รู้ไว้ไม่เป็นเหยื่อมิจฉาชีพ! กับ 6 วิธีป้องกันบัตรเครดิตโดนแฮก
ในช่วงปลายปีที่ผ่านมาเชื่อว่าหลายคนคงได้เห็นข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย เรื่องของบัตรเดบิต และบัตรเครดิตโดนแฮกกันมาบ้าง จากการที่มีผู้เสียหายถูกตัดเงินจากบัญชีไปโดยไม่รู้ที่มา จึงเริ่มมีการสืบหาความจริง และพบว่ามาจากกลุ่มมิจฉาชีพที่ใช้วิธีการสุ่มข้อมูลบัตร และนำไปปลอมแปลงในการทำธุรกรรมทางการเงินต่าง ๆ โดยเฉพาะการซื้อสินค้าออนไลน์ เราจึงจำเป็นต้องรู้เท่าทันกลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าว ซึ่งในบทความนี้เราจะมาให้ความรู้ และข้อมูลถึงวิธีการป้องกันบัตรเครดิตโดนแฮกที่เราสามารถทำได้ด้วยตัวเอง
กลุ่มผู้ถือบัตรที่เสี่ยงต่อการเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ
- ผู้ถือบัตรเครดิตที่เป็น Visa หรือ Mastercard ถือบัตร ATM ที่เป็นบัตรเดบิต
- ผู้ที่มีการผูกบัตรเครดิตเข้ากับ e-Banking
- ผู้ที่มีการผูกบัตรเครดิตเข้ากับแอปพลิเคชั่นในการชอปปิงออนไลน์ รวมถึงโซเชียลมีเดียต่าง ๆ
การป้องกันและแก้ปัญหาบัตรเครดิตโดนแฮกของสถาบันการเงิน
อันดับแรกต้องพูดถึงมาตรการในการป้องกันและแก้ปัญหาบัตรเครดิตโดนแฮกของสถาบันการเงินที่ร่วมกันกำหนดขึ้นมาก่อน เพื่อให้เราเข้าใจว่า ถ้าสถาบันการเงิน มีวิธีการในการช่วยรองรับและแก้ไขปัญหาเมื่อเกิดสถานการณ์ไม่พึงประสงค์อย่างไรบ้าง ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้
- เพิ่มความรอบคอบในการตรวจสอบธุรกรรมที่ผิดปกติ หากพบความผิดปกติดังกล่าวจะมีการระงับบัตรเครดินทันที
- มีการแจ้งเตือนการทำธุรกรรมในทุกรูปแบบผ่านช่องทางต่าง ๆ ทั้งในแอปพลิเคชันและข้อความ SMS
- มีมาตรการรองรับเพื่อช่วยเหลือลูกค้าในกรณีที่ได้รับผลกระทบจากการทำธุรกรรมที่ทุจริต ดังนี้
- กรณีบัตรเดบิต สามารถรับเงินคืนได้ภายใน 5 วันทำการ
- กรณีบัตรเครดิต สถาบันการเงินจะทำการยกเลิกรายการธุรกรรมที่ผิดปกติให้ โดยลูกค้าไม่ต้องชำระเงินหรือดอกเบี้ยของธุรกรรมนั้น ๆ
4. ธนาคารแห่งประเทศไทยและทำการขอความร่วมมือกับบริษัทบัตรเครดิตและเดบิตอย่าง Visa หรือ Mastercard ให้ต้องใช้ OTP สำหรับร้านค้าออนไลน์
วิธีป้องกันตัวเองจากบัตรเครดิตโดนแฮก
1.ตรวจสอบธุรกรรมในบัตรเครดิตอย่างสม่ำเสมอ
เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากในการป้องกันและเครดิตโดนแฮก เพราะเดี๋ยวส่วนใหญ่มักจะไม่ได้ตรวจสอบรายการธุรกรรมและเลือกชำระค่าบัตรเครดิตโดยตัดเงินอัตโนมัติผ่านบัญชีธนาคาร ทำให้เราไม่เห็นธุรกรรมที่มีความผิดปกติ ซึ่งถ้าหากเราเห็นธุรกรรมที่มีความผิดปกติก็สามารถแจ้งกับทางสถาบันการเงินได้ทันทีเพื่อระงับบัตรหรือยังไม่เรียกเก็บยอดรายการนั้น
2.หลีกเลี่ยงการรูดบัตรเครดิตกับเครื่องรูดบัตรของร้านค้าที่ไม่น่าไว้วางใจ
กรณีที่ทำให้บัตรเครดิตโดนแฮกก็คือการที่เราไปทำการรูดบัตรผ่านเครื่องของร้านค้า ซึ่งอาจจะถูกเจาะระบบโดยพวกมิจฉาชีพได้ สามารถป้องกันได้โดยเฝ้าระวังระหว่างที่บัตรของเราถูกนำไปรูดรวมถึงหลีกเลี่ยงการรูดบัตรกับเครื่องรูดบัตรในสถานที่เสี่ยง เช่น สถานบันเทิง ปั๊มน้ำมันขนาดเล็ก เป็นต้น
3.ยกเลิกการผูกบัตรกับแอปพลิเคชันที่ไม่น่าไว้วางใจ
คนส่วนใหญ่มักจะผูกบัญชีบัตรเครดิต ไว้กับแอปพลิเคชันที่เราใช้งานเป็นประจำ โดยเฉพาะร้านค้าออนไลน์ เพื่อความสะดวกสบายในการทำธุรกรรม ซึ่งเราควรหลีกเลี่ยงหรือยกเลิก แอปพลิเคชันที่ไม่มีการให้ยืนยันตัวตนหรือกรอกเลข OTP ก่อนทำรายการ เพราะถ้าหากบัตรเครดิตของเราโดนแฮกและถูกนำไปทำธุรกรรมต่าง ๆ การไม่ต้องยืนยันตัวตนก็จะช่วยให้เรามีชาชีพทำงานได้ง่ายขึ้น
4.ใช้การจำรหัสผ่านดีที่สุด
เพื่อความสะดวกสบายในการใช้งานคนส่วนมากเมื่อกรอกรหัสผ่านของบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตแล้วก็มาจากเลือกให้แอปพลิเคชัน นั้นมีการจดจำ Password ไว้ ซึ่งความจริงแล้วเราควรเลือกใช้การจำรหัสผ่านและกรอกใหม่ในทุกๆครั้งจะดีกว่า เพราะแม้ว่าแพลตฟอร์มนั้น ๆ จะมีความน่าเชื่อถือมากแค่ไหนแต่ถ้าหากถูกเจาะระบบเข้าไปได้เหล่ามิจฉาชีพก็สามารถเข้าถึงข้อมูลเราได้ยังไงได้
5.อัปเดทระบบปฏิบัติการในมือถือให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด
หลายคนอาจจะสงสัยว่าการอัปเดตระบบปฏิบัติการในมือถือจะช่วยให้ป้องกันบัตรเครดิตโดนแฮกได้ยังไง สิ่งที่ช่วยได้ก็คือระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่มักจะมีการอัปเดทระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูลในมือถือให้ดีขึ้นอยู่เสมอ คืนนี้จะเป็นตัวช่วยที่ดีที่จะทำให้การเข้าถึงข้อมูลของเราของมิจฉาชีพทำได้ยากขึ้น ถ้าหากเราไม่อัปเดทระบบปฏิบัติการให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด อาจจะเป็นช่องโหว่ให้เหล่ามิจฉาชีพที่ใช้วิธีเจาะข้อมูลแบบเดิม ๆสามารถเข้าถึงข้อมูลของเราได้
6.หลีกเลี่ยงการใช้บัตรเครดิตที่มีวงเงินสูงเกินความจำเป็น
และข้อสุดท้ายที่เราสามารถทำได้ก็คือหลีกเลี่ยงการใช้บัตรเครดิตที่มีวงเงินสูงเกินความจำเป็น เพื่อป้องกันในกรณีที่เราถูกมิจฉาชีพแฮกบัตรเครดิต แนะนำเงินไปใช้ทำธุรกรรม นี่มีวงเงินต่ำก็ยิ่งทำให้ทำนำเงินไปทำธุรกรรมได้น้อย ข้อนี้จึงไม่อาจจะไม่ได้เรียกว่าการป้องกันการโดนแฮกสักทีเดียว แต่เป็นการช่วยลดผลกระทบเมื่อบัตรเครดิตโดนแฮกแล้วมากกว่า
เราไม่อยากให้ทุกคนคิดว่าการโดนแฮกบัตรเครดิตมันเป็นเรื่องไกลตัว เพราะตลอดช่วงระยะเวลาที่ผ่านมามีสถิติของคนที่กลายเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพอยู่หลายแสนคนและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพราะเราไม่ใช่อาชีพก็จะหากลโกงใหม่ ๆ มาใช้ในการเข้าถึงข้อมูลเรา ดังนั้นเรื่องนี้จึงสามารถเกิดขึ้นกับเราได้ทุกเมื่อ ลองนำ 6 วิธีข้างต้นที่เรานำมาแนะนำในวันนี้ไปปรับใช้ในการป้องกันตัวเองจากเรามีมิจฉาชีพ ที่สำคัญอย่าประมาทในการใช้บัตรเครดิตเด็ดขาด เพราะนั่นอาจจะทำให้เป็นช่องโหว่ในการเข้าถึงข้อมูลบัตรเครดิตของคุณได้