ในแต่ละวัน หรือทั้งเดือน คุณมีค่าใช้จ่ายเป็นแบบไหน ประเภทแรก ประหยัด มัธยัสถ์ รู้จักกินรู้จักใช้รู้จักอดออม หรือประเภทหลัง ช้อปๆๆจนหยดสุดท้าย เงินเดือนไม่เคยพอ จ่ายแบบเอาเป็นเอาตาย มารู้ตัวอีกทีก็เงินแทบหมด กินมาม่ารอคอยเงินเดือนออกต่อไป หากใครเป็นแบบแรกก็ขอแสดงความยินดีด้วย เพราะคุณน่าจะมีชีวิตที่ดีทางด้านการเงินในอนาคตแน่นอน แต่หากใครมีนิสัยเป็นแบบที่สอง อนาคตทางการเงินของคุณดูเหมือนจะมืดมน แต่หากเรารู้ตัวว่าเป็นคนใช้จ่ายฟุ่มเฟือย
จะดีกว่าไหมถ้าสามารถแปลงค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเหล่านี้มาเป็นเงินลงทุน เพื่อสร้างความมั่งคั่งให้กับเราในอนาคต ซึ่งจะมีวิธีการอย่างไร สามารถลดค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยลงเท่าไรถึงจะนำเงินมาลงทุนได้ ลองดูไปด้วยกัน
ลองสำรวจค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยในชีวิตประจำวัน
เริ่มจากการสำรวจค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยในชีวิตประจำวันของเรากันก่อน เชื่อแน่ว่าทุกคนต้องมีค่าใช้จ่ายส่วนนี้แอบแฝงอยู่บ้างไม่มากก็น้อย โดยเราอาจไม่รู้ตัวหรือคาดไม่ถึงมาก่อน ทั้งนี้ผู้ชายและผู้หญิงอาจมีค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยที่แตกต่างกัน เช่น ผู้ชาย มักมีค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เช่น ค่าไปเที่ยวเตร่กับเพื่อนฝูง ค่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ค่าบุหรี่ ค่าน้ำมันรถ ส่วนผู้หญิง มีค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย อย่าง ค่าช้อปปิ้งเสื้อผ้า ค่าเครื่องสำอาง ค่ารองเท้า ค่ากระเป๋า เป็นต้น สำหรับค่าใช้จ่ายแบบนี้ หากลองมานั่งจดรายจ่ายที่เกิดขึ้น จะเห็นว่าเดือนหนึ่งๆเราหมดเปลืองไปกับค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเหล่านี้เป็นหลักพันเลยทีเดียว ซึ่งถือว่าไม่น้อยเลย
เมื่อเราเห็นค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยแบบนี้ บางทีก็น่าเสียดายเหมือนกัน แต่แค่เราปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสักนิด ไม่ใช่ทั้งหมดด้วยซ้ำ ปรับลดค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย สักเดือนละ 500 บาทเท่านั้น ไม่มากเท่าไรเลย แล้วนำเงินนั้นมาลงทุนในกองทุนรวมอย่างสม่ำเสมอทุกเดือน โดยที่เราไม่ต้องไปดึงเงินส่วนอื่นมา เพียงแค่นี้ก็จะมีเงินงอกเงย เพิ่มพูนขึ้น แถมผลตอบแทนในส่วนของกำไรที่ได้รับยังไม่ต้องเสียภาษีอีกด้วย
ผลของการลงทุนอย่างสม่ำเสมอทุกเดือน
ลองมาดูกัน หากเราสามารถลดรายจ่ายฟุ่มเฟือยลงได้เพียงเดือนละ 500 บาท แล้วนำเงินนี้มาลงทุนในกองทุนรวมอย่างสม่ำเสมอทุกเดือนตามระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นคือ
* * สมมติ เรารับความเสี่ยงได้ปานกลาง ก็ให้ลงทุนในกองทุนผสมอันเป็นกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนในหุ้นและตราสารหนี้ กองทุนแบบนี้มีโอกาสได้รับผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 5% ต่อปี และเมื่อเวลาผ่านไป เงินส่วนนี้ก็จะงอกเงยมากขึ้นดังนี้
