การอ่านหนังสือไม่เพียงจะช่วยให้คุณได้ค้นพบเรื่องราวใหม่ ๆ ที่น่าสนใจเท่านั้น แต่หนังสือยังทำหน้าที่เหมือนตะเกียงที่ส่องทางเดินให้กับผู้อ่านได้นำไปใช้เป็นแนวทางดำเนินชีวิตและเปลี่ยนแนวคิดใหม่ ๆ ได้อีกด้วย เพราะถ้าเราทำทุกอย่างแบบเดิม แก้ไขปัญหาในวิธีเดิม ๆ ที่ไม่เคยแก้ตกได้สักที ชีวิตและปัญหาซ้ำซากก็จะวนไปมาอยู่แบบนั้น ทำไมไม่ลองเปลี่ยนชีวิตด้วยการเริ่มอ่านหนังสือดี ๆ สักเล่มที่จะช่วยเปิดเส้นทางพัฒนาตนเองให้กับคุณ ผ่านมุมมองที่คาดไม่ถึงจนคุณวางจะวางไม่ลงถ้ายังอ่านไม่จบเลยทีเดียว
พัฒนาตนเองด้วยเทคนิคตั้งคำถามกับชีวิต :
คุณเคยสะดุดความคิดกับคำถามที่ลอยเข้าหูบ้างหรือไม่ บางครั้งเวลาที่เจอกับปัญหาเราต่างมัวงมหาคำตอบที่จะแก้ไข แต่กลับไม่เคยได้ตั้งคำถามต่อปัญหาตรงหน้าดูบ้างเลย ทั้ง ๆ ที่ คำถามอาจจะฉุกให้ผู้อ่านแก้ปัญหานั้นได้ง่ายขึ้น พร้อม ๆ กับสามารถสร้างไอเดียใหม่ ๆ ขึ้นมาด้วย โดย Andrew Sobel และ Jerold Panas ผู้เขียนหนังสือ Power of Question หรือ คำถามฉุกคิด เปลี่ยนชีวิตทั้งคนถามและคนตอบ ซึ่งในแต่ละช่วงของหนังสือผู้เขียนได้สอดแทรกตัวอย่างของคำถามในสถานการณ์ต่าง ๆ ให้ผู้อ่านได้ลองคิดและตั้งคำถามกับชีวิตที่ผ่านมาของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นคำถามเกี่ยวกับความฝันอย่างเช่น มีความฝันใดอีกที่คุณยังไม่ได้ทำให้เป็นจริงบ้าง หรือ ความปราถนาสูงสุดในอาชีพของคุณคืออะไร และคำถามที่จะทำให้คุณจุกไปกับการค้นหาตัวเองว่าจริง ๆ แล้วคุณต้องการอะไรมากกว่ากัน เช่น ถ้าต้องเขียนคำอาลัยชีวิตของตัวเองในงานศพหลังจากที่จากโลกนี้ไป คุณอยากเขียนถึงตัวคุณและชีวิตที่ผ่านมาว่าอย่างไร รับรองว่าอ่านจบคุณจะมีไฟในการลองทำบางสิ่งที่ยังไม่เคยกล้าลงมือทำอย่างแน่นอน
เติมทักษะการบริหารเงินเพื่อความมั่งคั่ง :
สำหรับผู้อ่านที่มองหาสูตรการบริหารเงินที่อ่านง่ายและทำตามได้ไม่ยาก หนังสือชื่อดังที่ได้รับการแปลในหลาย ๆ ภาษาทั่วโลกอย่างพ่อรวยสอนลูก หรือ Rich Dad Poor Dad ของผู้เขียน Robert T.Kiyosaki และ Sharon L. Lechter จะทำให้ผู้อ่านเข้าใจเทคนิคความคิดเรื่องเงินที่ต่างกันระหว่างคนธรรมดาและคนรวย ในขณะที่คนธรรมดาคิดว่าทำไมถึงไม่รวยขึ้นสักที แต่คนรวยจะมองหาโอกาสเพิ่มเงินในบัญชีให้สูงขึ้น แต่เหนื่อยน้อยลง เพื่อให้ถึงจุดที่มีอิสรภาพทางการเงิน คือ ไม่ต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำ แต่เงินในบัญชีก็งอกเงย ที่สำคัญ หนังสือเล่นนี้จะเปิดมุมมองความคิดและเติมพลังให้กับคุณผ่านคำถามของพ่อรวยและพ่อจน เช่น พ่อจนอาจจะบอกกับลูกว่าเราไม่มีทางซื้อของชิ้นนี้ได้หรอก แต่พ่อรวยจะบอกกับคุณว่า เราจะทำอย่างไรให้ได้สิ่งนั้นมา นี่แหละสูตรการพัฒนาตนเองที่คุณจะวางไม่ลง
ปลุกความกล้าและหาแรงบันดาลใจ :
