ธุรกิจคุณจะไปรอดหรือไม่ จะเจ๊งหรือเปล่า ? อยู่ที่คุณจะมีความรู้และบริหารจัดการธุรกิจของคุณยังไง เพราะการทำธุรกิจแต่ละครั้ง ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ใครคิดจะทำก็ได้ หากคุณคิดจะทำธุรกิจ นอกจากรอรับผลกำไรแล้ว ต้องรอรับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นด้วย เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว คุณอาจไปไม่รอดกับธุรกิจที่ทำอยู่ มาดูกันซิว่า การทำธุรกิจแบบไหนที่มีความเสี่ยงสูงกับ 5สิ่ง ที่ทำให้ ธุรกิจเจ๊ง
1. ทำธุรกิจทำเทรนด์
สมัยนี้ไม่ว่าทำธุรกิจอะไร ถ้าทำแล้วรวย ก็จะทำตามๆกันไปซะหมด ไม่ค่อยมีการใช้ความคิดสร้างสรรค์ของตัวเอง หรือริเริ่มสร้างสินค้าเป็นของตัวเอง พึงจะเห็นได้จากปัจจุบัน ธุรกิจที่ทำตามเทรนด์มากที่สุดธุรกิจหนึ่งคือ เปิดร้านกาแฟ ส่วนใหญ่มักเป็นวัยรุ่นที่ต้องการสร้างความมั่งคงให้กับชีวิตตั้งแต่อายุยังน้อย บวกกับวิถีชีวิตคนเมืองในปัจจุบันที่ให้ความสนใจกับการนั่งดื่มกาแฟในร้านเย็นๆ ธุรกิจนี้เกิดขึ้นมากจนแทบจะมีกันทุกหัวมุมถนน หากร้านไหนบริหารจัดการไม่ดีหรือตั้งอยู่ในทำเลมรณะ ก็เตรียมตัวดับอนาถได้เลย หากคุณเป็นคนรุ่นใหม่ที่สนใจทำธุรกิจนี้ แต่ยังไม่พร้อมในหลายๆด้าน แนะนำให้รอไปก่อน อย่าพึ่งเสี่ยง
2. รู้ไม่จริงเรื่องธุรกิจที่ทำ
สืบเนื่องจากการเปิดธุรกิจตามเทรนด์ที่หลายคนคิดว่ามันจะทำให้รวยเร็ว อย่าลืมว่ากระแสที่มาเร็ว มันก็ไปเร็วเหมือนกัน หากคุณไม่สนใจเรื่องธุรกิจที่จะทำหรือทำเพราะคนอื่นทำแล้วรวย รู้หรือไม่ว่า คุณกำลังเอาเงินไปโยนทิ้งแม่น้ำ การทำธุรกิจที่ดีต้องมีความสนใจในเรื่องนั้นๆก่อน ศึกษาหาความรู้เรื่องที่เกี่ยวกับธุรกิจนั้น ค้นหาสินค้าที่คาดว่าในอนาคตมันจะให้ผลตอบแทนที่สูง สรุปความเสี่ยงที่พอรับได้หากไม่เป็นไปตามที่คิด ฯลฯ คุณจะเห็นได้ว่าธุรกิจจะรุ่งหรือร่วงขึ้นอยู่กับตัวผู้ทำเท่านั้น หากรู้ลึกรู้จริง ธุรกิจไปได้สวยแน่นอน ตรงกันข้าม หากรู้ไม่จริงแต่พยายามจะทำให้ได้ ก็เตรียมตัวรับผลที่ตามมาได้เลย
3. บริหารการเงินไม่เป็น
การทำธุรกิจไม่ว่าจะอะไรก็แล้วแต่ การบริหารการเงินเป็นสิ่งที่จำเป็นมากที่สุดอันดับต้นๆของการบริหารกิจการ หากคุณทำธุรกิจโดยที่ไม่มีการทำบัญชีรายรับรายจ่าย หรือไม่รู้ว่าต้นทุนควรจะเป็นเท่าไหร่ กำไรที่ได้รับต้องเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ของต้นทุน เห็นท่าธุรกิจคุณคงจะอยู่ได้ไม่นาน ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจคุณไปได้ไกลหรือไม่นั้น คือการที่คุณยอมรับการขาดทุนได้มากน้อยเท่าไหร่ จะรู้ว่าขาดทุนได้เท่าไหร่ ต้องรู้จักการบริหารการเงิน กล่าวคือ คุณต้องรู้ว่าต้นทุนที่แท้จริงคือเท่าไหร่ ยิ่งคุณค้นหาต้นทุนในราคาที่ต่ำได้มากเท่าไหร่ คุณยิ่งได้กำไรมากขึ้นเท่านั้น เมื่อได้ข้อมูลมาแล้วควรตั้งเป้าหมายระยะยาวด้วยว่า ธุรกิจของคุณจะเติบโตไปในทิศทางไหน และอย่าลืมเก็บข้อมูลให้เป็นระบบระเบียบเพื่อง่ายต่อการค้าหา
