สวัสดีครับเพื่อนๆ สำหรับใครที่จบทำงานมาสักพักแล้ว ชีวิตย่อมมีทั้งขาขึ้นและขาลง ทั้งการได้โปรโมทงาน ได้ขึ้นเงินเดือน ได้เปลี่ยนงานไปในตำแหน่งที่ดีกว่า หรือในบางทีก็อาจโชคร้าย เล่นหุ้นจนขาดทุน เจ้านายไม่ให้โบนัส หรือไม่ได้เลื่อนตำแหน่งซะที แย่มากๆเข้าก็อาจถึงขั้นตกงาน และด้วยรายได้แบบเบี้ยน้อยหอยน้อยอย่างที่เรามีอยู่ตอนนี้ เมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน สำหรับชีวิตคนเมืองที่แพงหูฉี่ทั้งค่าเดินทาง ค่ากิน ค่าเที่ยว ก็เรียกได้ว่า ผู้คนในวัยยังไม่ถึง 30 ใช้ชีวิตกันอย่างยากลำบาก อาจจะเรียกได้ว่ากินแกลบทุกเดือนก็ย่อมได้ครับ แล้วยิ่งต้องให้มาเก็บเงิน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลยครับ จะเอาที่ไหนมาเก็บ
พี่หมีจึงขอเอาใจช่วยทุกๆคน และมีวิธีที่จะทำให้เพื่อนๆสามารถเก็บเงินได้ในช่วงเวลาชีวิตที่ยากลำบาก แต่จะทำให้เราสบายในระยะยาวได้มาฝากกันครับ
1)จัดทำงบประมาณ
ในการเริ่มต้นเก็บเงินให้ได้นั้น ไม่ว่าเพื่อนๆจะมีสถานะทางการเงิน ณ ตอนนั้นเป็นอย่างไร ก็ต้องเริ่มจากการหัดรู้จักวางแผนจัดทำงบประมาณให้เป็นก่อน สิ่งนี้จะทำให้เพื่อนๆสามารถจัดลำดับความสำคัญของค่าใช้จ่ายที่มีและพยายามทำให้รายรับรายจ่ายสมดุลให้ได้ โดยให้เริ่มจากการที่เพื่อนๆขุดเอาบิลบัตรเครดิต บิลค่าน้ำค่าไฟ สมุดบัญชีเงินฝาก และใบเสร็จต่างๆ เอามากองรวมกัน แล้วแยกทำบัญชีดูแต่ละอย่างว่าเรามีรายรับเท่าไหร่และมีรายจ่ายออกไปในแต่ละเดือนจริงๆแล้วเท่าไหร่ ทั้งค่าเช่าบ้าน ค่าเดินทาง ค่าประกัน หรือแม้แต่ค่าน้ำค่าไฟ เสร็จแล้ว ให้เพื่อนๆ นำเอารายจ่ายมาหักออกจากรายได้ที่เราได้เพื่อที่จะได้ดูว่าตัวเรานั้น จะสามารถเก็บเงินได้จริงๆแล้วเท่าไหร่ แต่ถ้าดูๆแล้ว ยังไม่สามารถเก็บเงินได้เลย ก็ให้เพื่อนๆ ลองจัดลำดับความสำคัญของค่าใช้จ่าย ว่ามีค่าใช้จ่ายไหนที่ไม่ได้จำเป็นจริงๆ สามารถตัดออกได้หรือไม่ ก็จะทำให้เพื่อนๆสามารถออมเงินได้มากขึ้น และพี่หมีแนะนำว่า สำหรับใครที่มีเหตุการณ์ในชีวิตเกิดขึ้นไม่ค่อยแน่นอนในแต่ละปี เช่นเราอาจจะเพิ่งตกงาน เพิ่งมีลูก หรือทำงานที่ไม่ได้รายได้ประจำ ก็ให้เพื่อนๆกลับมาดูงบประมาณรายรับรายจ่ายเหล่านี้ถี่ขึ้น ให้มากกว่า 1 ครั้งใน 1 ปีนะครับ
2) บันทึกรายจ่าย
โดยส่วนใหญ่แล้ว เรามักจะรู้สึกว่าถ้าหากอยากเก็บเงินก็ต้องอย่าใช้จ่ายไปกับสิ่งของชิ้นใหญ่ๆราคาแพงๆ โดยหารู้ไม่ว่า ค่าใช้จ่ายแฝงที่เรามักไม่รู้ตัวและจ่ายออกไปทุกวัน อันเป็นส่วนประกอบใหญ่ๆของค่าใช้จ่ายทั้งหมด ก็คือค่าใช้จ่ายเล็กๆน้อยๆในแต่ละวันนี่ล่ะครับ เพราะฉะนั้น จึงเป็นสิ่งสำคัญในช่วงเวลาลำบากของชีวิต ที่เพื่อนๆจะต้องมีการติดตามและทำบันทึกรายจ่ายวันต่อวัน เพื่อที่เพื่อนๆจะได้ไม่ใช้เงินเกินตัวโดยที่เราไม่รู้ตัวนั้นเอง
3) จ่ายหนี้บัตรเครดิตให้หมด