- ระยะเวลาที่ลงทุน 5 ปี ยอดเงินลงทุนที่ได้เมื่อครบระยะเวลา 34,003 บาท
- ระยะเวลาที่ลงทุน 10 ปี ยอดเงินลงทุนที่ได้เมื่อครบระยะเวลา 77,642 บาท
- ระยะเวลาที่ลงทุน 15 ปี ยอดเงินลงทุนที่ได้เมื่อครบระยะเวลา 133,645 บาท
- ระยะเวลาที่ลงทุน 20 ปี ยอดเงินลงทุนที่ได้เมื่อครบระยะเวลา 205,517 บาท
- ระยะเวลาที่ลงทุน 25 ปี ยอดเงินลงทุนที่ได้เมื่อครบระยะเวลา 297,755 บาท
- ระยะเวลาที่ลงทุน 30 ปี ยอดเงินลงทุนที่ได้เมื่อครบระยะเวลา 416,130 บาท
เมื่อเห็นผลการลงทุนแบบนี้แล้ว บอกเลยว่าเป็นเงินไม่ใช่น้อย ดังนั้นใครที่อยากมีเงินเก็บ อยากให้มีเงินงอกเงย ออกดอกออกผลมากขึ้นเรื่อย ๆโดยที่ไม่ได้กระทบรายจ่ายในชีวิตประจำวันอะไร ก็ลองนำวิธีนี้ไปใช้กัน เพราะแค่จุดเล็กๆจากการประหยัดเงินฟุ่มเฟือย เพียงแค่เดือนละ 500 บาท อาจกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ยิ่งใหญ่ที่จะทำให้เรามีเงินออม มีเงินลงทุนงอกเงยมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ใช่แค่หลักหมื่นแต่มากถึงหลักหลายแสนเลยทีเดียว ซึ่งสามารถสร้างความมั่งคั่งให้กับเราได้ในอนาคตแน่นอน
อ่านเพิ่มเติม : แนะนำแนวทางการแบ่งเงินลงทุนตามวัย
ข้อแนะนำสำหรับการลงทุน
ควรศึกษารายละเอียดและเงื่อนไขของกองทุนรวมที่สนใจก่อนที่จะตัดสินใจลงทุน
ควรลงทุนในกองทุนรวมอย่างสม่ำเสมอทุกเดือน จะให้ดีควรหักอัตโนมัติจากบัญชีธนาคาร เพื่อที่จะสร้างวินัยในการลงทุน ซึ่งก็จะส่งผลดีในอนาคได้มากทีเดียว
ข้อแนะนำสำหรับคนที่ตัดใจเก็บออมไม่ได้ แม้แต่ 500 บาท
สำหรับคนที่เก็บออมไม่ได้เลยแม้แต่เงินสัก 500 บาทต่อเดือน คุณไม่ได้แปลกประหลาดเป็นอยู่คนเดียว เพราะมีมนุษย์เงินเดือนมากมายที่ไม่สามารถทำได้ แต่ไม่เป็นไร เรามีวิธีมาบอก ทำตามนะ ถ้าอยากให้อนาคตทางการเงินดีขึ้น
- ปรับทัศนคติว่าเราสามารถออมได้ เนื่องจากคนที่เก็บเงินไม่ได้ส่วนใหญ่มักคิดว่ารายจ่ายมาก ไหนจะค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าส่งบ้าน ค่าส่งรถ ค่ากิน ค่าข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัว แบบนี้จะเอาเงินที่ไหนมาออม ขอให้เปลี่ยนความคิดเสียใหม่ เป็น ฉันจะต้องออมตั้งแต่วันนี้ ไม่เช่นนั้นฉันจะตกอยู่ในสถานการณ์แย่ๆแบบไม่มีเงินเก็บออมไปตลอดชีวิต และเมื่อวันที่แก่ตัวลงหรือวัยเกษียณจะลำบากหากไม่มีเงินอยู่เลย
- หักดิบให้หักเงินจากธนาคารเข้าบัญชีเก็บ หรือเข้ากองทุน 500 บาทไปเลย โดยให้ทำใจว่าเงินนี้ไม่มีตั้งแต่แรก นั่นคือ ถ้ามีเงินเดือน 20,000 บาท ก็ถือว่าเรามีเงินเดือนเพียง 19,500 บาท แค่นี้ก็สบายใจไม่ต้องกังวลถึงเงินส่วนนี้แล้ว
ไม่ยากเลยใช่ไหมล่ะ กับการวางแผนอนาคตเพื่อให้มีเงินเหลือใช้อย่างไม่ลำบาก ใครที่ชอบใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ลองทำตามวิธีเหล่านี้กันดู แล้วคุณจะมีเงินเก็บอย่างน่าพอใจแน่นอน
ขอบคุณข้อมูลจาก http://oknation.nationtv.tv/blog/print.php?id=1017024