ก่อนที่จะใช้เงินเพื่อลงทุน คุณจะต้องทำการหาข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจ ซึ่งบางครั้งหลากหลายข้อมูลที่ได้มันอาจจะพบเห็นมาก หรือเป็นคำกล่าวต่อๆ กัน จนทำให้เกิดกลายเป็นความเชื่อในที่สุด แม้ว่าจะหาต้นตอของจุดเริ่มต้นหรือที่มาของความเชื่อเหล่านั้นไม่ได้ แต่คุณก็สามารถที่จะพิจารณาจากความเข้าใจผิดๆ เพื่อไม่ให้เกิดความผิด พลาดลงทุน ได้เช่นกัน เพียงแต่ว่าจะต้องหาข้อมูลเพื่อมาอ้างอิง เพื่อทำให้การลงทุนนั้นถูกต้อง ลองเปลี่ยนความคิดใหม่ จากความเชื่อแบบผิดๆ ทางการเงินเพื่อทำการค้นหาวิธีบริหารการเงินให้มีประสิทธิภาพกันดีกว่า
-
ยึดติดแบบเดิมๆ เปลี่ยนเป็น มองหาโอกาสใหม่ๆ ให้กับตัวเองบ้าง
มนุษย์เงินเดือน ที่ทำงานได้เงินเดือนประจำทุกๆเดือน บางคนอาจจะมีการวางแผนเรื่องการเงิน การออม การใช้จ่าย คิดได้แค่นี้ก็อาจจะเพียงพอแล้ว แค่ไม่ให้เป็นหนี้เป็นสินชีวิตก็อาจจะสงบขึ้นเพราะไม่ต้องใช้จ่ายอย่างลำบาก ส่วนเวลาที่เหลือก็ใช้ในการพักผ่อนและไม่คิดว่าจะต้องมาหาเงินอีก ซึ่งหากคิดได้แค่นี้อาจจะคุณก็จะอยู่แค่นี้ ไม่มีอะไรงอกเงย ซึ่งแม้คุณจะทำงานอยู่ในองค์กรที่มีความมั่นคงหรือเป็นบริษัทใหญ่โต แต่อาจจะมีสถานการณ์อย่างอื่นที่อาจทำให้คุณต้องเจออุปสรรคในการดำรงชีวิตในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นอุปสรรคของตัวงาน หรือเรื่องส่วนตัวจากเพื่อนร่วมงานที่อาจเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้น ยังไม่นับรวมถึงอาการเจ็บป่วยที่อาจเกิดขึ้นได้เช่นเดียวกัน การมองหาโอกาสที่สองเผื่อไว้บ้าง อาจจะทำให้คุณไม่ต้องยึดติดกับหน้าที่การงานประจำจนเกินไป ทั้งยังเป็นโอกาสที่ดีที่คุณจะได้เรียนรู้ถึงความสามารถอื่นๆ ที่ทำได้ ยังมีคนอีกจำ นวนไม่น้อยที่ได้มีการเปลี่ยนสถานะจากพนักงานออฟฟิศกินเงินเดือนธรรมดา แต่กลายมาเป็นเจ้าของธุรกิจจากโอกาสที่สองนี้แหละ
-
ไม่กล้าเสี่ยง เปลี่ยนเป็น รู้จักใช้เงินทำงานโดยการผ่านตลาดการลงทุน
หลายคนเล็งเห็นว่าการลงทุนนั้นมีความเสี่ยงมากเกินไป ทำให้มนุษย์เงินเดือนหลายคน ยอมเก็บเงินไว้ในธนาคารเพื่อนรอกินดอกเบี้ยแน่นอน น่าจะสบายใจกว่า ซึ่งหากคิดแค่นั้นก็จริงนะ แต่ว่าดอกเบี้ยที่คุณจะได้รับนั้นจะน้อยกว่า แม้ว่าการลงทุนจะมีความเสี่ยง ซึ่งเป็นประโยคที่หลายๆคนมักได้ยินกันเสมอ แต่ในความเป็นจริงแล้วการลงทุนมีหลายรูปแบบ ซึ่งหากมีการศึกษาดีๆ มันไม่ใช่เรื่องยากที่จะทำความเข้าใจเลย เพราะคุณสามารถขอคำปรึกษาจากที่ปรึกษาทางการเงินที่มีคุณ ภาพ และให้ข้อมูลตรงกับเป้าหมายการลงทุนของคุณ ได้เพื่อสร้างความรู้และความมั่นใจในการลงทุนให้มากยิ่งขึ้นเป็นการทำความเข้าใจก่อนการลงทุนใดๆ เพราะหากคุณไม่ทำการรู้จักใช้เงินทำงานโดยการผ่านตลาดการลงทุน คุณก็ไม่สา มารถที่จะหยุดใช้ตัวเองทำงานได้ ลองให้เงินทำงานให้กับคุณดูบ้าง
-
ประกันชีวิตไม่เห็นจำเป็น เปลี่ยนเป็น สร้างความมั่นคงของครอบครัวด้วยการทำประกันชีวิต
