ปัจจุบันนี้ไม่ว่าจะหันไปทางไหน ก็พบกับผู้คนที่รู้จักการวางแผนการใช้เงิน การลงทุนเพื่อการต่อยอดของการออมกันมากมายเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคนรอบข้าง หรือว่าจะเป็นเหล่าคนดัง ดารานักร้อง หรือแม้แต่กระทั่งนักการเมืองนั่นเอง
จะสังเกตได้เลยว่าเขาได้นำเงินเก็บมาเพื่อทำการต่อยอด เพิ่มมูลค่า หรือทำการออมเพื่อใช้จ่ายในอนาคตนั่นเอง ทั้งนี้เป็นเพราะว่าสาเหตุต้นมาจากระบบเศรษฐกิจที่ไม่แน่ไม่นอน หรือว่าจะเป็นการออมเพื่อเป็นการลงทุน หรือทำกิจการเพื่อที่จะเพิ่มความมั่นคงทางการเงินของตัวเองให้มากขึ้น เพื่อที่อนาคตวันข้างหน้าจะได้มีเงินทุนสำรองเพื่อที่จะใช้จ่ายกันนั่นเอง
จะดีแค่ไหนหากเรามีเงินใช้จ่ายแบบสบายๆ มีเงินในบัญชีเยอะแยะ วิธีออมเงิน จากหลักพันให้เป็นหลักล้านทำอย่างไร และเป็นไปได้จริงหรือไม่ที่เงินหลักพันจะกลายเป็นหลักล้านด้วยวิธีการเพียงแค่ 3 วิธี
ทุกข้อสงสัย การออมเงินเป็นหนึ่งในวิธีการที่ทำให้เรามีสถานะทางการเงินที่มั่นคงและเป็นหลักประกันในการใช้จ่ายในอนาคต และยังเป็นวิธีที่จะทำให้ เงินของเรางอกเงย ได้อีกด้วย จากการที่เรานำเงินไปฝากกับธนาคารที่ให้ดอกเบี้ยสูง แต่ลองคิดดูว่ากว่าที่เงินเราจะงอกเงยได้ถึงจุดที่เรียกได้ว่า มั่งคั่ง ก็ต้องใช้เวลานาน หรือแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยกับการหวังผลตอบแทนจากการฝากเงิน ถ้าเราไม่ได้มีเงินได้มากขนาดตัวเลขถึงหลักล้านขึ้นไป
แล้วเราจะมี วิธีออมเงิน อย่างไรให้ได้รับผลประโยชน์สูงที่สุด ในกรณีเรามีเงินอยู่ในมือเพียงแค่หลักพันบาท เกี่ยวกับการออมเงินจากหลักพันสู่หลักล้าน งั้นเราไปพบกับ 3 วิธีการออมเงินจากหลักพันให้เป็นหลักล้านกันเลย
ออมเงินก่อนใช้
ไม่ว่าคุณจะมีรายได้เท่าใด สิ่งแรกที่จะนำไปสู่ความมั่งคั่ง เพราะหากใช้เงินแล้วค่อยออม รับรองว่าส่วนใหญ่จะใช้จนหมด ไม่เหลือออมแน่นอน ฉะนั้นเมื่อได้เงินเดือนควรเก็บเป็นเงินออมเสียก่อน เหลือเท่าไรค่อยใช้เท่านั้น แบ่งเก็บแบ่งไว้ใช้ให้ชัดเจน
ออม 1 ใน 4 ของเงินได้
สิ่งที่ต้องทำคือควรออมเงินอย่างน้อย 1 ใน 4 ของเงินเดือน หากทำงานไปสักระยะเงินเดือนสูงขึ้น สัดส่วนการออมก็ต้องสูงขึ้นตามด้วย นอกจากการออมเงินด้วยการฝากธนาคารคุณอาจออมเงินในรูปแบบของการซื้ออสังหาริมทรัพย์ เช่น คอนโดทำเลดีที่มีราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท
ออมพร้อมการลงทุน
