เป็นที่ฮือฮากับโฆษณาการรับสมัครคัดเลือก “ผู้สำรวจความสุขคนไข้” ของโรงพยาบาลเอกชนแห่ง โดยให้เงินเดือนถึง 1 ล้านบาท ซึ่งผู้สำรวจความสุขคนไข้ทำหน้าที่รับฟังคนไข้ทุกคนเพื่อเขียนถึงความสุขในการเข้ามาพักรักษาตัวในโรงพยาบาลเพื่อนำไปลงสื่อโซเชียลมีเดีย การสมัครนั้นก็ง่ายดายมาก โดยผู้สมัครเพียงแค่ทำคลิปส่งเข้ามาให้คณะกรรมการตัดสิน เหตุการณ์นี้ก็สร้างกระแสให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์มากมาย มีทั้งเห็นด้วย อยากสมัครลองดู และคนที่ออกมาโจมตีว่าเป็นเพียงเครื่องมือทางการตลาด สร้างกระแสและชื่อเสียงให้โรงพยาบาลนี้เท่านั้น ซึ่งก็เป็นสีสันและเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ไประยะหนึ่งเลยทีเดียว แล้วพนักงานเงินเดือนหมื่นกลางจนกระทั่งถึงสองหมื่นปลายอย่างพวกเราจะมีโอกาสไหนบ้างที่ได้เงินเดือน เดือนละล้านคงต้องมาลองวิเคราะห์กันดู
เริ่มจากเฉลี่ยเงินเดือนตามสายงานที่สูงที่สุดในประเทศไทยว่าอยู่ที่เท่าไหร่กัน จากเว็บไซต์ จ๊อบส์ ดีบี ได้ทำรายงานสายงานที่มีรายได้เยอะที่สุดในประเทศไทยปี 2559 ทั้งหมด 10 สายงานดังนี้ งานโทรคมนาคม งานการบริการเฉพาะทาง งานไอที งานบริการทางการแพทย์ งานธนาคาร งานการเงิน งานประกันภัย งานวิศวกรรม งานวิทยาศาสตร์ (LAB วิจัยและพัฒนา) งานการตลาดและประชาสัมพันธ์
โดยเงินเดือนเฉลี่ยของเจ้าหน้าที่ทั่วไป (อายุงาน 0-2 ปี) อยู่ที่ 19,595 – 39,666 บาท เงินเดือนเฉลี่ยของเจ้าหน้าที่ระดับกลาง (อายุงาน 3-5 ปี) อยู่ที่ 31,542 – 60,970 บาท และเงินเดือนเฉลี่ยของเจ้าหน้าที่ระดับหัวหน้างาน (อายุงาน มากกว่า 5 ปี) อยู่ที่ 76,111 – 132,142 บาท เห็นแล้วต้องร้อง ว้าว! ตามด้วยอาการน้อยใจที่เลือกสายงานในการทำงานผิดกันเลยทีเดียว แต่เท่าที่ดูก็ยังห่างไกลตัวเลขล้านนะครับ
แต่อย่าพึ่งหมดหวังเหล่าประชาชนคนไทยที่รับเงินเดือนทั้งหลาย เพราะมีรายงานพิเศษจาก “ยูเอส นิวส์ แอนด์ เวิลด์ รีพอร์ต” ได้ทำการจัดอันดับอาชีพอนาคตไกลที่สุดในอเมริกา ประจำปี 2016 โดยเปรียบเทียบจากอัตราเงินเดือน โอกาสความเจริญก้าวหน้าของงาน ความต้องการของตลาดแรงงานภายใน 10 ปีข้างหน้า ระหว่างปี 2014-2024 ตามข้อมูลสถิติที่กระทรวงแรงงานสหรัฐอเมริกาได้รวบรวมเอาไว้ ซึ่งอาชีพที่ให้เงินเดือนและมีอนาคตมากที่สุด 9 อันดับ ได้แก่
- อันดับ 1 ผู้จัดการด้านการเงิน ซึ่งเป็นเจ้าแห่งเงินเดือนอยู่ ณ ตอนนี้ ให้เงินเดือนสูงถึง ปีละ 130,230 ดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นเงินไทยแบบน้ำลายย้อยก็ประมาณ 4.68 ล้านบาท ต่อปีแค่นั้นเอง แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความรับผิดชอบสูงลิ่ว ความเครียดต่าง ๆ นานาเพราะต้องดูแลรับผิดชอบเงินคนอื่นด้วยนะสิ
- อันดับ 2 ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการธุรกิจ เป็นอาชีพที่ต้องดูแลระบบปฏิบัติการของบริษัทและต้องสร้างสรรค์โปรเจ็กต์ต่าง ๆ เพื่อพัฒนาบริษัทให้ก้าวหน้าคู่แข่ง อาชีพนี้จึงรับเงินเดือนเต็ม ๆ ที่ปีละ 117,200 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 4.21 ล้านบาท
- อันดับ 3 ที่ปรึกษาด้านการเงิน หน้าที่ของอาชีพนี้ก็ตามชื่อเลย คอยให้คำปรึกษาทางการเงิน วางแผน ดูแลลูกค้าทั้งรวมทั้งเก็บความลับต่าง ๆ ทางการเงิน ส่วนรายได้ก็ ปีละ 108,090 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 3.89 ล้านบาทต่อปี
