ภาระหนี้สินคือกรงขังแห่งชีวิต ข้อความนี้คงเป็นข้อความที่สะท้อนถึงความเป็นจริงได้ดีที่สุด เนื่องมาจากว่าภาระหนี้สินนั้นเป็นตัวบ่อนทำลายอิสรภาพทางการเงิน ทรัพย์สินเงินทองที่แลกมาด้วยหยาดเหงื่อแรงกายนั้น แทนที่จะถูกใช้จ่ายเพื่อสร้างความสุขคืนกลับมาสู่ชีวิต ก็กลับต้องสูญเสียไปกับหนี้สิน รวมถึงดอกเบี้ยอันสูงลิบและทวีขึ้นทุกขณะจนเป็นวงจรที่ยากจะหาทางออก หนทางที่ง่ายที่สุดซึ่งจะทำให้เราไม่หลงเข้าไปในวงจรดังกล่าว ก็คงจะไม่พ้นไปจากการรู้จักหลีกเลี่ยงและเสริมเกราะป้องกันเสียตั้งแต่วันนี้ ส่วนจะมีวิธีใดบ้าง มาดูกัน
ทำประกันชีวิต
การทำประกันชีวิต เป็นช่องทางหนึ่งที่ช่วยป้องกันภาระค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดได้ เพราะนอกจากจะคุ้มครองและจ่ายค่าทดแทนในกรณีการเสียชีวิตแล้ว ประกันชีวิตหลากหลายกรมธรรม์ก็ยังมีการคุ้มครองและชดเชยรายจ่ายค่ารักษาพยาบาลในกรณีเจ็บป่วยหรือประสบอุบัติเหตุ ด้วยเหตุนี้จึงนับได้ว่าการทำประกันชีวิตนั้นเป็นการลงทุนเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่คุ้มค่า เพราะจะช่วยให้ท่านไม่จำเป็นต้องกู้หนี้ยืมสิน และไม่ต้องนำเงินเก็บมาใช้หากต้องพบเจอกับสถานการณ์ไม่คาดคิด แต่ทั้งนี้ก่อนตัดสินใจทำประกันชีวิตไม่ว่ากับบริษัทใด ก็ขอให้ศึกษารายละเอียดของแต่ละกรมธรรม์ให้ดีเสียก่อนด้วย เพื่อสิทธิประโยชน์สูงสุดที่ตัวท่านเองจะได้รับ
ทำประกันสังคม
ประกันสังคม มีลักษณะคล้ายคลึงกับการทำประกันชีวิต แต่จะแตกต่างกันในเรื่องของสิทธิประโยชน์บางประการ การทำประกันสังคมนับว่าเป็นการป้องกันความเสี่ยงในหลายแง่ ทั้งการได้รับค่าทดแทนกรณีการเสียชีวิต ตลอดจนถึงการชดเชยรายจ่ายค่ารักษาพยาบาล นอกจากนี้จุดเด่นอีกประการของการทำประกันสังคมก็คือ ผู้ประกันตนจะได้รับเบี้ยยังชีพกรณีที่เกษียณอายุหรือพ้นจากสภาพการทำงานอีกต่างหาก โดยถึงแม้เบี้ยยังชีพดังกล่าวจะไม่ได้เป็นเงินจำนวนมากมายนัก แต่ก็นับเป็นรายได้ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย และลดโอกาสต้องกู้หนี้ยืมสินในอนาคตได้
ดูแลสุขภาพ
เมื่อพิจารณาโดยผิวเผิน การดูแลสุขภาพอาจดูเสมือนเป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับการป้องกันภาวะหนี้สินสักเท่าไรนัก แต่แท้ที่จริงแล้ว ทั้งสองสิ่งมีความสัมพันธ์กันอย่างแยกไม่ออก เนื่องจากการดูแลสุขภาพนั้นนับได้ว่าเป็นการป้องกันภาระค่าใช้จ่ายในช่องทางหนึ่ง ค่าใช้จ่ายในส่วนดังกล่าวก็คือค่าใช้จ่ายประเภทค่ารักษาพยาบาล ยารักษาโรค หรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในกรณีที่เกิดปัญหาด้านสุขภาพ การดูแลสุขภาพจึงนับเป็นการตัดปัญหาที่ต้นเหตุ แทนต้องมาสูญเสียเงินทองเพื่อรักษาอาการป่วยในภายหลัง
ใช้ชีวิตด้วยความระมัดระวัง
คล้ายคลึงกันกับการดูแลสุขภาพ การใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังก็อาจนับเป็นช่องทางหนึ่งที่สามารถช่วยป้องกันภาระค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดได้ ตัวอย่างเช่น การใช้รถใช้ถนน หากขับขี่ด้วยความระมัดระวังก็จะช่วยป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งผลพวงที่ตามมาก็คือ นอกจากจะไม่ต้องเจ็บตัวและสูญเสียเงินทองค่ารักษาพยาบาลแล้ว ยังช่วยป้องกันไม่ให้รถยนต์ซึ่งเป็นทรัพย์สินอันมีค่าต้องเกิดความเสียหายจนกลายเป็นภาระค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมอีกต่างหาก
