เดี๋ยวนี้หันมองไปทางไหนสังเกตไหมว่า คนรุ่นใหม่ช่วงวัย 20-30 ปี นั้น ล้วนแล้วแต่มีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จกันมากขึ้น อย่างหลายคนๆก็ทำธุรกิจส่วนตัวกันตั้งแต่อายุยังน้อย บางคนเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย มีกิจการเป็นของตัวเอง หรือใครที่เรียนจบแล้วถ้าไม่สอบบรรจุเข้าสายงานที่ตนเองได้ร่ำเรียนมา ส่วนใหญ่ก็เลือกที่จะมาทำธุรกิจกันมากขึ้น นั่นแสดงให้เห็นว่า คนช่วงวัยนี้เห็นความสำคัญและต่างก็เริ่มที่จะขวนขวายความสำเร็จกันตั้งแต่ยังเล็กยังน้อย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดีค่ะ ด้วยสังคมทุกวันนี้เปลี่ยนไปมาก เปิดกว้างในหลายๆด้าน ทั้งการศึกษา และการติดต่อสื่อสาร อะไรๆก็ง่ายขึ้น
บทความนี้เราก็เลยจะมาดูกันว่า ความสำเร็จของคนวัย 20 อะไรบ้างที่ปลุกให้คนรุ่นใหม่ไฟแรง ประสบความสำเร็จในชีวิตได้ตั้งแต่เนิ่นๆ
1.การลองผิดลองถูก
จัดได้ว่าเป็นกระบวนการเรียนรู้อย่างหนึ่งโดยผ่านการลงมือทำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียนหรือการทำงาน ความไม่รู้เป็นตัวกระตุ้นชั้นดีที่ทำให้เราอยากเรียนรู้ หากใครที่เคยอ่านประวัติเรื่องราวของคนดังๆจะพบว่า พวกเขาเหล่านั้นไม่ได้เก่งในตำราเลยด้วยซ้ำไป หลายคนเรียนหนังสือไม่จบ แต่ก็ยังประสบความสำเร็จในชีวิต มีหน้าที่การงานที่ดีและมั่นคงได้ อย่าง มาร์ก ซักเคิลเบิร์ก,สตีฟ จอบส์,ต๊อบ อิทธิพัทธ์ และอีกหลายต่อหลายคน ซึ่งกุญแจแห่งความสำเร็จเหล่านั้น อยู่ที่การพยายามลงมือทำและลองผิดลองถูก ลองเรียนรู้ ประสบการณ์คือสิ่งที่สอนเราได้ดีที่สุด แม้ว่าวันนี้จะเจออุปสรรคที่ยากลำบาก นั่นแหละค่ะ คือ สิ่งที่จะช่วยขัดเกลาความคิดของเรา จนท้ายที่สุดเราก็จะหาวิธีพาตัวเองออกจากสถานการณ์ที่เป็นปัญหาเหล่านั้นได้
2.การเลือกมองโลกในแง่ดี
บางครั้งเราจะพบว่าสังคมที่เรายืนอยู่นั้น มีความคาดหวังกับตัวเรามาก ไม่ว่าจะเป็น พ่อแม่ หรือ ญาติพี่น้อง พวกเขาต่างก็คาดหวังอยากที่จะเห็นเราประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน แต่บางครั้งความคาดหวังเหล่านั้นก็ทำให้เราเครียดและจิตตกได้ง่ายๆเหมือนกัน บางคนอยากจะทำธุรกิจส่วนตัวตั้งแต่อายุยังน้อย แต่ครอบครัวไม่เห็นด้วย ต้องการอยากให้เรียนไปก่อน เป็นต้น หรือบางคนครอบครัวก็คาดหวังอยากให้ทำงานเป็นข้าราชการ แต่เขากลับไม่ได้ชอบและอยากทำงานในลักษณะอื่นๆมากกว่า ปัจจัยในเรื่องของครอบครัวและสังคมรอบข้างจึงเรียกว่าได้ มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจไม่น้อย แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ไม่ว่าความคาดหวังของสังคมจะเป็นอย่างไรก็ตาม เวลาที่เราจะตัดสินใจอะไร คนที่เราควรรับฟังเขาให้มากที่สุด ก็คือ ตัวเรานั่นเอง ตัวเราเท่านั้นที่จะสามารถบอกได้ว่า เราจะสามารถทำอะไรให้ประสบความสำเร็จได้ เราจะใช้การมองโลกในแง่ดีเข้ามาช่วย ไม่ว่าแผนงานหรือโครงการที่คิดไว้ในหัว