หากคุณไม่มีการวางแผนเรื่องเงินขึ้นมาเมื่อไหร่แล้วล่ะก็ เชื่อได้เลยว่า อาจจะเกิดข้อผิดพลาดขึ้นมาก็ได้ ซึ่งการใช้จ่ายเงิน เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องใส่ใจ หากพลาดมาจนหมดตัวคุณอาจจะต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะตั้งตัวได้อีก … หรืออาจจะเฟลไปตลอดเลยก็ได้นะ วันนี้เราเลยมาบอกไว้ก่อนจะได้รู้ตัว กลับตัวทันกับ 5 เรื่องหลักๆ เกี่ยวกับการใช้จ่ายเงินที่ผิดพลาด ที่หากคุณทำไปแล้วอาจจะทำให้คุณต้องมานั่งเสียใจชอกช้ำไปพร้อมกับนั่งซดน้ำใบบัวบกอีกยาวเลยทีเดียว
1.ไม่รู้จักคิดวางแผนเรื่องการใช้จ่ายเงิน
หลาย ๆ คนไม่ชอบที่จะทำการวางแผนการใช้จ่ายเรื่องเงิน เพราะมันน่าเบื่อและอาจจะคิดว่าการวางแผนการเงินจะทำให้คุณ ไม่สามารถซื้อสิ่งที่คุณต้องการได้ แต่หากลองคิดดูว่าในความเป็นจริงแล้ว การวางแผนมันคือสิ่งที่จะช่วยให้คุณมีอิสระทางการเงินต่างหาก เพราะเมื่อคุณทำบัญชีรายรับรายจ่าย คุณเองก็จะได้มองเห็นอย่างชัดเจนว่า ค่าใช้จ่ายส่วนไหนที่ไม่จำเป็นสำหรับคุณ และส่วนไหนเป็นค่าใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือย ทำให้คุณสามารถตัดค่าใช้จ่ายเหล่านั้นออกไปได้ และช่วยให้คุณมีเงินเหลือในกระเป๋ามากยิ่งขึ้น ที่ส่วนใหญ่มักจะมองเห็นได้ชัดก็คือ แพ็กเกจโทรศัพท์มือถือของคุณที่จ่ายมาแสนแพงทุกเดือน ทั้ง ๆ ที่บางทีคุณอาจใช้ไม่ถึงลิมิตรที่แพ็กเกจให้มาก็ได้ เดือนหนึ่งอาจจะไม่ใช่จำนวนเงินที่เยอะ แต่ถ้าหากรวม กันเป็นปีๆ เรียกได้ว่าคุณจ่ายเงินก้อนนี้ในจำนวนไม่ใช่น้อยๆ เลย การวางแผนการเงินจะทำให้คุณเล็งเห็นในส่วนนี้ และเปลี่ยนมาเลือกแพ็คเกจโทรศัพท์ที่เหมาะสมกับการใช้งาน ซึ่งอาจจะมีราคาถูกกว่านั่นเอง
2.เบี้ยวจ่ายบัตรเครดิต
มีหลายคนที่เป็นหนี้บัตรเครดิต และมักจะจ่ายแบบขั้นต่ำ จนกระทั่งไม่ยอมจ่าย แถมยังคิดว่า หากไม่จ่ายแค่เดือนสองเดือน หรือจ่ายช้าไปหน่อยคงไม่เป็นไรหรอกเพราะเดือนนี้ภาระเยอะ ซึ่งลองคิดดูว่า หากคุณขอยืมเงินเพื่อนคุณมา แล้วขอผ่อนผันกับเพื่อน แล้วบอกว่าค่าใช้จ่ายคุณเยอะ ก็อาจจะไม่เป็นปัญหาอะไร แต่สำหรับบัตรเครดิตถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดอย่างมาก เพราะธนาคารไม่เห็นใจคุณหรอกนะ ในเรื่องการเงินส่วนตัวของคุณ ยิ่งไปกว่านั้น ยังจะเรียกเก็บเงินจากคุณเพิ่มด้วย ทั้งค่าปรับการชำระล่าช้า และดอกเบี้ยที่พอกพูนขึ้น ไหนจะคะแนนเครดิตของคุณที่จะเสียไป แถมยังทำให้คุณกู้สินเชื่ออื่น ๆ ในอนาคตยากมากยิ่งขึ้น คุณควรตัดประโยคที่ว่า ไม่จ่ายเดือนเดียวไม่เป็นไรหรอก ออกไปจากความคิดของคุณได้เลย เพราะมันจะสร้างแต่ความหายนะให้กับชีวิตคุณอย่างแน่นอน
อ่านเพิ่มเติม : จ่ายคืนบัตรเครดิตช้าได้มากที่สุดกี่วัน ?