แม้ว่าหนี้บัตรเครดิตของเพื่อนๆจะดูไม่หมดไม่สิ้นกันเสียที แต่การที่เพื่อนๆพยายามหาทางจ่ายหนี้บัตรเครดิตให้หมดนั้น ก็จะทำให้เพื่อนๆประหยัดค่าใช้จ่ายที่เราจะต้องจ่ายไปกับดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆได้มาก ทำให้เพื่อนๆสามารถเก็บเงินได้มากขึ้น ยิ่งเราจ่ายหนี้บัตรเครดิตหมดไปเร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งสามารถออมเงินจากการที่เราไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยได้มากเท่านั้นครับ และวิธีที่จะทำให้เพื่อนๆสามารถจ่ายหนี้บัตรเครดิตให้หมดไปได้เร็วที่สุดก็คือ การมีวินัยในการจ่ายเงินให้ตรงงวดทุกงวด เคล็ดลับก็คือ ให้เพื่อนๆ ติดต่อธนาคารให้สามารถตัดยอดที่บัตรเครดิตผ่านบัญชีธนาคารได้ด้วยอัตโนมัติ โดยในแต่ละครั้งก็ให้เพื่อนๆจ่ายมากกว่าจำนวนเงินขั้นต่ำที่ต้องจ่าย จะได้ไม่เสียดอกเบี้ยเพิ่มครับ
นอกจากนี้ ยังมีอีกวิธีหนึ่งที่พี่หมีจะแนะนำให้แค่สำหรับคนที่สามารถจ่ายหนี้บัตรเครดิตได้ตรงเวลาเท่านั้นก็คือ การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตให้เพิ่มขึ้น แม้อาจจะฟังดูขัดแย้งกันไปสักหน่อยกับเรื่องการออมเงิน แต่การที่เพื่อนๆใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเพิ่มขึ้นนั้น จะทำให้เพื่อนๆสามารถได้สิทธิประโยชน์และส่วนลดต่างๆผ่านบัตรเครดิตรวมถึง อาจจะได้ cash back reward กลับมาอีกด้วย
4) เปิดบัญชีเงินฝากประจำ
เนื่องจากบัญชีเงินฝากประจำจะทำให้เพื่อนๆสามารถถอนเงินได้ยากขึ้น จึงทำให้บัญชีประเภทนี้ ให้ดอกเบี้ยที่สูงกว่าบัญชีออมทรัพย์ทั่วไป บัญชีเงินฝากประจำเหล่านี้ เหมาะสำหรับผู้มีเงินเดือนประจำและต้องการจะเก็บเงินให้ได้ ก็ให้เพื่อนๆหักค่าใช้จ่ายต่างๆออกไป แล้วให้เอาเงินที่เหลือเข้าบัญชีเงินฝากประจำนั่นเอง การเก็บเงินในบัญชีประเภทนี้ทำให้เพื่อนๆถอนเงินออกมาใช้ได้ยากและได้ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น เป็นการสร้างวินัยแบบอัตโนมัติให้ตัวเพื่อนๆเอง เคล็ดลับอีกอย่างนึงก็คือ หากเราต้องมีการจ่ายหนี้ ต่างๆ เช่น หนี้ค่าบ้านหรือเงินกู้ ก็ให้มาหักจากบัญชีเงินฝากประจำจะง่ายและสะดวกกว่าอีกด้วยครับ
5) โฟกัสไปที่ค่าใช้จ่ายประจำ
นอกจากค่าใช้จ่ายเล็กๆน้อยๆที่ทำให้เพื่อนๆเก็บเงินได้ยากขึ้นแล้วนั้น ก็ให้เพื่อนๆลองย้อนกลับไปดูถึงค่าใช้จ่ายประจำที่เราต้องจ่ายทุกเดือน เช่นค่าผ่อนบ้าน จ่ายค่าประกัน หรือค่าน้ำค่าไฟต่างๆ แล้วลองหาวิธีดูว่า จะมีวิธีไหนที่เราสามารถออมเงินหรือเก็บเงินได้เพิ่มขึ้นบ้างไหม เช่นการทํารีไฟแนนซ์เงินกู้ต่างๆ หรือการเปรียบเทียบประกันหลายๆเจ้า แล้วเลือกสมัครกับเจ้าที่ให้ผลประโยชน์สูงสุดในราคาที่ดีที่สุดแทน ด้วยวิธีเช่นนี้ อาจจะทำให้เพื่อนๆสามารถเก็บเงินได้เพิ่มหลายหมื่นต่อปีเลยละครับ
6) อย่าใช้ชีวิตตระหนี่จนเกินไป
แม้ว่าการประหยัดอดออมจะดีต่อการฐานะการเงินของเรา แต่การที่เพื่อนๆตระหนี่ถี่เหนียวไม่ยอมใช้เงินสักแดงออกไปเลย ก็จะทำให้ชีวิตของเราอับเฉายิ่งกว่าเดิมได้ครับ ทางที่ดี ให้เพื่อนๆวางแผนตัวเองให้ดีว่า แต่ละเดือนจะได้รายรับเท่าไหร่แล้วจะจ่ายออกไปเท่าไหร่ รวมถึงเก็บเงินไปลงทุน ก็จะทำให้เราใช้ชีวิตอย่างสมดุลได้มากกว่าครับ ถ้าหากเราใช้ชีวิตอย่างตระหนี่ถี่เหนียว เราเองก็จะเริ่มรู้สึกว่าตัวเราจนและไม่มีทางหาเงินได้เพิ่มเติม ยิ่งทำให้ฐานะการเงินเราแย่เข้าไปใหญ่ ทางที่ดี ให้มองโลกในแง่ดีและพยายามหาเงินเข้ามาเพิ่มเติมในขณะที่ก็ประหยัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น แต่ยังอยู่ในชีวิตที่สมดุล จะดีกว่าครับ