การเก็บ ออมเงิน ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นในปัจจุบัน เพราะไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินให้ใช้เงินขึ้นตอนไหน ทั้งสภาพเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน รวมไปถึงการงานที่ไม่รู้ว่ามั่นคงเพียงใด อย่างน้อยถ้ามีเงินสำรองไว้ก็อุ่นใจกว่า แต่ในบางครั้งพฤติกรรมการใช้จ่ายของตัวคุณเองกลับเป็นอุปสรรคในการเก็บเงินกันใช่ไหม
วันนี้เราเลยจะมาเปิดเผยพฤติกรรมการใช้เงินที่ทำให้ ไม่มีเงินเก็บ กัน ว่าการใช้จ่ายอย่างไรที่ทำให้เก็บเงินไม่ได้ซักที ถ้าใครมีลักษณะตรงกับข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้ให้รีบเปลี่ยนตัวเองด่วน เพราะถ้าคุณยังมีพฤติกรรมการใช้จ่ายแบบนี้ในอนาคตคุณอาจประสบกับความลำบากได้
1.ใช้บัตรเครดิตเพลินจนเกินงบ
จริงๆแล้วบัตรเครดิตมีประโยชน์ถ้าใช้เป็น สามารถอำนวยความสะดวกได้มาก นอกจากนี้ยังมีสิทธิพิเศษต่างๆมากมาย แต่ด้วยความที่ใช้ง่ายนี่เองที่ทำให้ใช้เพลินจนลืมนึกถึงความจำเป็น ซ้ำร้ายบางคนใช้แบบไม่คำนึงความสามารถในการชำระหนี้ คิดแบบง่ายๆว่าชำระขั้นต่ำเอา ยอมจ่ายดอกเบี้ยดีกว่าจ่ายเงินก้อน ซึ่งพฤติกรรมแบบนี้นอกจากจะทำให้ไม่มีเงินเก็บแล้ว ยังจะสร้างหนี้เพิ่มด้วย บัตรเครดิตนั้นเปรียบเสมือนดาบสองคม หากใช้เป็นก็เกิดประโยชน์ แต่ถ้าใช้ไม่เป็นก็ทำให้สถานะการเงินของเราแย่ลงได้เช่นกัน
บางคนใช้บัตรเครดิตรูดซื้อสินค้าตามใจ โดยไม่ได้คิดว่าเมื่อครบกำหนดชำระแล้วจะมีเงินจ่ายเต็มจำนวนหรือไม่ ซ้ำร้ายกว่านั้นคือ บางคนคิดว่าหากไม่มีเงินจ่ายเต็มจำนวนก็ไม่เป็นไร ใช้วิธีผ่อนจ่ายขั้นต่ำ 10% เอา ซึ่งเป็นวิธีคิดที่ผิด เพราะเท่ากับว่าเรายอมจ่ายดอกเบี้ยที่สูงถึง 20% ต่อปี นอกจากนี้ยังเพาะนิสัยสร้างหนี้ในภายหลังด้วย
2. เปลี่ยนนิสัยการใช้จ่าย เผื่อไปได้ไกลกว่าเดิม
หลายคนอาจจะใช้ชีวิตแบบตามใจฉัน หาเงินได้ก็ใช้เดือนชนเดือน อยากไปเที่ยวที่ไหนก็ไป อยากซื้ออะไรก็ซื้อ ซึ่งพูดกันตามความเป็นจริงแล้ว การหาความสุขใส่ตัวไม่ใช่เรื่องผิด ทุกคนมีสิทธิทำได้ทั้งนั้น แต่ถ้าเราลองแบ่งเงินที่ใช้ไปกับสิ่งที่ไม่จำเป็นนั้นเก็บไว้บ้าง ลดความถี่ในการทำกิจกรรมบันเทิงต่างๆลง ในระยะเวลาเพียงสามหรือสี่เดือนคุณจะเห็นเลยว่าสามารถเก็บเงินก้อนได้
3. ใช้เงินเกินตัว
