เชื่อไหมว่าทัศนคติของคนเราเป็นสิ่งที่มีพลังอย่างอัศจรรย์ มีผลของการคิดวิจัยในศาสตร์ของวิชาจิตวิทยามากมาย ที่ให้บทสรุปซึ่งเชื่อถือได้ว่า ทัศนคติของคนแต่ละคนเป็นเสมือนพลังขับเคลื่อนพลังชีวิตของคน ๆ นั้น และทัศนคติยังเป็นเสมือนขั้วด้านหนึ่งของแม่เหล็กที่จะดึงดูดให้เราไปกองรวมกับสิ่งที่ทัศนคติของเราเป็น อีกทั้งยังมีผลดึงดูดสิ่งที่เราคิดตามแง่มุมทัศนคติของเราเข้ามาหาตัวเราได้ด้วย
คนที่มีทัศนคติต่อโลก ต่อชีวิตและการทำงาน การใช้ชีวิตประจำวันที่ถูกต้อง มีทัศนคติในแดนบวกกับสิ่งเหล่านี้ ก็จะนำพาให้เขามุ่งตรงไปในทิศทางบวกอย่างไม่ต้องสงสัย เมื่อเขาตื่นขึ้นมาและเปิดรับรู้ด้วยประสาทสัมผัสทั้ง 5 ในเช้าของวัน สิ่งที่เขารับรู้ คิด และรู้สึก ก็จะมีแต่สิ่งที่เป็นผลบวกและสร้างความสุข ความสบายใจ และสร้างพลังให้กับเขาไปตลอดวันด้วย
คนเราสามารถเลือกหยิบจับความคิดหรือทัศนคติต่าง ๆ ได้ตามใจปรารถนา จากสิ่งเร้า ข้อมูลข่าวสาร และผู้คน เหตุการณ์ที่เข้ามากระทบตัวเรา มนุษย์เราจะทำการร่อนตะแกรงและเก็บสิ่งเหล่านั้นตามทัศนคติและความคิด ความรู้สึกที่ตนมีต่อสิ่งนั้นเอาไว้ และนั่นจะตกผลึกเป็นมุมมองและตัวตนของคน ๆ นั้นในไม่ช้า
เราจะสังเกตได้จากผู้สูงอายุที่อยู่ทั่วไปในสังคม ผู้สูงอายุแบ่งได้เป็นสองลักษณะ คือ ผู้สูงอายุที่มีความสุข และผู้สูงอายุที่ไม่มีความสุข ผู้สูงอายุที่ไม่มีความสุข จะแสดงออกมาทางสีหน้าที่หม่นเศร้า แววตาที่ขาดความสดใสและบางครั้งเจือความทุกข์หรือสื่อความเหนื่อยล้ากับชีวิต คำพูดที่พร่ำบ่นรำพึงรำพัน ถอนหายใจ เป็นคนแก่ที่ช่างพร่ำบ่นตัดพ้อ ในขณะที่ผู้สูงอายุที่มีความสุข ใบหน้าจะอิ่มเอิบและเปี่ยมความสดใส มีแววตาเอื้อเอ็นดูต่อผู้เยาว์ และสงบนิ่ง มีรอยยิ้มและไม่มีคำพร่ำบ่น สิ่งที่แสดงออกของผู้สูงอายุทั้งสองประภท ทำให้เรามองเห็นได้อย่างชัดเจนถึงผลปลายทางของการร่อนตะแกรงทัศนคติในชีวิต ผู้สูงอายุทั้งสองกลุ่มต่างก็ผ่านวันเวลามานาน ผ่านประสบการณ์มากมายในชีวิต แต่ความแตกต่างอยู่ที่ทัศนคติในการเลือกมอง เลือกเก็บสิ่งต่าง ๆ ที่เข้ามาในชีวิตที่ต่างกัน
สำหรับคนในวัยทำงาน การทำงานถือเป็นภารกิจในชีวิตประจำวันที่เป็นช่วงเวลาอันยาวนานของชีวิต คนเราจะอยู่ในวัยทำงานมากที่สุดในสัดส่วนของชีวิตเรา คนทุกคนย่อมต้องการประสบความสำเร็จและก้าวหน้าในหน้าที่การงานที่ตนทำ การจะประสบความสำเร็จในการงานได้ กุญแจสำคัญนอกเหนือไปจากทักษะ ความสามารถในการทำงาน และโอกาสแล้ว ทัศนคติเป็นองค์ประกอบสำคัญองค์ประกอบหลักที่สามารถทำให้เราประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวในการทำงานได้ ศึกภายนอกนั้นเราอาจจะควบคุมไม่ได้ แต่ศึกภายในก็สำคัญมากและเราต้องควบคุมให้ได้ก่อน โดยการมี ทัศนคติแง่บวก ในการทำงาน สิ่งนี้จะช่วยให้เรามีความสุขกับงานที่เราต้องทำและอยู่กับงานไปอีกหลายปีในช่วงชีวิตของเรา
