ในปัจจุบันนี้ ทุกครั้งที่เราจะ สร้างธุรกิจ สักธุรกิจหนึ่งเป็นเจ้าของกิจการสักอย่างหนึ่งนั้น เราทุกคนล้วนอยากให้สิ่งนั้นเติบโตประสบความสำเร็จ มีรายรับเข้ามามากมายซื้อขายกันไม่หวาดไม่ไหว ธุรกิจหรือการเป็นเจ้าของกิจการสักอย่างหนึ่งนั้นใครๆก็เป็นได้แต่การที่รักษาธุรกิจของตัวเองหรือการรักษากิจการที่ตัวเองเป็นเจ้าของนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย
และที่สำคัญ การพัฒนาธุรกิจหรือกิจการของตัวเองให้เติบโตสม่ำเสมอหรือเติบโตแบบก้าวกระโดดนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายยิ่งกว่า ในทุกๆวันนี้มีสื่อต่างๆและสิ่งพิมพ์อีกมากมายที่กล่าวถึงวิธีที่ทำให้ประสบความสำเร็จ แต่ในบรรดาสิ่งที่มากมายเหล่านั้นมักมีหัวข้อหรือสิ่งบางสิ่งที่คล้ายๆกันอยู่ ซึ่งเป็นสิ่งพื้นฐานเลยก็ว่าได้ในการช่วยให้ประสบความสำเร็จ เรานั้นจะสังเกตเห็นหรือปล่อยผ่านเลยไปก็อย่าแปลกใจเป็นเรื่องปกติ เหล่าบรรดานักธุรกิจหน้าใหม่ที่อยากเป็นนักธุรกิจขั้นเทพนั้น ล้วนอาจจะผ่านตาหนังสือเหล่านั้นมาไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ในบทความนี้จะกล่าวถึงสี่วิธีสร้างนักธุรกิจขั้นเทพคือ
1. วิเคราะห์ธุรกิจหรือกิจการที่เราดูแลอยู่
การวิเคราะห์ธุรกิจที่เราดูแลหรือกิจการที่เราเป็นเจ้าของอยู่นั้น นับง่าเป็นปัจจัยพื้นฐานเลยก็ว่าได้ เพราะเราจะได้รู้ถึงศักยภาพของสิ่งที่เราดูแล วิเคราะห์สิ่งต่างๆ วิเคราะห์ถึงจุดเด่นของของสิ่งที่เราทำเพื่อที่จะพัฒนาให้เป็นจุดเด่นที่สำคัญในการใช้ทำเงินหรือใช้ดึงดูดลูกค้าผู้บริโภคต่างๆ วิเคราะห์ถึงจุดด้อยของสิ่งที่เรามีเพื่อที่จะพัฒนาถึงจุดนั้นให้น้อยลงหรือเพื่อที่เราจะได้พัฒนาจุดเด่นให้มากขึ้นเพื่อปกปิดจุดด้อยหรือทำให้จุดด้อยนั้นดูเป็นสิ่งที่น้อยนิดเมื่อเทียบกับจุดเด่น
วิเคราะห์หาโอกาสเพื่อที่จะพัฒนาบริษัทหรือกิจการที่เราเป็นเจ้าของให้พัฒนาไปในทิศทางที่เราต้องการและวางแผนให้พัฒนาไปในทิศทางที่เรากำหนด และวิเคราะห์อุปสรรคเพื่อที่จะวางแผนรับมือกับเหตการณ์ต่างๆที่จะเข้ามาในอนาคต ไม่ให้บริษัทของตัวเองนั้นเกิดปัญหาได้ วิเคราะห์ลูกค้าว่ามีความต้องการแบบใด ต้องการอย่างไหน เพื่อที่จะได้ปรับปรุงสินค้าหรือบริการของเราให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า
2. ออกพบปะผู้อื่นเพื่อคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์เกี่ยวกับธุรกิจ
มนุษย์เป็นสัตว์สังคม ย่อมต้องมีการพบปะพูดคุยเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ต่างๆ เราจะได้เรียนรู้วิธีการสร้างธุรกิจหรือบริษัทจากคนอื่นด้วย และที่สำคัญเราจะได้ทำความรู้จักเจ้าของธุรกิจหรือเจ้าของกิจการใหม่ๆ สร้างความสนิทสนมและจะได้ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน การพบปะพูดคุยเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์เกี่ยวกับธุรกิจนั้นจะทำให้เราได้ฟังความคิดเห็น ข้อคิดเห็นของนักธุรกิจคนอื่นๆและเราสามารถนำไปพัฒนาบริษัทหรือกิจการของตัวเองได้ ที่สำคัญการพบปะพูดคุยกับคนที่มีความรู้เหล่านั้น จะทำให้เรานั้นสามารถจดจำและพัฒนาข้อมูลข่าวสารที่เราต้องการรู้ได้ไวมากกว่าการอ่านสิ่งที่เรานั้นอยากรู้อะไรสักอย่าง ได้เห็นการแสดงออกต่างๆ ได้ซึมซับความรู้สึกจากพวกเขาเหล่านั้น