เสริมความมั่นคงของรายได้
หลายท่านอาจคิดว่าการประกอบอาชีพที่มีรายได้ประจำนั้นเป็นสิ่งที่การันตีถึงความมั่นคงทางด้านการเงิน แต่หากพิจารณากันอย่างลึกซึ้งก็จะพบว่า แท้ที่จริงแล้วอาจไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป ในปัจจุบันมีพนักงานบริษัทจำนวนมากที่คิดว่าการมีรายได้ประจำเป็นเงินเดือนนั้นคือสิ่งที่การันตีความมั่นคงทางด้านการเงิน เมื่อเห็นว่ามีรายได้คงที่ตลอดทุกเดือน ก็เริ่มคิดอยากจะซื้อบ้าน ซื้อรถ หรือแม้กระทั่งทำบัตรเครดิตทั้งที่ไม่มีความจำเป็น โดยที่ไม่ทันคิดว่าหากวันหนึ่งตนมีความจำเป็นจะต้องออกจากงาน ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม ตนจะสามารถรับผิดชอบต่อภาระหนี้สินนั้นได้อย่างไร
หนทางช่วยสร้างความมั่นคง และป้องกันความเสี่ยงในกรณีเช่นว่าได้ ก็คงจะต้องเริ่มจากการแสวงหาอาชีพอื่นเพื่อเป็นรายได้เสริมสำรองไว้บ้าง เพราะอย่างน้อยที่สุด หากเกิดกรณีจำเป็นที่ต้องออกจากงานประจำโดยไม่ทันคาดคิด ก็จะยังคงมีรายได้ในส่วนอื่นมาทดแทนอยู่บ้าง ซึ่งจะช่วยทั้งป้องกันและแบ่งเบาภาระหนี้สินที่มีอยู่หรือที่อาจจะเกิดขึ้นได้
วางแผนการเงินระยะยาว
การวางแผนการเงินระยะยาว เป็นอีกวิธีสามารถช่วยป้องกันภาวะหนี้สินได้ เนื่องจากเป็นการเตรียมรับมือกับภาระค่าใช้จ่ายในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของภาระค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ ตัวอย่างเช่น การวางแผนเช่าซื้อรถยนต์ บ้าน ที่ดิน หรือแม้แต่การมีบุตร ทุกสิ่งที่กล่าวถึงนั้นเป็นสิ่งล้วนมาพร้อมกับภาระค่าใช้จ่ายที่เป็นเงินก้อนโต การวางแผนและเตรียมรับมือเสียแต่ต้น ก็จะช่วยลด แบ่งเบา หรืออาจถึงขั้นที่ช่วยให้ท่านไม่จำเป็นต้องกู้หนี้ยืมสินได้
ใช้จ่ายอย่างมีเหตุผล
และวิธีสุดท้ายซึ่งเป็นวิธีที่สำคัญที่สุดในการป้องกันภาระหนี้สินก็คือการใช้จ่ายอย่างมีเหตุผล การใช้จ่ายอย่างมีเหตุผลนั้นไม่ได้หมายถึงการใช้จ่ายน้อยหรือพยายามไม่ใช้จ่าย แต่หมายถึงการใช้จ่ายอันจะได้มาซึ่งสิ่งที่คุ้มค่าต่อเงินที่สูญเสียไป และเป็นสิ่งที่มีความจำเป็น ทั้งยังสามารถใช้ประโยชน์ได้จริง ทั้งนี้หัวใจสำคัญก็คือ ท่านจะต้องพยายามไม่หลงไปกับกลยุทธ์ทางการตลาด เช่น โปรโมชั่นลด แลก แจก แถม หรืออื่นใด จนเสียเงินทองจำนวนมาก แต่กลับได้มาซึ่งสินค้าที่ไม่มีความจำเป็น โดยเฉพาะท่านที่ใช้บัตรเครดิต เพราะอาจจะนำมาสู่ภาวะหนี้สิ้นได้
จากที่ได้อ่านข้อแนะนำเกี่ยวกับวิธีเสริมเกราะ ป้องกันหนี้ สินกันไปแล้ว ก็คงจะเห็นว่าไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินกว่าความพยายาม ทั้งนี้ หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์สำหรับท่านผู้อ่านทุกท่านนำไปเป็นข้อคิด เป็นแนวทางในการบริหารจัดการชีวิตและการเงินกันได้