มีคนจำนวนไม่น้อยที่สามารถสร้างบริษัทของตัวนั้นให้สามารถทำกำไร มีที่ยืนในตลาดหลักทรัพย์ต่างๆ และสามารถขยายสาขาต่างๆได้มากมาย แต่ถึงอย่างไรก็ตามนั้น มีคนจำนวนไม่น้อยที่รู้สึกว่าบริษัทตัวเองนั้นถึงทางตันหรือกล่าวได้อีกนัยหนึ่งไม่รู้ว่าบริษัทของตัวเองนั้นควรที่จะพัฒนาไปในทางทิศทางใด ผู้บริหารต่างๆเหล่านั้นรู้เพพียงว่าจะต้องพยายามบริหารบริษัทของตัวเองให้อยู่รอดต่อไปเรื่อยๆและอาจจะพยายามปรับเปลี่ยนโครงสร้างการบริหารให้เข้ากับยุคสมัย
ซึ่งการ พัฒนาบริษัท ของตัวเองนั้นอาจจะคล้ายกับการอัพเกรดบริษัทของตัวเอง มีบริษัทจำนวนไม่น้อยที่พัฒนาบริษัทของตัวเองแล้วบริษัทนั้นเกิดการพัฒนาไปได้ไกลและประสบความสำเร็จได้มากกว่าเดิม แต่การที่จะพัฒนาให้ได้อย่างนั้นควรที่จะรู้อะไรหลายๆอย่าง และเราสามารถ พัฒนาบริษัท ของตัวเองได้ด้วยวิธีเหล่านี้
-
ถามคำถามที่สร้างสรรค์
มีคนจำนวนไม่น้อยที่รู้ว่าทุกครั้งที่มีการถามคำถามที่สร้างสรรค์นั้น มักจะได้คำตอบที่สร้างสรรค์ และเมื่อใดที่ได้คำตอบที่สร้างสรรค์นั้นนั่นหมายถึงการได้คิดสิ่งต่างๆที่สร้างสรรค์เช่นกัน คำถามที่สร้างสรรค์นั้นอาจจะเป็นหัวใจหลักของบริษัทต่างๆจำนวนไม่น้อยเลยก็ว่าได้ เราจะไม่รู้ว่าตัวเราเองนั้นควรที่จะพัฒนาแอปพลิเคชันต่างๆบนมือถือต่างๆไปในรูปแบบอย่างไรถ้าเราไม่เกิดการถามขึ้น ถ้าเรานั้นอาจจะยังคงพยายามพัฒนาแอปพลิเคชันที่มีอยู่แล้ว และพยายามที่จะพัฒนาแอปพลิเคชันที่เคยมีอยู่ให้ดีขึ้นไปอีก โดยปราศจากความคิดที่ว่าเราอยากได้แอปพลิเคชันที่แปลกใหม่จากสิ่งที่มีอยู่ การพัฒนาสิ่งต่างๆที่แปลกใหม่และสร้างสิ่งต่างๆที่แตกต่างจากสิ่งเดิมที่มีอยู่นั้น นั่นก็คือการพัฒนาบริษัทของตัวเองเช่นกัน
-
พัฒนาพนักงานของตัวเองให้มีคุณภาพ
มีคนจำนวนไม่น้อยที่มักคิดเพียงว่า ทำงานเพื่อที่จะต้องการเงินเดือนหรือค่าตอบแทนไปวันๆ โดยที่จะพยายามทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้ตัวเองนั้นโดนไล่ออกจากงานหรือได้รับซองขาว แต่ถึงอย่างไรก็ตามคนเหล่านี้นั้นก็จะไม่พยายามที่จะพัฒนาตัวเองให้เกินกว่าสิ่งที่ทำอยู่เช่นกัน พวกเขาเหล่านั้นอาจจะพยายามคิดว่าพัฒนาตัวเองไปก็อาจจะไม่ได้มีอะไรดีขึ้นมา ซึ่งปัญหานี้ที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากทัศนคติของพนักงานเองและเป็นปัญหาที่หลายๆบริษัทนั้นล้วนก็มีอยู่ ขึ้นอยู่กับผู้บริหารว่าจะสามารถเปลี่ยนทัศนคติต่างๆเหล่านั้นได้หรือเปล่า การเปลี่ยนทัศนคติของพนักงานเหล่านั้น อาจจะมีสิ่งต่างๆมาล่อตาล่อใจหรือต้องเกิดการสร้างแรงบันดาลใจเพื่อกระตุ้นตัวเอง และเมื่อใดก็ตามที่เหล่าพนักงานเหล่านั้นทำงานในทัศนคติเดียวกันแล้วนั้น เราก็จะสามารถพัฒนาบริษัทของตัวเองได้ไม่ยากเช่นเดียวกัน
-
ไม่ทำสิ่งที่ซ้ำซากจำเจ