3. เรียนรู้จากนักธุรกิจรุ่นใหญ่ที่ประสบความสำเร็จ
การเรียนรู้จากนักธุรกิจรุ่นใหญ่ที่ประสบความสำเร็จนับเป็นอีกวิธีหนึ่งที่หลายต่อหลายคนใช้กันมากที่สุด อาจจะเรียกได้ว่าเป็นทางลัดของการประสบความสำเร็จหรือเป็นตัวอย่างในการสร้างบริษัทหรือกิจการต่างๆ นักธุรกิจรุ่นใหญ่ที่ประสบความสำเร็จต่างๆเหล่านี้ หลายคนมักมีเทคนิคบางอย่างที่ซ่อนไว้อย่างที่เราคาดไม่ถึง มีวิธีการแก้ปัญหาที่ชาญฉลาด เราสามารถ ล้มเหลวมานับครั้งไม่ถ้วนก่อนที่จะประสบความสำเร็จ ทำให้เรานั้นสามารถเรียนรู้สิ่งต่างๆเหล่านั้นจากพวกเขา เรียนรู้วิธีการรับมือกับปัญหาระบบเศรษฐกิจต่างๆ เรียนรู้วิธีการแก้ปัญหากับปัญหาต่างๆที่เจ้ามา เรียนรู้วิธีบริหารคนจากพวกเขาเหล่านั้น เรียนรู้การพัฒนาธุรกิจหรือกิจการของตัวเองให้ประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว เป็นทางลัดที่เหล่านักธุรกิจหน้าใหม่หรือเจ้าของกิจการเล็กๆควรเรียนรู้และศึกษาไว้
4. วางแผนระยะยาว
นับเป็นสิ่งหนึ่งที่สำคัญมากเป็นลำดับต้นๆเลยก็ว่าได้ การวางแผนระยะยาวจะเป็นสิ่งที่ทำให้เรานั้นมองบริษัท มองกิจการของตัวเองในรูปแบบไหน มองเห็นทัศนคติของผู้บริหารต่างๆว่า สามารถวางเป้าหมายให้บริษัทหรือกิจการนั้นเติบโตได้ขนาดไหน มีหลายกิจการที่มองเพียงเดือนหน้าปีหน้า แต่น้อยบริษัทหรือน้อยกิจการนักที่จะมองถึงสามถึงสี่ปีข้างหน้าว่าจะให้บริษัทหรือกิจการของตัวเองนั้นเติบโตขนาดไหนไม่ใช่โชคชะตากำหนดอย่างที่ใครหลายๆคนนั้นเคยคิดไว้ ซึ่งการที่เรามองและวางแผนในการพัฒนาบริษัทให้เติบโตและมั่นคงในระยะยาวนั้นเป็นการสะท้อนถึงทัศนคติของผู้บริหารและทำให้ลูกทีมหรือพนักงานในบริษัทนั้นรู้สึกเติบโตและมั่นคง มากกว่าการที่ทำงานวันต่อวันหรือทำงานแบบไร้เป้าหมาย
ซึ่งเมื่อเรานั้นได้วางแผนระยะยาวจะทำให้เราเริ่มปรับโครงสร้างให้เหมือนสิ่งที่ฝันไว้ และที่สำคัญคือเราไม่ต้องกลัวว่าสิ่งที่เราคิด สิ่งที่เราวาดฝันว่าบริษัทจะใหญ่โตมากมาย กิจการจะเจริญรุ่งเรืองมีเป็นร้อยๆสาขานั้นว่าเป็นเรื่องเพ้อฝัน เพราะในปัจจุบันทุกวันนี้สิ่งต่างๆที่เติบโตล้วนมาจากทัศนคติคิดบวก มาจากสิ่งที่คิดว่าอยากให้ธุรกิจหรือกิจการต่างๆของตัวเองนั้นเติบโต นักธุรกิจต่างๆที่ประสบความสำเร็จและมีกินการมีธุรกิจที่ใหญ่โตจึงไม่กลัวการที่จะวาดฝันไว้
จากที่ได้กล่าวไปสี่หัวข้อนั้น ล้วนเป็นสิ่งพื้นฐานที่นักธุรกิจหน้าใหม่นั้นต้องมีและปฏิบัติตามเพื่อธุรกิจที่เจริญเติบโตก้าวหน้า
แต่ถึงแม้ว่าเราจะถามตามสี่หัวข้อนี้แต่ถ้าเราไม่หมั่นหาความรู้ใส่ตัวและศึกษาปัจจัยอื่นๆที่ช่วยให้ประสบความสำเร็จแล้ว โอกาสที่ธุรกิจหรือกิจการของตัวเองนั้นจะไม่ก้าวหน้าหรือล้มเหลวก็ไม่ยากเช่นกัน ด้วยทุกวันนี้เป็นยุคของข่าวสารที่สะดวก เราจึงควรเรียนรู้สิ่งต่างๆอยู่เสมอ