3.ไม่ยอมศึกษาผลิตภัณฑ์ทางการเงินให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ
หากคุณตัดสินใจซื้อบัตรเครดิต สินเชื่อ และ ประกันต่าง ๆ เร็วเกินไป อาจจะทำให้คุณเสียเงินมากกว่าที่ควรจะเป็น เพราะการที่คุณไม่ยอมศึกษาหาข้อมูลและเปรียบเทียบให้ดี จะทำให้คุณได้สิ่งที่ไม่ตอบโจทย์ตรงตามความต้องการ ไลฟ์สไตล์ และการใช้งานของคุณจริง ๆ ก็ได้ และสุดท้ายคุณก็ต้องซื้อผลิตภัณฑ์เหล่านั้นเพิ่มขึ้นอีก กลายเป็นข้อผิดพลาด ที่จะต้องเสียเงินเพิ่มโดยใช่เหตุ ปัจจุบันมีเว็บไซต์ที่ให้บริการเปรียบเทียบราคาโดยเฉพาะ ทำให้การเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ทางการเงิน กลายเป็นเรื่องที่แสนจะง่าย เพียงไม่กี่วินาทีและแค่คลิกไม่กี่ครั้ง ก็จะทำให้เห็นตารางราคาและรายละเอียดต่าง ๆ ขึ้นโชว์ที่หน้าจอของคุณอย่างรวดเร็วสะดวก และทันใจมาก
4.ไม่มีเงินเก็บสำหรับเหตุการณ์ฉุกเฉิน
คุณจำเป็นจะต้องเตรียมพร้อมกับเรื่องไม่คาดคิดไว้ ดอกจันไว้เลยว่ามันสำคัญมาก บางคนอาจจะเก็บเงินฉุกเฉินเอาไว้สำหรับ 3 เดือน บางคนอาจจะหนึ่งปี แต่การเก็บเงินแบบขั้นต่ำที่มีความจำเป็นสำหรับเงินฉุกเฉิน อาจจะต้องใช้เวลาจะประมาณ 6 – 8 เดือน แล้วแต่ความเตรียมพร้อมของแต่ละคน ซึ่งเงินในส่วนนี้ถือเป็นเงินคนละส่วนกับเงินเก็บออม ทำไมต้องคนละส่วน ? เพราะเงินเก็บออมมีไว้เพื่อเป็นเงินสำหรับช่วงเกษียณอายุ ชีวิตของคุณอาจจะเจอเรื่องฉุกเฉินได้ โดยไม่ได้นัดหมาย คงไม่ดีแน่หากเจอเรื่องฉุกเฉินแล้วคุณใช้เงินหมดไป จนไม่เหลือเอาไว้ใช้ในยามที่แก่ชรา
5.ไม่สนใจทำประกันอุบัติเหตุ หรือประกันชีวิต
ประกันจำเป็นด้วยเหรอ ? ลองนึกภาพ ถ้าวันวันหนึ่งคุณเจ็บป่วย หรือประสบอุบัติเหตุขึ้นมา ต้องหยุดงาน เงินเก็บที่มีก็ต้องเอามาจ่ายค่ารักษาพยาบาล รายได้ก็ไม่มี แถมมีแต่จ่ายออก เผลอๆเงินไม่พอต้องไปกู้หนี้ยืมสินคนอื่นมาจ่ายอีก แล้วไหนจะครอบครัวของคุณที่อาจจะะพลอยเดือดร้อนไปด้วย ดังนั้นการทำประกันทั้งหลายคือการซื้อความเสี่ยงยิ่งคุณเป็นมนุษย์เงินเดือน และมีรายได้ทางเดียวด้วยแล้วยิ่งต้องทำ ชีวิตมีแต่เรื่องไม่แน่นอนนะคะ อย่าให้เราต้องมานั่งเสียดายเงินเวลาเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝันเลยดีกว่า
ที่มา : MoneyGuru