สำหรับเพื่อนๆที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศ จะเห็นได้ว่าเรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทางนั้นถือเป็นปัจจัยลำดับต้นๆที่เราต้องให้ความสนใจมากทีเดียว วันนี้พี่หมี GoBear มีเคล็ดลับ 7 หมัดเด็ดเที่ยวเมืองนอกอย่างไรไม่ให้กระเป๋าฉีก! มาฝากกันครับ
1) ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นสำหรับงบประมาณการท่องเที่ยว
ก่อนที่เราจะไปเที่ยวต่างประเทศนั้นก็ต้องมีการวางแผนกันก่อนใช่ไหมครับ ถึงแม้ว่าการจองตั๋วล่วงหน้าทั้งเรื่องที่พัก หรือการเข้าชมถานที่ท่องเที่ยวต่างๆไว้ก่อนจะเป็นวิธีที่ดีก็ตาม แต่บางครั้งเราก็อาจจะอยากเปลี่ยนโรงแรมที่พัก หรืออยากจะเปลี่ยนรถที่เช่ามา แทนที่จะพยายามจอง ทำรายการทุกอย่าง และดูแลงบประมาณค่าใช้จ่ายต่างๆด้วยตัวเอง เพื่อนๆสามารถแบ่งเบาภาระได้ด้วยการใช้แอพพลิเคชั่นสำหรับการเดินทาง เช่น Mint Appication ที่ช่วยกำหนดงบประมาณสำหรับแต่ละทริป พร้อมทั้งรวบรวมข้อมูลรายจ่ายที่คุณจ่ายไปกับแต่ละอย่างในทริป พร้อมระบบป้องกันความปลอดภัยข้อมูลส่วนตัว หรือ TripIt แอพพลิเคชั่นที่นอกจากจะให้คุณวางแผนการเดินทางได้ด้วยตัวเองแล้วยังสามารถจองทั้งตั๋วเครื่องบิน โรงแรมที่พัก ร้านอาหาร แม้กระทั่งเช่ารถ ไปจนถึงแนะนำตำแหน่งที่นั่งบนเครื่องบินให้เราได้อีกด้วย เรียกได้ว่าครบครันสุดๆไปเลยครับ
2) หาข้อมูลที่พักให้พร้อม
คนส่วนใหญ่มักตัดสินใจเลือกโรงแรมในเครือมีชื่อเสียงที่พวกเขาคุ้นเคย หรือไม่ก็โรงแรมที่มีโปรโมชั่นส่วนลดในเว็บไซต์ค้นหาที่พักยอดนิยม ซึ่งทั้ง 2 วิธีก็เป็นทางเลือกที่ดีครับ แต่ก็ยังมีหลักในการเลือกโรงแรมที่พักอยู่อีกหลายอย่างที่เราสามารถนำมาเป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจได้ครับ โดยเฉพาะหากคุณเดินทางในกลุ่มเพื่อนๆ ไม่มีเด็ก และสะดวกใจในการใช้พื้นที่ส่วนกลางร่วมกับคนอื่น การเลือกพักโฮสเทลอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่าในการช่วยประหยัดเงินไปได้มากโขทีเดียว
แต่สำหรับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวที่มากขึ้น อาจมองหาโฮสเทลห้องเดี่ยว หรือเลือกเป็นสมาชิกของ VRBO.Com, Airbnb.comและ Home Exchange ซึ่งคอนเซ็ปต์จะคล้ายๆกับ Airbnb เพียงแต่ Airbnb เราจะต้องเสียเงินในการเลือกเช่าห้องแต่ที่ Home Exchange ใช้วิธีในการแลกเปลี่ยนระหว่างห้องของเรา กับห้องของคนอื่นๆในกลุ่มสมาชิกด้วยกันแทนครับ สำหรับการเช่าบ้านผ่านวิธีนี้จะช่วยให้คุณประหยัดเงินค่าที่พักไปได้พอสมควร โดยเฉพาะถ้าไปกันหลายคนยังสามารถใช้พื้นที่ห้องครัวของบ้านในการประกอบอาหารรับประทานกันเองได้ด้วย และอย่าลืมเลือกที่พักซึ่งใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวในแพลนของคุณ โดยควรเป็นย่านใจกลางเมือง ใกล้กับสายรถไฟ หรือป้ายรถประจำทาง เพื่อสะดวกและประหยัดค่าเดินทางด้วยครับ
3) ค้นหาตั๋วโปรโมชั่นราคาเด็ด
