การออกมาทำธุรกิจส่วนตัวเป็นหนทางหนึ่งของความคิดหลายๆ คนที่อาจจะเบื่อการเป็นมนุษย์เงินเดือน ซึ่งนั่นเป็นความร่ำรวยแบบไม่หวือหวา แบบธรรมดามากเพราะเป็นการทำงานแลกกับเงินเดือน ชีวิตไม่ต้องมีความเสี่ยงอะไร ไม่ต้องลงทุนอะไรเพียงแค่ลงแรงกาย ลงมือทำและใช้สมองในการทำงาน ที่หลายๆ คนอาจจะเบื่อเพราะอยู่แต่ในออฟฟิศ ซึ่งจะว่าไปก็เป็นเพียงพนักงานกินเงินเดือนแต่ละเดือน ไม่มีลูกจ้าที่จะรวยได้มากไปกว่าการได้เงินเท่าๆ กันทุกเดือน กว่าจะรอได้โบนัสหรือเงินเดือนขึ้นก็ต้องจั้งหน้าตั้งตารอ หากเป็นระดับผู้บริหารก็ต้องเสี่ยงและสู้กับเป้าที่รอให้พุ่งสูงขึ้น หรือ ยอดขายที่ถูกเพิ่มมาให้ทุกปี จนกว่าคุณอาจจะทำไม่ไหวแล้วถูกเปลี่ยนตัว ต่างจากการเป็นเจ้าของธุรกิจต่างๆ ที่จะทำให้เห็นได้ว่าระบบการเงินย่อมมีขึ้นๆ ลงๆ ไม่คงที่อย่างแน่นอน แต่การที่จะทำให้ตัวเองรวยเร็วนั้น สามารถทำได้หลายวิธี โดยเฉพาะการสร้างรายให้รวยเร็วได้อย่างก้าวกระโดดแต่น้อยคนนะที่จะทำได้….
แม้จะหาเงินมาได้เท่าไหร่หากมีนิสัยการบริหารเงินที่ไม่ดี หรือมีเงินเท่าไหร่ก็เก็บเอาไว้ไม่อยู่ นั่นอาจเป็นเพราะไม่มีนิสัยการสร้างและการบริหารเงินที่ดี การจะเป็นเศรษฐีได้นั้นไม่ได้อยู่ที่ความเก่งเฉพาะแค่เรื่องการหาเงินเพียงอย่างเดียว
แต่จะต้องรู้จักวิธีบริหารเงินให้เก่งถึงจะเรียกว่าเป็นเศรษฐีอย่างแท้จริง เพราะความรวยไม่ได้มาจากโชคหรือโอกาส แต่มาจากนิสัยการบริหารเงินนั่นเอง
1.ตั้งเป้าหมาย
วิธีก้าวกระโดดของหลายๆ คนที่จะทำให้รวยได้เร็วก็คือ จะต้องมีเป้าหมายชัดเจน และสามารถวัดผลได้ การคาดหวังว่าคุณจะต้องมีเงิน 5 ล้านในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าในการสร้างรายได้ที่มาจากธุรกิจ อาจจะเป็นรูปแบบธุรกิจที่คุณทำอยู่ หรือ กำลังจะทำ หรือแม้แต่การออมเงิน ซึ่งไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม คุณจะต้องประกาศให้ตัวเองรับรู้ พร้อมกับหมั่นย้ำสิ่งที่คิดไว้เพื่อเตือนตัวเองให้ถึงเป้าหมายอย่างเป็นประจำสม่ำเสมอ ซึ่งไม่ว่าคุณจะทำอะไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือจะต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจนและเฉพาะเจาะจงเสียก่อน หากไม่มีเป้าหมายแล้วจะวางแผนการเดินทางได้อย่างไร แม้แต่เป้าหมายการสร้างความรวยก็เช่นกัน คนที่ร่ำรวยไม่ได้เกิดขึ้นเพราะความบังเอิญ และหลังจากที่คุณตั้งเป้าหมายแล้ว สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ ความมุ่งมั่นและเต็มที่ ซึ่งคุณจะต้องใช้พลังทั้งหมดทำทุกกสิ่งที่คุณจำเป็นจะต้องทำ และจะต้องไปให้ใกล้เป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ การเตือนตัวเองจากการสำรวจตัวเองว่าคุณทำอะไรไปแล้วบ้าง และสิ่งที่ทำไป ช่วยให้คุณเข้าใกล้เป้าหมายแค่ไหน หากไม่ได้ช่วยให้คุณเข้าใกล้เป้าหมายกว่าเดิม คุณยังจะทำอยู่ทำไม?