ทัศนคติแง่บวก 5 ประการ ที่ทำให้ประสบความสำเร็จในการทำงานมีดังนี้
1.รักในงานที่ทำ
การรู้สึกรักในงานที่ทำ เป็นทัศนคติแง่บวกประการแรกที่สำคัญและจำเป็นต้องมีต่องานที่เราต้องทำอยู่ทุกวัน เพราะงานเป็นส่วนสำคัญเกือบครึ่งหนึ่งของชีวิตคนเรา เราคงไม่สามารถใช้ชีวิตเกินกว่าครึ่งชีวิตไปกับสิ่งที่เราไม่ได้รักไม่ได้ชอบได้ เพราะคงเป็นชีวิตที่ไม่น่าอภิรมย์และสดใสเอาเสียเลยหากเป็นเช่นนั้น หากพบว่างานที่ทำอยู่ไม่ใช่สิ่งที่เรารัก และเราไม่ได้รักชอบงานที่เราทำอยู่เลย ก็คงต้องมาพิจารณาตามคำพูดที่ว่า “หากไม่ได้ทำในสิ่งที่รัก ก็จงรักในสิ่งที่ทำ” แต่ถ้ายังไม่สามารถทำใจให้รักในสิ่งที่ทำได้ ก็คงต้องมองหางานที่รักและหาโอกาสปรับเปลี่ยนไปทำในงานที่ตนรักในเวลาที่เหมาะสม ไม่ควรอดทนทำงานที่ตนไม่ชอบไปตลอดชีวิต เพราะคงไม่ส่งผลดีต่อทั้งการงานและตัวผู้ทำอย่างแน่นอน
2.ปรับทัศนคติเกี่ยวกับงานอยู่เสมอ
หากมีเหตุการณ์หรือสิ่งใดที่ทำให้รู้สึกแย่กับงานที่ทำ ให้ลองมองหาแง่มุมที่ดีเพื่อที่จะกลับมารักและชอบในงานนั้นอีกครั้ง สำรวจความคิดและจิตใจตนเองเป็นครั้งคราว และปรับเปลี่ยนมุมมองการทำงานให้เป็นแง่บวกอยู่เสมอ
3 เห็นความสำคัญของสิ่งที่ทำ และตระหนักถึงความสำคัญที่เรามีต่องาน
คนเราจะทำสิ่งใดได้ดีนั้น ตนเองต้องเห็นถึงความสำคัญในสิ่งที่ทำอยู่ก่อน เมื่อเรามองเห็นความสำคัญในสิ่งที่ทำเราจะมีความคิดสร้างสรรค์ที่จะทำงานนั้นให้ดียิ่งขึ้น และทำได้อย่างมีความสุข อีกทั้งถ้าเราเห็นว่าเราสำคัญต่องานนั้นอย่างไร เราก็จะรักและเห็นคุณค่า ภูมิใจในตนเอง ทำให้การทำงานมีผลงานที่ดี ส่งผลให้หน้าที่การงานก้าวหน้า
4.มองแง่มุมที่ดีของเพื่อนร่วมงานและเจ้านายเสมอ
เจ้านายและเพื่อนร่วมงาน คือ กลุ่มคนที่เราต้องพบเจอและปฏิสัมพันธ์ด้วยอยู่ทุกวัน จะเป็นอย่างไรหากเรามีทัศนคติและความคิดความรู้สึกในแง่ลบต่อพวกเขา สิ่งนั้นคงจะทำให้เราไม่มีความสุขและส่งผลให้การงานไม่สามารถประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน ลองมองในมุมที่ดี ๆ ของพวกเขาเหล่านั้น เพราะในคนที่แย่ที่สุดก็ย่อมมีจุดดีที่น่ารักเล็ก ๆ ซ่อนอยู่
5.เชื่อว่าทุกสิ่งเป็นไปได้และเราทำได้
การมีทัศนคติแง่บวกว่า เราทำได้และทุกอย่างเป็นไปได้จะเป็นกุญแจที่ไขประตูไปสู่ทางออกของทุกปัญหาเมื่อพบอุปสรรคในการทำงาน เป็นการเรียกพลัง ความสามารถ และความคิดสร้างสรรค์ในการแก้ปัญหาออกมาใช้ เพราะไม่มีงานใดที่ราบรื่นไปตลอด ไม่มีสังคมใดที่ดีไปทุกอย่าง แต่อยู่ที่มุมมองการมองปัญหา ถ้าเราเชื่อว่าเป็นไปได้ เราจะเห็นทางออกไปสู่คำตอบจนได้
การเปลี่ยนทัศนคติในการทำงานที่กล่าวมาบางประการก็เป็นเรื่องที่เราสามารถทำได้ง่ายโดยทันที แต่บางประการอาจเป็นเรื่องยากสำหรับเราที่จะปรับเปลี่ยนได้ ลองให้เวลาคิดใคร่ครวญและปรับเปลี่ยน เพื่อความสำเร็จในการทำงานที่ไม่ยากเกินกว่าเราจะทำอย่างแน่นอน