การซื้อกองทุนรวมตราสารหนี้ระยะสั้น ที่มีความเสี่ยงต่ำ สำหรับข้อดี จะได้ผลตอบแทนมากกว่าฝากเงินธนาคาร และไม่ต้องเสียภาษี แต่จะมีข้อเสีย ดังนี้หากต้องการใช้เงิน ไม่สามารถถอนเงินได้ทันที จะต้องขายหน่วยลงทุนก่อนได้เงินในวันรุ่งขึ้น และกำหนดจำนวนเงินชั้นต่ำในการซื้อกองทุน เงินที่ได้รับคือ ราคา NAV (มูลค่าสินทรัพย์สุทธิต่อหน่วยลงทุนของวันนั้น)
การฝากบัญชี ข้อดีคือฝาก-ถอนเมื่อใดก็ได้ ไม่มีชั้นต่ำในการฝากเงิน ข้อเสียคือดอกเบี้ยไม่สูง และต้องเสียภาษี 15 เปอร์เซ็นต์ในกรณีที่ได้รับดอกเบี้ยมากกว่าปีละ 20,000 บาท ที่มาของดอกผลจากการลงทุน… ปีละ 3-3.5%
เลือกลงทุนในกองทุนตราสารหนี้แบบไม่ปันผล มีความเสี่ยง 20 เปอร์เซ็นต์ ได้แก่ พันธบัตรรัฐบาล ตั๋วเงินคลัง หุ้นกู้ ปีละ 5-7% เลือกกองทุนในกองทุนอลังหาริมทรัพย์ ซึ่งมี 2 รูปแบบ คือ
- แบบ Lease Hold ลงทุนแบบเซ้งระยะยาว 30 ปี ผลตอบแทนระยะแรกสูง แต่ราคาจะตกลงเรื่อย ๆ เมื่อใกล้ครบกำหนดขาย
- แบบ Free Hold ลงทุนแบบซื้อขาด ผลตอบแทนระยะแรกไม่ค่อยสูง แต่จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อใกล้ครบกำหนดขาย เพราะราคาที่ดินปรับขึ้นทุกป ปีละ 18-20%
เลือกลงทุนในกองทุนตราสารทุน (กองทุนหุ้น) มีความเสี่ยง 60-70 เปอร์เซ็นต์ แต่ให้ผลตอบแทนสูง “ยิ่งออมเร็ว ยิ่งรวยเร็ว ยิ่งสบายเร็ว”
นอกจากรู้วิธีการออมเงินแล้วควรมีวินัยในการออมเป็นระบบทำให้เราเห็นภาพของเม็ดเงินในอนาคตได้ชัดเจนมากขึ้น
ยิ่งถ้าเราสามารถบริหารจัดการค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนได้ และให้ความสำคัญเฉพาะรายจ่ายที่จำเป็นและตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป ก็จะยิ่งทำให้เรามีเงินเหลือเก็บในแต่ละเดือนมากขึ้นและขยับเข้าใกล้คำว่า มั่งคั่ง ได้เร็วขึ้นนะคะ
ควรรู้จักการประหยัดอดออมเพราะจะทำให้เรารู้ค่าของเงินมากขึ้น ถ้าเราเพิ่มทางเลือกในการออมให้หลากหลายเพื่อให้เงินของเรางอกเงยเป็นหลายแสนหลายล้าน ลองนำไปปรับใช้กับการออมในชีวิตประจำวัน แล้วจะรู้ว่าการมีเงินล้านไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิดอีกต่อไป
การออมเงิน หรือการเก็บเงินเพื่ออนาคตวันข้างหน้านี้จะสามารถทำให้เรามีความมั่นใจ และความมั่นคงทางระบบการเงินเป็นอย่างมากเลยทีเดียว เพราะหากคุณได้ใช้เงินอย่างสิ้นเปลือง ดำเนินชีวิตอยู่บนความหวาดระแวง หรือไม่มีความมั่นคงทางการเงินเสียแล้ว ชีวิตคุณจะเกิดความสุขเพียงชั่วครั้งชั่วคราวเพียงเท่านั้น และบอกได้เลยว่าเมื่อถึงเวลา หรือเหตุการณ์ได้เกิดขึ้นจริงๆคุณจะเกิดความเครียดจนเดินไม่ถูกเลยนั่นเอง ดังนั้นเป็นเรื่องที่ดีมากๆ ที่คุณได้ริเริ่มทำการออมวันนี้ มันไม่ใช่เรื่องที่สายเอาเสียเลยนั่นเองค่ะ