สมัยนี้มีพ่อค้าแม่ค้าหน้าใหม่เกิดขึ้นมาก ทำให้หลายๆคนอาจจะพบผู้ที่ไม่ประสงค์ดีที่แฝงตัวเข้ามาเพื่อหลอกเหยื่อให้หลงเชื่อจนเสียเงินเสียทองจำนวนเยอะขึ้นตามไปด้วย ตลอดระยะเวลาเกือบสิบปีที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า การซื้อขายสินค้าออนไลน์ได้รับความนิยมขึ้นอย่างมากเพราะสะดวก แค่ปลายนิ้วคลิก ไม่ต้องเสียเวลาไปเดินหาสินค้าที่ต้องการข้างนอก และยังประหยัดค่าเดินทางด้วย แต่อะไรที่มีข้อดี ก็ย่อมมีข้อเสียของมันเช่นกัน เพราะมีพวกมิจฉาชีพจำนวนมากใช้ช่องทางนี้ในการหลอกลวงผู้ซื้อให้จ่ายเงินค่าสินค้า แต่กลับไม่ส่งสินค้าให้ หรือได้รับสินค้าที่ไม่ได้สั่ง ทำให้ผู้ที่เป็นลูกค้าต้องเสียทั้งเงิน เสียทั้งความรู้สึก ซื้อของออนไลน์อย่างไรไม่ให้โดนหลอก!! | เดลินิวส์
ซื้อของทางเน็ต โดนหลอก ประเภทโอนเงินแล้วไม่ได้รับของหรือได้ของที่ต่ำกว่าคุณภาพ หรือที่แย่กว่านั้นก็คือ พอโอนตังค์ปุ๊บก็ติดต่อร้านค้าหรือคนขายไม่ได้อีกเลย ปิดเพจปิดร้านหนี จนหลาย ๆ คนเข็ดไม่กล้าซื้อของออนไลน์อีกเลย
3 วิธีเช็คลิสเว็บก่อนช้อป
1.ตรวจสอบเว็บไซต์ และความน่าเชื่อถือ
สังเกต https และ รูปกุญแจสีเขียวที่ link ในช่อง address bar ต้องมี s (security) ตามหลัง http ทุกครั้งในขั้นตอนการกรอกข้อมูลทางการเงินหรือให้ข้อมูลส่วนตัว เพราะเราจะได้มั่นใจได้ว่าข้อมูลที่เราให้ร้านค้านั้นถูกเข้ารหัสและปลอดภัย ตรวจสอบการจดทะเบียนร้านค้าที่กรมพัฒนาธุรกิจ กระทรวงพาณิชย์ ร้านค้าใดที่จดทะเบียนแล้วจะมีตราสัญลักษณ์ DBD โชว์ที่หน้าเว็บให้เรามั่นใจได้“ นอกจากนี้ยังสามารถลองตรวจสอบประวัติเว็บไซต์โดยไปตรวจสอบได้ที่ http://whois.instra.com/co.th หรือ https://www.thnic.co.th/en/whois/ คุณอาจจะไม่สามารถเห็นรายละเอียดของบริษัทที่จัดตั้งได้ แต่อาจจะสามารถเห็นข้อมูลของบริษัทได้
อย่าลืม เสิร์ช (search) อ่านรีวิวจากคนอื่น ๆ ที่เคยใช้บริการ ตรวจสอบรีวิวจากลูกค้าเพื่อดูว่าลูกค้าพูดถึงร้านนี้ว่าอย่างไรบ้าง อ่านความคิดเห็นของคนอื่นเพื่อประกอบการตัดสินใจ มีความโปร่งใสในการซื้อขาย การบริการ การส่งของมีปัญหาหรือไม่ อย่างไรก็สามารถเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจว่าร้านนี้น่าเชื่อถือแค่ไหนก่อนที่เราจะซื้อสินค้า เลือกจ่ายด้วยบัตรเครดิต การจ่ายด้วยบัตรเครดิตเป็นวิธีการจ่ายเงินที่ปลอดภัยที่สุดเพราะเราสามารถเชื่อมั่นได้ว่าร้านค้านั้น ๆ มีตัวตนจริง ๆ จากการเปิดให้บริการจ่ายเงินด้วยบัตรเครดิตร่วมกับธนาคารและอย่าลืมเก็บหลักฐานการโอนเงินไว้ด้วยทุกครั้ง“ พร้อมทั้งมีเงื่อนำจและนโยบายการใช้บริการอย่างชัดเจน เช่น นโยบายการเปลี่ยนคืนสินค้า นโยบายการคืนเงิน นโยบายการจัดการกรณีสินค้าชำรุดระหว่างการจัดส่ง ซึ่งแสดงถึงความจริงจังในการทำธุรกิจและการบริหารจัดการกับลูกค้า
2.สังเกตุการโต้ตอบและพูดคุยของแม่ค้าและลูกค้าท่านอื่นๆผ่านหน้าเว็ปบอร์ดหรือแฟนเพจของร้านค้า
บางร้านมีการโต้ตอบการพูดคุยกับลูกค้า การสอบถามราคา การแจ้งการโอนเงินผ่านหน้าเว็ปไซด์หรือแฟนเพจ การแจ้งการได้รับสินค้าของลูกค้าท่านอื่น สามารถสร้างความน่าเชื่อได้อีกระดับหนึ่งสำหรับลูกค้าหน้าใหม่อย่างเราที่ต้องการทราบว่าทางร้านมีการส่งสินค้าจริงหรือไม่ มีการรับการแจ้งเงินจริงหรือไม่ หากท่านเห็นข้อความเหล่านี้จำนวนมากหรือระดับที่น่าไว้วางใจ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่น่าสังเกต ในทางกลับกันร้านมิจฉาชีพบางร้านก็สามารถปลอมเฟสบุ๊คเป็นชื่อของลูกค้าและคอมเม้นต์ข้อความต่างๆเพื่อมาตบตาเหล่าบรรดาลูกค้าใหม่อย่างเรา ให้มองดูว่าร้านหน้าเชื่อถือได้ค่ะ ยังไงก็ต้องระวังอีกเช่นกัน
3.เก็บหลักฐานการสั่งซิ้อสินค้า
สิ่งสำคัญที่สุดเลยคือขอให้ผู้บริโภคเก็บข้อมูลทุกอย่างเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชน เลขที่บัญชี และข้อความสนทนาที่มีการพูดคุยถึงการติดต่อซื้อผลิตภัณฑ์ เพื่อให้สามารถติดตามทวงถามสินค้าได้ โดยสามารถนำสิ่งเหล่านี้มาเป็นหลักฐานดำเนินคดีฉ้อโกงได้ เมื่อไม่ได้รับสินค้าหรือถูกหลอกลวง