ไม่ต้องเปลี่ยนกระเป๋าสตางค์หรือเรียงแบงก์ใหม่ก็มีเงินเก็บได้เยอะขึ้น
ความเชื่อเรื่องโชคลาง บุญ และ วาสนา เป็นสิ่งที่อยู่คู่กับคนไทยมาช้านาน บ้างก็ว่าคนที่เล่นของสามารถเอ่ยคาถาที่เรียกทรัพย์เข้ากระเป๋าได้ เหมือนกับพระเอกวรรณคดีสังข์ทอง ที่มีมนต์เรียกปลาให้กระโดดขึ้นมาให้จับได้ง่าย ๆ แต่ในชีวิตจริงไม่เป็นเช่นนั้น คาถา 108 ก็อาจจะไม่ช่วย หากเราไม่ได้มีความตั้งใจที่จะรวยจริง ๆ ดังนั้นผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินอย่างธนาคารกสิกรไทย จึงออกบทความ เพิ่มเงินในกระเป๋าด้วยหลัก 3Rs มาบอกเคล็ดลับเพิ่มเงิน เพื่อให้ลูกค้าทุกคนได้มีสติกับการใช้จ่ายมากขึ้น แต่ 3Rs คงไม่พอ ขอเพิ่มเป็น 5Rs เพื่อผลักดันการเงินของคุณให้เข็มแข็งรอบด้านขึ้นไปอีก ว่าแล้วก็มาฟังกันดีกว่าว่าหลัก 5Rs ที่ว่านี้คืออะไร?
เรียกเงินในกระเป๋าด้วยหลัก 5Rs
1 Reduce คิดว่าจะทิ้งให้น้อยที่สุด ใช้ของชิ้นนั้นให้นานที่สุด
เดี๋ยวนี้การซื้อของมันง่ายขึ้น อยากได้อะไรไม่ต้องไปถึงตลาด สั่งของออนไลน์กดตัดบัตรเดบิตและบัตรเครดิตได้ง่าย แต่การดูทีวี หรือแอปฯ ในมือถือ มันแสดงผลของใช้ที่ทั้งจำเป็นและไม่จำเป็นขึ้นมา เพราะรูปสวยน่าซื้อ แต่ซื้อมาแล้วอาจจะไม่ได้ใช้ ตั้งทิ้งไว้ เพราะฉะนั้นก่อนซื้อต้องคิด
2 Reuse ใช้ซ้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ถ้าคิดจะซื้อมาแล้ว ก็ต้องใช้บ่อย ๆ ให้สิ่งนั้นเกิดประโยชน์สูงสุด ยกตัวอย่างเช่น ซื้อรถยนต์คันใหม่มา ถ้าจอดไว้เฉย ๆ ก็จะเสื่อมราคา ต้องซ่อมยาง ซ่อมเครื่อง หากใช้งานทุกวัน ก็เสียค่าบำรุงรักษาเท่ากัน แต่เกิดประโยชน์มากกว่า
3 Recycle ซื้อของใช้ส่วนลด เอาของไปแลกเทิร์น
เมื่อจะต้องซื้อของใหม่สักอย่าง ให้คิดดูก่อนว่าใช้ของในบ้านมาปรับแต่งประดิษฐ์เป็นของใหม่ได้หรือเปล่า? อย่างกางเกงตัวเก่าถ้ารู้สึกว่ามันไม่สวยแล้ว ก็เอามาปรับแต่ง ตัดขา ติดตัวรีด ให้ดูน่าใช้มากขึ้นแต่หากใส่ไม่ได้แล้วจริง ๆ กางเกงบางรุ่นก็เอาไปแลกเทิร์นเป็นส่วนลดซื้อตัวใหม่ได้ สินค้าบางอย่างก็เทิร์นเพื่อรับส่วนลดได้เหมือนกัน
4 Repair อะไรที่เสียก็เอามาซ่อมแซมใช้ได้เสมอ
ซ่อมของใช้ในบ้านให้อยู่ในสภาพใช้งานได้เสมอ ไม่อย่างนั้นมันเก่าแล้วก็ต้องยกไปทิ้ง สิ่งของใกล้ตัวที่ควรเอามาซ่อมก็คือ เสื้อผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
5 Reject ปฏิเสธไม่ซื้อสิ่งที่จะมาเป็นขยะทำลายทรัพยากรในอนาคต
ข้อนี้ทำยากหน่อย เพราะว่าของทุกอย่างล้วนน่าซื้อไปหมด จะตัดใจไม่ซื้อก็กลัวว่าจะตก Trend มีไม่เหมือนคนอื่น วิธีการที่จะไม่ซื้อ สิ่งที่ตัดออกไปได้ก็คือของใช้ที่ทำจาก พลาสติก โฟม ที่ย่อยสลายยาก เพื่อไม่สนับสนับสนุนให้โรงงานผลิตของทำลายธรรมชาติออกมาอย่างไม่จำเป็น
เทคนิครักษาเงินในกระเป๋าแบบอื่น ๆ
นอกจากนี้ยังมีความเชื่อรักษาทรัพย์ด้วยการเรียงเงินในกระเป๋าสตางค์ให้ทิศทางของบัตรเป็นไปในทางเดียวกน หรือเลือกใช้สีของกระเป๋าสตางค์ที่ถูกโฉลก เข้ากับวันเดือนปีเกิดของผู้ถือ แต่อย่างไรก็ดี หากไม่มีหลักการในการใช้จ่ายเงิน ก็จะนำไปสู่หนี้สิน และภาระค่าใช้จ่ายต่อเดือนที่มากเกินความจำเป็น
มีอีกหนึ่งวิธีที่ทำให้การเก็บเงินของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น คือการเข้าไปอ่านวิธีการใช้เงินของคนอื่น ๆ จากเว็บบอร์ด หรือได้พูดคุยกับเพื่อน ๆ วัยเดียวกันที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งจะมีแรงบันดาลใจในการเก็บสะสมเงินสดมากขึ้น แล้วค่อย ๆ ปรับกับการใช้จ่ายของตัวเองอย่างค่อยเป็นค่อยไป เวลาเห็นยอดเงินสดสะสมในบัญชีจะได้รู้สึกภูมิใจในตัวเอง
สิ่งที่สำคัญที่สุดของการเก็บเงินไม่ใช่การ “หาเงิน” แต่เป็นการ “ใช้เงิน” หากได้อ่านบทความนี้แล้วคุณลองตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออก และเพียงใช้หลักการทั้ง 5 ข้อนี้ ลดการซื้อของเข้าบ้านบ่อย ก็จะเหลือเงินเก็บไว้ลงทุนกับกองทุน หรือ ใช้จ่ายในเรื่องจำเป็นอื่น ๆ หรือเอาไปบริหารจัดการหนี้ อย่างเช่นก็จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินให้เราได้อีกทาง