คุณคิดว่าตอนที่มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก และบิล เกตส์ ต้องเลือกระหว่างเรียนที่ฮาร์วาร์ดให้จบกับออกมาลุยสร้างบริษัทที่เห็นลู่ทางทำกำไรเบื้องหน้า เขาคิดอะไรกันอยู่และอะไรเป็นตัวการผลักดันให้เขาทั้งคู่กล้าคิดต่างและลงมือทำในสิ่งที่เสี่ยงตรงหน้า หนังสือแนะนำเพื่อปลุกความกล้าในตัวคุณให้ลงมือเปลี่ยนแปลงชีวิตอย่าง ใครเอาเนยแข็งของฉันไปหรือ Who Moved My Cheese? เป็นอีกหนึ่งเล่มที่อ่านง่ายและได้รับความนิยมสูงมากตั้งแต่ 10 กว่าปีที่แล้ว ด้วยยอดขายสูงกว่า 10 ล้านเล่ม และได้รับการแปลเป็นภาษาต่าง ๆ กว่า 40 ภาษาทั่วโลก โดยผู้เขียน Spencer Johnson, M.D. เลือกบอกเล่าและสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อ่านผ่านตัวละครทั้ง 4 คือ มนุษย์ตัวจิ๋ว 2 คนและหนูอีก 2 ตัว ซึ่งต่างก็มีเป้าหมายเดียวกันคือหาเนยแข็งที่อุปมาว่าเป็นเป้าหมายต่าง ๆ ของชีวิตหรือความฝัน เมื่อหนูและมนุษย์จิ๋วต่างก็เจอเนยแข็งที่ตามหาและมองว่าน่าจะพอกินไปตลอดชีวิต แต่แล้ววันหนึ่งกลับพบว่าเนยแข็งของตนหายไป เขาจะทำอย่างไร จะรับกับความเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่ เช่นเดียวกันกับธรรมชาติของคนเรา ไม่มีใครไม่กลัวการเปลี่ยนแปลง แต่ไม่มีใครห้ามหรือหยุดการเปลี่ยนแปลงของทุกอย่างรอบตัวได้ ความมั่นคงในงานที่ทำอยู่ก็ไม่มีอะไรมารองรับว่าจะเป็นแบบนั้นถาวรตลอดไปจริงไหม อย่าชะล่าใจว่าทุกอย่างจะเหมือนเดิม เรียนรู้ที่จะก้าวให้ทันและพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงผ่านการอ่านหนังสือเล่มนี้ที่คุณจะวางไม่ลงอีกเล่มเช่นกัน
ฝึกนิสัยนักปฏิบัติจากการลงมือทำ :
งานเยอะไม่ใช่ปัญหา แต่การลำดับงานที่ต้องทำไม่เป็นต่างหากที่จะทำให้ชีวิตของคุณมีปัญหา ยุ่งเหยิงและไปไม่ถึงฝั่งความสำเร็จสักที สำหรับผู้ที่อยากลุยงานและสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หนังสือน่าอ่านอย่าง “กินกบตัวนั้นซะ” หรือ Eat That Frog! ของผู้เขียน Brian Tray จะมากระตุ้นให้ผู้อ่านเลิกนิสัยผัดวันประกันพรุ่งและลงมือทำงานทันทีตามลำดับความสำคัญ โดยเขาเลือกแทนที่ “กบ” เหมือนกับงานที่มีความสำคัญและยิ่งใหญ่ ดังนั้น ถ้าผู้อ่านสามารถกินกับตัวนั้นซะหรือก็คือจับงานใหญ่สำคัญ ๆ ได้ก่อนที่จะทำงานลำดับรอง ๆ ต่อไป ก็จะทำให้ผู้อ่านสามารถพัฒนาตนเองสู่การทำงานที่มีประสิทธิภาพได้แน่นอน จึงเป็นหนังสือแนะนำที่สามารถปฏิบัติตามได้จริงอีกเล่มที่คุณจะวางไม่ลง
รู้หรือไม่ว่าสูตรลับความสำเร็จของมหาเศรษฐีระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นบิล เกตส์, วอร์เรน บัฟเฟตต์, ลีกาซิง หรือ แจ็ค หม่า ต่างก็มีพื้นฐานอย่างหนึ่งที่เหมือนกัน นั่นก็คือ ความเป็นคนรักการอ่านและพวกเขาก็จะอ่านหนังสือทุกวันก่อนนอน เพื่อเติมไฟให้กับความคิดเสมอ แล้วคุณหล่ะ รออะไร ถ้าไม่เปลี่ยนตั้งแต่วันนี้ วันพรุ่งนี้ก็ยังเหมือนเดิม จริงไหม