- อันดับ 4 นักสถิติ สำหรับอาชีพเก็บข้อมูล วิเคราะห์เชิงสถิติเพื่อนำข้อมูลไปใช้งานด้านต่าง ๆ นั้น ก็มาแรงไม่เบารับเงินเดือนปีละ 84,010 ดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อคิดเป็นเงินไทยแล้วก็อยู่ที่ประมาณ 3.02 ล้านบาท สำหรับการเก็บตัวเลขไว้ใช้งาน
- อันดับ 5 นักคณิตศาสตร์ อีกอาชีพที่สามารถสร้างเงินได้เป็นกอบเป็นกำ โดยเฉพาะนักคณิตศาสตร์ประกันภัยที่มีหน้าที่ใช้หลักคณิตศาสตร์ประเมิน คาดการณ์ความเสี่ยงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในธุรกิจประกันภัย ใครเก่งเลข เก่งคณิตศาสตร์ก็เตรียมรับเงินเดือนปีละ 104,350 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 3.75 ล้านบาทไปเลย น่าอิจฉาจัง
- อันดับ 6 นักบัญชี ได้ต่อปีที่คุณจะได้คือ 73,670 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 2.65 ล้านบาท หากคุณมีใจรักในเรื่องตัวเลขอีกแบบ ชอบที่จะนั่งจ้อง นั่งเพ่ง รายรับ รายจ่าย ดูแลความเป็นไปด้านบัญชี แต่พอเห็นเงินเดือนแล้ว ก็นอนยิ้มสบายใจทันที
- อันดับ 7 ผู้จัดการบริการด้านสุขภาพและการแพทย์ เตรียมปรบมือรับรายได้ 103,680 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 3.74 ล้านบาทกันเลย สำหรับงานที่กำลังเป็นที่ต้องการตัวอย่างมากในขณะนี้ อาชีพที่อยู่เบื้องหลังการทำงานของแพทย์และบุคลากรเกือบทั้งหมดเพื่อให้สามารถให้บริการทางการแพทย์อย่างราบรื่น แต่ก็อย่างที่เห็นครับ อย่างไรก็คุ้มเหนื่อย
- อันดับ 8 พนักงานสินเชื่อ ทำรายได้ถึงปีละ 73,670 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 2.65 ล้านบาท สำหรับงานที่ต้องอาศัยความละเอียดสุดติ่ง และต้องมีความรับผิดชอบสูง เพราะถ้าตรวจสอบเอกสารการขอสินเชื่อไม่รอบคอบก็อาจหนี้สูญ สร้างความเสียหายมหาศาลแก่บริษัทได้
- อันดับ 9 เจ้าหน้าที่ระดมทุน ต้องอาศัยทักษะร้อยแปดจริง ๆ เพราะการจะพูดโน้มน้าวขอเงินสนับสนุนจากคนอื่นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ถ้าทำได้ก็เอาไปเลยปีละ 56,840 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 2.04 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าอาชีพนี้น่าจะเติบโตอย่างมากในยุคที่เต็มไปด้วย Start Up เช่นนี้
ซึ่งถึงแม้จะเป็นรายได้ในประเทศสหรัฐอเมริกาเจ้าแห่งการจ่ายเงินเดือน แต่คิดว่าน่าจะมีผลหรือมีเศษสะเก็ดความเป็นไปได้กระเด็นมายังประเทศไทยบ้าง ยังไงก็ควรศึกษาเผื่อสักวันประเทศเราจะมีรายได้และเงินเดือนระดับนี้บ้าง
แต่อย่าลืมว่าความมั่งคั่งของมนุษย์ไม่ได้วัดกันที่รายได้อย่างเดียว เพราะการมีรายได้สูงนั้นก็ต้องแลกมาด้วยการทำงานที่หนักหน่วง ความมุมานะและวินัยในการทำงานที่สูงด้วย การเป็นที่หนึ่งในแต่ละสายงานนั้น คิดว่าไม่ว่าอยู่ในประเทศไหนก็ได้เกินล้าน แต่เมื่อมาคิดแล้วว่าต้องใช้ทั้งชีวิตเพื่อไปยืนอยู่บนจุดนั้นก็คงเป็นเรื่องหนักหนาเอาการ และเมื่อวันนั้นมาถึงเราอาจต้องมาชั่งใจว่า สิ่งที่เราทุ่มเทอยู่เพื่อรายได้ที่คาดหวังนั้นคุ้มกับเวลาและความสมดุลที่สูญเสียไปหรือไม่ เพราะเราไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลกนี้ การทำอะไรเพื่อคนที่รักได้สักอย่าง ทำในสิ่งที่ตนรักและฝันบ้าง อาจเป็นคำตอบที่ลงตัวมากกว่าเงินเดือนเดือนละล้าน… ก็ได้