ในบางครั้งการซื้อข้าวของให้ตัวเองก็เป็นรางวัลในการทำงานที่ดี แต่ถ้าซื้อเพราะความอยากได้เพียงชั่วครู่นั้นจะตอบสนองความพึงพอใจของตนเองได้เพียงชั่วคราว เมื่อเห็นของใหม่ก็อยากได้อีกแล้ว เนื่องจากความอยากนั้นไม่มีที่สิ้นสุด และไม่มีใครหยุดพฤติกรรมนั้นได้นอกจากตัวเราเอง นอกจากนี้สังคมในปัจจุบันให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ภายนอก ความอยากได้ อยากมี อยากใช้ของแพง กินของแพงๆ เพื่อยกระดับตัวเองในการเข้าสังคม ส่งผลให้ต้องใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือยเกินฐานะ เพื่อยกระดับตัวเองให้ทัดเทียมคนอื่น
พฤติกรรมเหล่านี้นี่เองที่เป็นตัวผลาญเงินในกระเป๋าอย่างดีเลยเชียวล่ะ และเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เราไม่มีเงินเก็บซักที ลองหาวิธีลดค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยในส่วนนี้ลง และพยายามใช้จ่ายเงินให้เหมาะสมกับรายได้ ก็จะช่วยให้เรามีเงินออมได้ไม่ยาก
4. ใช้เงินไปเรื่อยๆ
โดยเฉพาะคนที่ยังขอเงินจากพ่อแม่อยู่ มักจะใช้เงินโดยไม่วางแผนก่อน อยากได้อะไรก็ซื้อ เงินหมดก็ขอใหม่ จริงอยู่ว่าพ่อแม่นั้นอาจจะให้เงินทุกครั้งที่ขอ แต่จะดีกว่ากันมั้ย ถ้าเราบริการเงินที่ได้รับให้เพียงพอ เพื่อจะได้ไม่เป็นภาระเพิ่มกับพ่อแม่ ลองแบ่งเงินค่าใช้จ่ายเป็นส่วนๆดู ทั้งค่ากิน ค่าเดินทาง อาจจะกันเงินไว้ส่วนนึงเพื่อความบันเทิง หรือซื้อของที่อยากได้ เงินที่เหลือก็เก็บออมไว้
ถ้าทำได้ดังนี้ นอกจากจะเป็นการสร้างวินัยทางการเงินแล้ว ยังทำให้เรามีเงินเก็บอีกด้วย หากเรามีเป้าหมายในการเก็บเงิน เช่น ตั้งใจจะเก็บเงินจำนวน 100,000 บาท เพื่อเรียนต่อปริญญาโทในอีก 2 ปีข้างหน้า คราวนี้เราก็จะมีเป้าหมายในการเก็บเงิน รู้แล้วว่าจะต้องเก็บเงินไปเพื่ออะไร ทำให้มีแรงจูงใจเพิ่มขึ้น และสามารถคำนวณได้ว่าต้องเก็บเงินเดือนละเท่าไรจึงจะเพียงพอต่อการเรียนต่อตามที่ตั้งใจไว้
ทั้ง 4 ข้อที่กล่าวมานั้นถือเป็นพฤติกรรมที่ค่อนข้างเสี่ยงและควรเปลี่ยนให้ได้ ยิ่งเร็วเท่าไหร่ยิ่งหมายถึงการมีเงินเก็บเร็วขึ้นเท่านั้น และหากต้องการให้รางวัลกับตัวเองสักอย่างหนึ่ง ในช่วงสิ้นปีอาจจะแบ่งเงินส่วนหนึ่งจากเงินเก็บ มาซื้อของที่ตัวเองอยากได้ซักชิ้นเพื่อให้รางวัลกับตัวเอง ไม่แน่ว่าเมื่อถึงเวลานั้นคุณอาจจะรู้สึกเสียดาย ไม่อยากใช้เงินที่พากเพียรเก็บมาแล้วก็เป็นได้