หลายคนที่มีความรู้สึกว่าการทำประกันชีวิต คือสิ่งที่ไม่จำเป็น ยิ่งเวลาที่มีตัวแทนโทรมาหาคุณเพื่อทำการแจ้งข้อเสนอที่ฃน่าสนใจเกี่ยวกับการทำประกัน คุณมักจะปฏิเสธเสมอ นั่นอาจจะเป็นเพราะว่าตอนนี้ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับคุณ และหากทำประกันตอนนี้ ก็เหมือนกับว่าการทำประกันก็ดูจะเป็นการเสียเงิน เสียเวลาเปล่าๆ ความจริง คือหากพูดถึงเรื่องเจ็บป่วย หรือความตายที่อาจจะเกิดขึ้นกับคุณเมื่อไหร่ก็ได้ แต่อยากให้ทำความเข้าใจของจุด ประสงค์ของการทำประกันก่อนว่าเป็น การทำประกันคือการสร้างหลักประกันและความมั่นคงให้แก่ผู้เอาประกันภัย รวม ถึงครอบครัวเพราะหากคุณไม่มีครอบ ครัวการทำประกันอาจไม่จำเป็น แต่ถ้าหากคุณเป็นเสาหลักของบ้าน หากเกิดเรื่องไม่คาดคิดกับคุณ จะเป็นอย่างไร และครอบครัวจะดำเนินต่อไปอย่างไร แต่ถ้าหากคุณเลือกทำประกันชีวิต และมีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้น อย่างน้อยก็ยังมีเงินประ กันชีวิตที่พอจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนทางการเงินของครอบครัวได้
-
ไม่อยากลงทนอะไรเยอะแยะ เปลี่ยนเป็น ทางเลือกมีเยอะ ก็ยิ่งมีทางได้เงินเยอะ
ทางเลือกของการลงทุน ที่หลายคนอาจเข้าใจแล้วว่าดอกผลที่งอกเงยจากการนำไปลงทุน เพื่อเพิ่มค่าเป็นอย่างไร การนำเงินไปลงทุนมีตราสารอะไรให้เลือกเพื่อที่จะใช้เป็นเครื่องมือในการลงทุนได้อย่างเหมาะสม ซึ่งตราสารทางการเงินแต่ละประเภท จะให้ผลตอบแทนที่แตกต่างกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงของแต่ละตราสารนั้นๆ ซึ่งโดยพื้นฐานของตราสารที่มีความเสี่ยงสูง ก็จะให้ผลตอบแทนที่สูงมากกว่าตราสารที่มีความเสี่ยงต่ำ แต่การที่คุณจะเลือกลงทุนก็ต้องคำนึงถึงความเสี่ยงที่คุณสามารถยอมรับได้ด้วยซึ่งมนุษย์เงินเดือนหรือคนวัยทำงานสามารถลงทุนโดยเน้นแบบที่มีความเสี่ยงสูงได้ เพราะยังมีระยะเวลาในการลงทุนที่ค่อนข้างยาว แต่สำหรับคนที่ใกล้จะเกษียณอายุนั้นอาจทำให้การลงทุนลำบาก เพราะต้องพยายามรักษาเงินต้นไม่ให้สูญเสียหรือขาดทุน ซึ่งเงินส่วนนี้จะเป็นเงินในการใช้จ่ายเพื่อการดำรงชีวิตหลังชีวิตเกษียณ หากลงทุนในตราสารที่มีความเสี่ยงสูงแล้วเกิดการขาดทุน ก็อาจจะส่งผลกระทบกับเงินในส่วนที่จะนำไปใช้จ่ายต่างๆ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่คุณอาจไม่มีรายได้ประจำแล้ว ทำให้ต้องลดความเสี่ยงในการลงทุนลงโดยเน้นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำมากกว่า
และนอกจากกองทุนที่มีนโยบายของการลงทุนในตราสารหนี้ หรือตราสารทุนแล้ว กองทุนรวมยังมีการลงทุนในตราสารประเภทอื่นๆ อย่างทองคำ น้ำมัน อสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ ซึ่งความหลากหลายของสินทรัพย์ที่ไปลงทุนนี้ จะส่งผลทำให้กองทุนรวมเป็นตัวช่วยในการกระจายความเสี่ยงที่มาจากการลงทุนได้ค่อนข้างดี