คนอื่นอาจจะบอกว่ามันไม่เวิร์ค ไม่สามารถเป็นไปได้ เลือกทำอย่างนั้นอย่างนี้ดีกว่า แทนที่เราจะไปจิตตกคิดมากกับคำแนะนำเหล่านั้น ให้เราคิดของเราเองเลยดีกว่าว่า เราจะสามารถทำมันให้สำเร็จได้ พิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นว่า สิ่งที่เราตั้งใจมันสามารถเป็นจริงได้ มองไปข้างหน้า ทำมันไปเรื่อยๆ มีความหวังในจิตใจ แม้จะเป็นเพียงแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์เล็กๆก็เถอะ แต่ถ้าเราคิดว่าจะเจอทางออกในสักวันแล้วเดินตามแสงนั้นไป คงไม่นานเกินรอ ที่เราจะค้นพบโลกใบใหม่ที่สดใสกว่าก็เป็นได้
3.ตัดสินใจให้เด็ดขาด
ช่วงวัย 20 ต้นๆ หรือ 20 ปลายๆ นั้น เป็นช่วงที่มรสุมความสับสนของชีวิตประดังเข้ามาไม่หยุด ทั้งการเลือกเรียนในคณะต่างๆ หลายคนเองก็อาจจะมีประสบการณ์คล้ายๆกันคือ อยากเรียนอย่างหนึ่ง แต่พ่อแม่ หรือผู้ปกครองอยากให้เรียนสายอื่นที่คิดว่ามันจะดีสำหรับเรา หรือแม้แต่เรียนจบไปแล้ว ไปสมัครสอบงาน ก็ยังรู้สึกสับสนและลังเลว่าจะเลือกทำงานที่ไหนดี เพราะที่ไหนก็เหมือนจะดีเท่าๆกัน ถ้าเราไม่เชื่อใจตัวเอง ไม่กล้าที่จะเลือกหรือตัดสินใจ แบบนี้จะอันตรายมากค่ะ ถ้าจะเลือกอะไรสักอย่างต้องมีความเด็ดขาดในใจ เพราะฉะนั้น การคิดเยอะๆ คิดทบทวนกับตัวเอง จึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุด อย่ามัวแต่ฟังคำพูดของคนอื่นมากเกินไป คือรับฟังได้นะคะ แต่ไม่ควรตัดสินใจเพียงเพื่อให้คนอื่นพอใจ โดยละเลยเสียงของใจตัวเอง จริงค่ะที่ว่าคนเป็นพ่อแม่ ท่านจะแนะนำลูกตามประสบการณ์ที่ท่านได้เจอมาด้วยความห่วงใย
แต่อย่าลืมค่ะว่า ชีวิตนั้นเป็นของเราเอง เราต้องเชื่อมั่นในความสามารถของตนเอง ว่าเราทำได้ คนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ เขาจะไม่ห่วงหน้าพะวงหลัง พวกเขาคิดแค่ว่า ฉันมีเป้าหมาย ฉันมีการวางแผนที่ดี 1 2 3 4 ฉันเห็นถึงข้อดีและข้อเสีย และฉันคิดว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ฉันจะรับผิดชอบมันด้วยตัวของฉันเอง และจะทำมันออกมาให้ดีที่สุด ต้องแบบนี้ หากการตัดสินใจที่เป็นของเราเอง เรายังลังเลที่จะเลือกหรือตัดสินใจเองไม่ได้ คิดดูแล้วกันค่ะว่า อนาคตก็คงไม่ต่างจากตอนนี้หรอก ถ้าใครที่มีนิสัยประมาณนี้ แล้วอยากประสบความสำเร็จ บอกเลยว่า ต้องรีบแล้วค่ะ รีบเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ได้ ก่อนที่จะสายไป
นี่ก็เป็นเพียงแนวคิดเคล็ดลับตัวอย่างเล็กๆน้อยๆ ที่เรานำมาฝากกันนะคะ สำหรับคนช่วง 20 นั้น ยังต้องเจอ บททดสอบอีกเยอะค่ะ แต่เชื่อเถอะว่าบททดสอบเหล่านั้น จะทำให้คนหนุ่มสาวได้เรียนรู้ เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้ใหญ่อย่างเต็มตัว เมื่อวันนั้นมาถึงเราจะรู้ว่า ที่ผ่านมามันแค่เสี้ยวเดียวของชีวิต ยังมีอะไรที่รอคุณอยู่ข้างหน้า เตรียมรับมือไว้ให้ดี ถ้าอยากประสบความสำเร็จในชีวิต อย่าลืมเอาเทคนิคดีดีไปใช้กันนะคะ ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ.