ส่องเทรนด์ 7 อาชีพที่ AI ยังแทนที่ไม่ได้ และได้เงินเดือนสูง
ไม่กี่ปีที่ผ่านมาเทคโนโลยี AI หรือปัญญาประดิษฐ์ มีการพัฒนาแบบก้าวกระโดด เรียกได้ว่าเข้ามามีบทบาทสำคัญในหลายธุรกิจจนเกือบแทนที่บุคลกรในบางอาชีพได้เลยทีเดียว ซึ่งเริ่มส่งผลให้บางอาชีพมีความเสี่ยงจะถูกทดแทน แต่ทั้งนี้ก็ยังคงมีบางสายงานที่ AI ในปัจจุบันยังไม่สามารถมาแทนที่ได้อยู่ และต้องใช้ทักษะพิเศษ วันนี้เราจะพาไปส่องอาชีพที่ AI ยังแทนที่ไม่ได้ และได้เงินเดือนสูง หากพร้อมแล้วไปดูกันเลย
ส่องเทรนด์ 7 อาชีพที่ AI ยังแทนที่ไม่ได้ เงินเดือนสูง และยังเป็นที่ต้องการ
การรายงานของสำนักข่าว MoneyTalksNews ได้วิเคราะห์ถึงเทรนด์อาชีพที่ยังมีความต้องการสูง รายได้งาม และที่สำคัญ AI ยังไม่สามารถแทนที่ได้มาให้ดูกัน โดยมีรายชื่อดังต่อไปนี้
- บุคลากรทางการแพทย์
แน่นอนว่าอุตสากหรรมทางการแพทย์ยังต้องการบุคลากรที่มีทักษะสูง ไม่ว่าจะ แพทย์ พยาบาล นักกายภาพบำบัด ที่ต้องมีหลายทักษะ และจำเป็นต้องใช้ความรู้ ความสามารถในการวินิจฉัย รวมถึงดูแลผู้ป่วย ซึ่งเทคโนโลยี AI ถือเป็นตัวช่วยที่ดีในปัจจุบัน แต่ยังไม่สามารถแทนที่ทักษะในการตัดสินใจ หรือการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ป่วยได้นั่นเอง
- ช่างเทคนิค และช่างฝีมือต่าง ๆ
เป็นอีกสายอาชีพที่ AI แทนที่ได้ยาก เนื่องจากต้องใช้ทักษะเฉพาะด้านที่ต้องอาศัยความชำนาญ และการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เช่น ช่างซ่อมต่าง ๆ ช่างไฟฟ้า รวมถึงการก่อสร้าง ที่ยังคงมีความต้องการสูง และ AI ไม่สามารถแทนที่ทักษะการทำงานภาคสนามได้
- ครู และบุคลากรทางการศึกษา
แม้ AI จะกลายมาเป็นอีกหนึ่งสื่อาคัญ ที่สามารถช่วยพัฒนาการเรียนการสอนได้ แต่การสื่อสารระหว่างครูกับนักเรียนก็ยังคงเป็นสิ่งจำเป็น และไม่สามารถนำระบบอัตโนมัติมาทดแทนได้ ดังนั้น อาชีพครู ที่ปรึกษาทางการศึกษา และนักจิตวิทยาในโรงเรียน ยังคงมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเด็ก และผู้เรียนอยู่
- นักจิตวิทยา
ในยุคปัจจุบันที่เต็มไปด้วยปัจจัยด้านลบที่ส่งผลกับสุขภาพกาย และสุขภาพจิต จึงทำให้ความต้องการบุคลากรด้านสุขภาพจิต ไม่ว่าจะ นักจิตวิทยา นักบำบัด หรือนักสังคมสงเคราะห์ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนทาง AI ก็อาจช่วยในกระบวนการวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรม แต่ไม่สามารถทดแทนความเข้าใจทางอารมณ์ และการสื่อสารที่อาศัยความเห็นอกเห็นใจของมนุษย์ได้
- เจ้าหน้าที่ความปลอดภัย และผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคง
อาชีพตำรวจ นักดับเพลิง และผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์ ต้องการทักษะในการตัดสินใจอย่างรวดเร็วภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉิน ระบบ AI จึงมักนำมาใช้ช่วยในงานวิเคราะห์ข้อมูล หรือเป็นระบบตรวจจับภัยคุกคามมากกว่า และไม่สามารถเข้ามาแทนที่การปฏิบัติงานจริงได้
- สายออกแบบ เน้นความคิดสร้างสรรค์
AI เป็นเทคโนโลยีที่ถูกนำมาใช้ในด้านออกแบบเป็นอันดับต้น ๆ ทั้งในการออกแบบกราฟิก หรือสร้างเนื้อหาข้อความได้ แต่ความคิดสร้างสรรค์ในระดับสูง เช่น งานออกแบบ UX/UI การตลาดเชิงกลยุทธ์ และการเขียนคอนเทนต์ที่ต้องอาศัยการวิเคราะห์เชิงลึก ก็ยังต้องพึ่งพาความเชี่ยวชาญของผู้มีประสบการณ์อยู่
- ด้านพลังงานสะอาด และสิ่งแวดล้อม
อุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียน อย่าง วิศวกรรมสิ่งแวดล้อม การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ และการจัดการพลังงาน ถือเป็นสายงานที่ต้องการความเชี่ยวชาญด้านความรู้ และทักษะระดับสูง จึงยากที่จะแทนที่ด้วย AI ซึ่งจะถูกนำมาช่วยในกระบวนการวิเคราะห์ข้อมูลด้านพลังงานเสียมากกว่า
ในปัจจุบันที่ AI เข้ามามีบทบาทมากขึ้นในหลายอุตสาหกรรม และใกล้ตัวเรามากกว่าที่ผ่านมา หลายอาชีพก็เริ่มมีความเสี่ยงถูกแทนที่ แต่ทั้งนี้ก็ยังมีบางสายงานที่ยิ่งเป็นที่ต้องการ และได้รับค่าตอบแทนที่สูง โดยเฉพาะสายอาชีพที่ต้องใช้ทักษะระดับสูง ต้องใช้ทักษะทางอารมณ์ เน้นความคิดสร้างสรรค์ และการตัดสินใจเฉพาะหน้า