สิ่งใดก็ตามที่เรานั้นทำทุกๆวัน เราก็จะเบื่อสิ่งนั้น ถ้าเราทุกคนนั้นกินแต่ข้าวเปล่าๆ เราก็จะไม่มีวันได้รับรู้รสชาติอื่นๆหรือได้ลิ้มรสความแปลกใหม่ของอาหารชนิดอื่น รสชาติอาหารต่างๆที่เหล่าพ่อครัวได้ปรุงแต่งขึ้นนั้น ล้วนมาจากการที่ลองผสมผสานรสชาติอาหารต่างๆเข้าด้วยกัน พ่อครัวต่างๆเหล่านั้นคงไม่ชอบการทำอาหารแบบเดิมๆอย่างแน่นอน ในการทำธุรกิจก็เช่นเดียวกัน เมื่อใดก็ตามที่บริษัทนั้นรู้สึกถึงความซ้ำซากจำเจจากที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการบริหาร การทำงานของพนักงานหรือสิ่งเล็กๆที่รวมไปถึงการจัดห้องนั้น ย่อมเกิดความซ้ำซากจำเจอย่างแน่นอน พนักงานทุกคนจะทำงานด้วยความรู้สึกเดิมๆและบางครั้งพวกพนักงานเหล่านั้นอาจจะต้องการความแปลกใหม่ ผู้บริหารนั้นควรที่จะคิดสิ่งใหม่และทำสิ่งใหม่ตลอดเวลา อย่างน้อยๆก็ควรจะเพิ่มเติมอุปกรณ์ตกแต่งห้องทำงานให้มีสีสัน ทุกคนนั้นล้วนรู้ดีว่าเมื่อใดก็ตามที่สภาพแวดล้อมเปลี่ยนนั้น วิสัยทัศน์และความรู้สึกก็จะเปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน
-
ให้เติบโตอย่างเรื่อยๆ ไม่ต้องก้าวกระโดด
เหล่าผู้บริหารต่างๆจำนวนไม่น้อยที่อยากเห็นกราฟหุ้นของบริษัทตัวเองในตลาดหลักทรัพย์นั้น เติบโตแบบก้าวกระโดด หรืออยากให้ยอดขายสินค้าของบริษัทนั้นเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้นั้นมักเป็นไปได้ยาก แต่สิ่งที่เป็นไปได้ง่ายคือการที่ค่อยๆเจริญเติบโต บริษัทต่างๆนั้นเปรียบเสมือนกับคนไม้ต้นหนึ่งที่ต้องค่อยเจริญเติบโต การที่จะให้ต้นไม้เติบโตสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเพียงค่ำคืนเดียวนั้นทุกคนล้วนรู้ว่าเป็นไปได้ยาก และที่สำคัญนั้นการที่บริษัทเติบโตอย่างช้าๆนั้นและไม่ควรที่จะช้าเกินไป ทำให้ผู้บริหารนั้นสามารถกำหนดทิศทางและแบบแผนของบริษัทได้ง่ายขึ้น ทำให้ง่ายต่อความต้องการที่จะเติบโต
-
ใช้จุดแข็งของทุกคนในองค์กรในการ พัฒนาบริษัท
ทุกคนนั้นล้วนรู้ดีว่าตัวเองนั้นมีจุดเด่นและจุดด้อยคืออะไร แต่ถ้ามีคนจำนวนหนึ่งที่ไม่รู้นั่นก็ไม่แปลก แต่ถึงอย่างไรก็ตามจุดเด่นหรือจุดแข็งของพนักงานแต่ละคนนั้น เมื่อใดก็ตามที่ผู้บริหารได้รู้นั้นก็อาจจะสามารถใช้ส่วนนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้ไม่ยาก เมื่อใดก็ตามที่เรารู้ว่ามีพนักงานฝ่ายการตลาดของเราคนใดคนหนึ่งนั้นมีความสามารถในการออกแบบสื่อต่างๆแล้วนั้น เราอาจสามารถใช้ประโยชน์ตรงนั้นในการให้พนักงานคนนั้นออกแบบสื่อที่ตัวเองถนัดและเราก็ควรที่จะเพิ่มผลตอบแทนให้เขาคนนั้น และที่สำคัญควรจะให้มากกว่าคำชม จะทำให้พนักงานคนนั้นได้มีความสุขกับการทำงานที่ตัวเองชอบและมีความสุขมากกว่าเดิมเมื่อเขานั้นได้ผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้น ทำให้เรานั้นประหยัดเงินที่จะไปจ้างนักออกแบบจากที่อื่นมาทำงานให้เรา