คนทุกคนอยากจะมี ความสุขและความสำเร็จในชีวิต และความสุขนั้นก็อาจจะมาจากการที่เราทำสิ่งต่างๆให้สำเร็จได้ด้วยตัวเราเอง แต่หลายคนก็ล้มเหลวกับทั้งสองเรื่องนี้เพราะการใช้ชีวิตที่หละหลวม ขาดการวางแผนการดำเนินชีวิต และคนที่มีความสุขและทำอะไรก็สำเร็จส่วนใหญ่ เค้าเหล่านั้นล้วนมีการวางแผน วางเป้าหมายในชีวิตกันทุกคน เราลองมาวิเคราะห์ดูว่าหากเราอยากเป็นแบบเค้าเหล่านั้นเราควรต้องเริ่มหัดวางแผนในเรื่องใดบ้าง
1.การเงินไร้สภาพคล่องหากขาดการวางแผน
ปฏิเสธไม่ได้ว่าในโลกปัจจุบัน โลกแห่งทุนนิยมเงินมีบทบาทสำคัญในการดำรงชีวิตของมนุษย์ แต่คนส่วนมากไม่มีการวางแผนการเงิน และเรื่องที่สำคัญนี้ก็ไม่ได้รับการสอน การเผยแพร่ นี่อาจเป็นจุดบอดที่ทำให้คนไทยขาดวินัยทางการเงินและมีค่านิยมผิดๆที่ว่าใช้ก่อนผ่อนทีหลัง คนที่จะมีการเงินที่มั่นคงจึงต้องวางแผนการเงินอย่างเป็นระบบ มีแผนระยะสั้น แผนระยะกลาง และแผนระยะยาว เช่น สำรองเงินเผื่อเรื่องฉุกเฉินต่างๆ กันเงินเพื่อเก็บออมและการลงทุนเพื่อให้เงินงอกเงย และเงินเพื่ออนาคตในวัยเกษียณ ลองหัดวางแผนการเงิน หรือเริ่มปรึกษาผู้รู้ เพื่อให้เราพ้นจากกับดักสภาพการเงินที่ย่ำแย่ในอนาคต
2.จิตใจที่ดีอยู่ในร่างกายที่แข็งแรง
คนยุคปัจจุบันด้วยความสะดวกสบายต่างๆ กลับละเลยที่จะดูแลสุขภาพของตัวเอง มุ่งเน้นแต่การหาให้ได้มากที่สุดก่อน สะสมความมั่งคั่งทางด้านวัตถุ ใช้ร่างกายไปอย่างสิ้นเปลือง จะมีประโยชน์อะไรกับสิ่งที่หามาได้กลับไม่ได้ใช้ หรือใช้เพื่อนำมารักษาตัวเองเสียหมด เพราะอย่างนี้เราจึงควรหันมาสนใจสุขภาพกันให้มากขึ้น วางแผน มีเป้าหมายในการออกกำลังกาย กินอาหารดีๆมีประโยชน์ ตรวจสุขภาพร่างกายอยู่เสมอ และไม่เพียงร่างกายทางกายภาพ แต่หมายรวมถึงจิตใจที่เบิกบานอีกด้วย สองสิ่งนี้ต้องควบคู่กันไป เพราะร่างกายจะแข็งแรงยังไง หากจิตใจไม่ปกติก็เท่านั้น หรือจิตใจจะเข้มแข็งและเปี่ยมพลังเพียงใด หากร่างกายไม่เอื้ออำนวยก็ไร้ประโยชน์
3.วางแผนก่อนทำงานประสิทธิภาพเพิ่มทวีคูณ
ในการทำงานก็ต้องมีการวางแผนอย่างเป็นระบบ รู้ว่าในแต่ละวันจะทำอะไรก่อนหลัง มีแผนการดีๆมากมายที่ผู้ที่ประสบความสำเร็จในการงานได้กล่าวไว้ เช่น ให้ทำงานที่ยากที่สุดของวันนั้นให้เสร็จก่อน แล้วค่อยไปทำงานอื่น เพราะเมื่อเราทำสิ่งที่ยากที่สุดแล้ว หลังจากนั้นอะไรก็เป็นเรื่องง่าย หรือทำลิสต์งานลำดับตามความสำคัญ อันไหนสำคัญมากให้ทำก่อน และการทำงานควรตั้งเป้าให้สูงๆไว้ก่อน ให้เกินที่เราคาดหวัง เพราะถึงแม้ไม่ถึงเป้าหมายนั้นแต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ดี และอีกอย่างที่สำคัญคือการตั้งเป้าว่าเราจะต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ๆจากงานให้ได้วันละหนึ่งอย่าง นี้จะเพิ่มศักยภาพการทำงานของเราได้เร็วขึ้นไปอีก
4.ครอบครัวคือแรงผลักดันที่ใกล้ชิดเราที่สุด
น้อยคนนักที่จะอยู่ได้ด้วยตัวคนเดียวแล้วมีความสุข การมีครอบครัวที่อบอุ่นต่างหากคือความสุขที่แท้จริง เพราะครอบครัวคือแหล่งสร้างกำลังใจชั้นดีให้กับเรา ครอบครัวที่ดีจึงต้องมีการวางแผน จะแต่งเมื่อไหร่ การเตรียมเงินเพื่อสร้างครอบครัว เพื่อบุตรที่จะมีในอนาคต เพื่อที่อยู่อาศัย ค่าใช้จ่ายต่างๆที่จะมากขึ้น หากมีการวางแผนที่ดีตั้งแต่ในระดับครอบครัว เมื่อเราไปเข้าสังคมเราก็จะกลายเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมสังคมให้ดียิ่งขึ้น
5.วางแผนการพัฒนาตนเอง เพื่ออนาคต
เราไม่สามารถที่จะหยุดอยู่กับที่ได้ ยิ่งโลกเจริญและก้าวไปเร็วเท่าไหร่ หากเราตามไม่ทันเราก็จะกลายเป็นคนไร้ศักยภาพไป ซึ่งอาจมีผลต่อหน้าที่การงาน การเงิน ครอบครัว เราจึงต้องพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ไม่ว่าในที่ทำงาน ที่บ้าน หรือที่สำคัญในยุคนี้คือการลงทุนเพื่อเพิ่มพูนความรู้ให้กับตัวเอง การเข้าคอร์สสัมนาต่างๆ การเรียนต่อ การหาความรู้ใหม่ๆจากโลกอินเทอร์เน็ต ล้วนจะเป็นสกิลของเราที่แม้อาจไม่ได้มีประโยชน์ในทันที แต่เมื่อโอกาสอันเหมาะสมมาถึง และเราได้เตรียมพร้อมไว้แล้ว นั่นแหละที่จะสร้างคุณค่าอันมหาศาลกลับคืนมาให้เรา
แผนการทั้ง 5 ด้านนี้ หากเราค่อยๆพัฒนาไปเรื่อยๆให้ครบทุกด้าน มันจะนำความสุขและความสำเร็จมาสู่ชีวิตเรา เพียงแค่เราต้องลงมือทำให้มันเป็นจริง ไม่ใช่เป็นแผนการแค่ในแผ่นกระดาษ การดำเนินตามแผนการให้ได้ผลจึงเกิดจากการทำทีละนิด มีกรอบเป้าหมายที่ชัดเจน และมีจุดที่คอยเช็คเป้าหมายย่อย ที่จะเสริมความก้าวหน้าของเป้าหมายหลักของเรา เท่านี้เราก็น่าจะเป็นคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตได้อย่างคุ้มค่าแล้วทีเดียว