2.ใช้เงินให้น้อยกว่าที่หาได้
คนที่เป็นเศรษฐีส่วนใหญ่จะสร้างคุณค่าในการทำงานได้มากมายมหาศาลและมากกว่าคนทั่วไปถึง 2-3 เท่า ซึ่งนิสัยที่สำคัญสำหรับการเป็นเศรษฐีโดยทั่วไปที่เห็นคือ การใช้เงินน้อยกว่าที่หามาได้ ประมาณว่าหามาได้เท่าไรก็ใช้เท่านั้น แต่ สิ่งสำคัญก็คือการมีวินัยในการออมเงิน สำคัญที่สุด และไม่ใช่ว่าได้เงินมาเท่าไหร่ก็หน้าใหญ่ใช้เงินแบบไม่ยั้งคิด อะไรจำเป็นก็ค่อยซื้อ แต่อะไรแค่อยากได้แต่มันไม่จำเป็น ก็ไม่ต้องซื้อให้ใช้วิธีเดินดูไปก่อน และอย่ามือไวรูดบัตรเครดิตทันทีเพราะอย่าลืมว่าเงินที่อุตส่าห์หามาได้นั้นลำบากยากเย็นแค่ไหน แต่หากจะต้องมาหมดไปเพราะมือไวใจเร็วในการรูดบัตร คงจะทำให้เพลียจิตวันละหลายๆ รอบ นอกจากนี้การสร้างคุณค่าในการทำงาน ซึ่งเกิดขึ้นมาจากการใส่ใจในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นงานที่เล็กน้อยแค่ไหน หากคุณเห็นคุณค่าในงานชิ้นนั้นเมื่อทำแล้วก็ต้องทำให้ออกมาดีที่สุด ซึ่งอาจจะสร้างคุณค่าในตัวเองด้วยการลงทุนอย่างการศึกษาค้นคว้าหาความรู้ตลอดเวลาอีกด้วย
3.ไม่ท้อแท้และมีความกล้าเสี่ยง
ถ้าเกิดจากความเข้าใจอย่างถ่องแท้ ความเสี่ยงที่มีก็จะแตกต่างออกไป ซึ่งเศรษฐีส่วนใหญ่กล้าทำอะไรที่ไม่เหมือนคนอื่นๆ จนบางทีดูเหมือนคนบ้า สตีฟ จ๊อบส์สิ เคยโดนไล่ออกจากบริษัทที่ตัวเองก่อตั้งขึ้นมาแต่ก็โดนจ้างกลับมาทำงานใหม่ สุดท้ายก็ทำให้แอปเปิ้ลกลายเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ได้ เห็นได้ว่าความสำเร็จที่ได้จากความกล้าบ้าบิ่น ส่วนหนึ่งเกิดจากความเสี่ยง จึงทำให้มองเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการลงทุน ต้นทุน หรือ ความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้น หากความเสี่ยงอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ก็ลงมือทำดีกว่า แต่สิ่งสำคัญคือการไม่ท้อแท้ต่ออุปสรรคซึ่งความผิดพลาดถือเป็นบท เรียนเพราะไม่มีใครประสบความสำเร็จได้โดยที่ไม่เคยทำอะไรผิดพลาด แต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้วคุณได้เรียนรู้อะไรจากความผิดพลาดนี้ เมื่อได้คำตอบและบทเรียนแล้ว ก็อย่าทำพลาดซ้ำ ให้มุ่งไปที่เป้าหมายแล้วเดินต่อไป อย่าให้อะไรมาหยุดยั้งได้
คนเป็นเศรษฐีจะต้องสร้างเนื้อสร้างตัวมาตั้งแต่ต้นด้วยความเหน็ดเหนื่อยและยากลำบาก หลายคนอาจคิดว่าคนที่จะเป็นเศรษฐี จะต้องเอาเปรียบคนอื่น หรือเห็นแก่ตัว ซึ่งเมื่อมาถึงจุดที่ตัวเองเป็นเศรษฐีส่วนใหญ่มักจะเห็นคุณค่าในการสร้างผลประโยชน์และเห็นความสำคัญในการสร้างคุณค่าให้คนอื่นๆ ไม่ได้เป็นคนเห็นแก่ตัว แค่ไม่ยอมให้คนอื่นเอาเปรียบ บทเรียนสอนให้รู้ว่า การรู้จักไขว่คว้าโอกาสกับการมีทัศนคติที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญต่อเส้นทางการเป็นเศรษฐีมากที่สุด รวมทั้งการสร้างนิสัยที่ดี ที่เกิดขึ้นได้จากการฝึกฝนสามารถเริ่มทีละน้อยและต้องทำทุกวัน หากต้องการเป็นเศรษฐี มาเริ่มต้นสร้างนิสัยใหม่ๆกันดีกว่า