4. จ้างอย่างเดียว
เจ้าของธุรกิจที่ไม่รู้เรื่องธุรกิจของตัวเองเลย มักไม่ประสบความสำเร็จ หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจที่มีศักยภาพเพียงแค่การจ้างคนอื่นให้มาทำแทนให้ คุณกำลังเสี่ยงโดนโกง ทุกวันนี้จะมองไปทางไหนก็มีแต่ธุรกิจขนาดใหญ่ค่อยๆกลืนธุรกิจขนาดเล็ก เช่นสำนวนที่ว่าปลาใหญ่กินปลาเล็ก แต่หากเปรียญกับธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีเจ้าของที่ไม่รู้จักธุรกิจของตน ทำได้แต่เพียงจ้างคนที่รู้เรื่องเข้ามาบริหาร ก็เหมือนกับ ปลาใหญ่ที่กำลังจะถูกปลาเล็กรุมกิน เมื่อธุรกิจไปไม่รอด ลูกน้องที่จ้าง ก็แยกย้ายกันไป ที่ดับอนาถคือเจ้าของธุรกิจผู้ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ดังนั้นหากคุณไม่อยากโดนลูกน้องตัวร้ายโกง คุณควรรู้เรื่องธุรกิจที่คุณจะทำ ไม่ประจำต้องรู้ทุกอย่าง แต่ควรรู้งานแบบองค์รวมไว้ อย่างน้อยก็ทำให้ลูกน้อยเกรงใจเราบ้าง
5. สภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ
ข้อนี้เป็นเหตุสุดวิสัยที่แม้คุณจะบริหารธุรกิจของคุณมาดีขนาดไหนก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ หากเจอสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำอย่างไม่คาดฝัน ธุรกิจของคุณก็อาจไม่ได้ไปต่อ แน่นอนว่าไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นกับธุรกิจของตน มันดูไม่แฟร์กับคนทำงานเพื่อสร้างตัวอย่างสุดกำลัง แต่ก็อย่างว่า ไม่มีใครล่วงรู้อนาคต แต่เราวิเคราะห์มันได้ กล่าวคือ คุณต้องติดตามข่าวสารบ้านเมืองอยู่ตลอดเวลา ช่วงเศรษฐกิจไม่ดี หากมันส่งผลกระทบกับธุรกิจคุณ มันมักจะมีสัญญาณบางอย่างส่งออกมา เมื่อถึงตอนนั้น คุณควรลดค่าใช่จ่ายที่ไม่จำเป็นบางส่วนออก ลดการสั่งซื้อวัตถุดิบที่ไม่ประจำหรือมีอยู่เยอะแล้ว หรือชะรอการลงทุนขนาดใหญ่ไว้ก่อน เพียงเท่านี้ คุณก็ทำให้จากหนักเป็นเบาได้แล้ว
เจ้าของธุรกิจหรือผู้สนใจจะทำธุรกิจเห็นถึงประโยชน์ของ 5สิ่ง ที่ทำให้ ธุรกิจเจ๊ง หรือเปล่าเอ่ย นี่เป็นเพียงตัวอย่างส่วนหนึ่งเท่านั้น ยังมีอีกหลายสิ่งที่ทำให้ธุรกิจของคุณไม่ประสบความสำเร็จ ฉะนั้นหากคุณคิดจะจะทำธุรกิจ หรือสนใจในการทำธุรกิจอยู่ละก็ ควรศึกษาหาความรู้ในเรื่องที่สนใจนั้นๆก่อน หากไม่อยากทำให้ธุรกิจคุณล้มหายตายจาก ธุรกิจเจ๊ง รวมถึงเงินทองที่ใช้ละลายหายไปอย่างศูนย์เปล่า