อย่าลืมติดตามเว็บไซต์หรือเพจเฟสบุ๊คส่วนลดตั๋วเครื่องบินต่าง ๆ ที่มีอยู่มากมาย และมักจะแจ้งข่าวให้เราทราบอยู่เป็นประจำสม่ำเสมอ หรือแม้กระทั่ง “ทัวร์ไฟไหม้” ซึ่งเป็นทัวร์ที่อาจมีการจองไว้จากหมู่คณะอื่นแล้วแต่ยังเหลือที่นั่งให้เราพอไปแจมด้วยได้ ราคาทัวร์ก็จะถูกกว่าปกติมากพอสมควรครับ หากเพื่อนๆใช้วิธีการจองผ่านตั๋วโปรโมชั่น ราคาตั๋วเครื่องบินอาจแตกต่างกันไปในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งช่วงเวลาที่เราจะได้ตั๋วถูกที่สุดนั้น ควรซื้อตั๋วล่วงหน้าภายใน 90-180 วันก่อนการเดินทางครับ เคล็ดลับคือให้เราเลือกออกเดินทางในวันพฤหัสบดี และกลับมาในวันจันทร์ก็จะได้ตั๋วที่เป็นราคาถูกที่สุดของโปรโมชั่น หรือหากเป็นช่วงปกติ ราคานี้จะช่วยให้เราประหยัดไปได้ 15-20% เลยครับ นอกจากนี้สายการบินส่วนใหญ่มักออกโปรโปโมชั่นลดราคาในช่วงโลว์ซีซั่น หรือช่วงเดือนกันยายน แต่อาจจะต้องเดินทางไปค่อนข้างเร็ว มีเวลาเตรียมตัวน้อยครับ
4) จำเป็นต้องเช่ารถหรือไม่
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ขับรถเป็น หรือเพื่อนๆในกลุ่มที่เดินทางไปร่วมทริปด้วยมีคนขับรถเป็น การเช่ารถก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งทีน่าสนใจครับ เพราะบางพื้นที่การจะเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะนั้นก็ไม่สะดวก หรืออาจต้องเสียค่าใช้จ่ายมากกว่าการเช่ารถ ตัวอย่างเช่น เพื่อนๆ ที่ต้องการไปเที่ยวเกาะใต้ ประเทศนิวซีแลนด์ การเช่ารถขับน่าจะเป็นวิธีที่สะดวก และทำให้เพื่อน ๆ สามารถสัมผัสกับทัวทัศน์อันหลากหลายของนิวซีแลนด์ได้อย่างใกล้ชิดที่สุด หากเพื่อนๆตัดสินใจที่จะเช่ารถแล้ว อย่าลืมใช้เวลาสักนิดในการเปรียบเทียบหาโปรโมชั่นรถเช่าที่มอบข้อเสนอดีที่สุด อ่านรีวิวจากคนที่เคยเช่ารถจากบริษัทนั้นไป ทำความเข้าใจเกี่ยวกับการหมายการขับรถในประเทศนั้นๆ และเงื่อนไขประกันเดินทางที่บริษัทจะชดเชยให้หากมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นด้วยครับ
5) เปรียบเทียบและเลือกเดินทางด้วยวิธีที่คุ้มค่าที่สุด
กรณีที่ประเทศหรือเมืองที่เพื่อนๆเลือกเดินทางไปเที่ยวนั้นมีระบบขนส่งสาธารณะที่ค่อนข้างดี เราก็ไม่จำเป็นต้องเช่ารถขับ ซึ่งจะช่วยให้เราประหยัดเงินได้มากขึ้นจากการเลือกวิธีการเดินทางที่ประหยัดที่สุดในแต่ละเส้นทาง เพื่อนๆสามารถมองหาตั๋วรถไฟหรือรถโดยสารที่มีส่วนลดพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยว หรือสำหรับเยาวชน เช่น ซื้อตั๋วรถไฟสำหรับเดินทางในญี่ปุ่นล่วงหน้า เลือกซื้อบัตร Oyster สำหรับใช้งานในลอนดอนช่วงเวลาที่ไม่ใช่ชั่วโมงเร่งด่วน หรือบัตรเยาวชน IYTC (International Youth Travel Card) สำหรับบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 31 ปี เป็นบัตรที่ให้ส่วนลดในการเดินทาง จองตั๋วเครื่องบิน เที่ยว กิจกรรมบันเทิง และใช้บริการต่างๆกว่า 150,000 แห่งทั่วโลก
6) ศึกษาเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน
เพราะอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศนั้น มีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา เพื่อนๆจึงควรตรวจสอบอัตราแลกเปลี่ยนเหล่านี้ไว้ล่วงหน้าก่อนออกเดินทางอย่างน้อย 2 อาทิตย์ จนถึงหนึ่งเดือนล่วงหน้าก่อนออกเดินทาง เพราะจะเป็นประโยชน์กับเราเองที่สามารถแลกเงินได้ในเรตที่ดีที่สุด นอกจากนี้หากคุณจำเป็นต้องเดินทางต่อกันหลายๆประเทศ การพิจารณาว่าจะแลกเงินจากประเทศไหน หน่วยสกุลเงินอะไรก็เป็นเรื่องที่ควรทำนะครับ เช่น เราต้องการจะแลกเงินดอลลาร์สหรัฐฯ การไปแลกแถวออสเตรเลียหรือนิวซีแลนด์ น่าจะได้เรตดีกว่าแลกในยุโรปครับ
7) ร่วมสนุกกับกิจกรรมฟรี
เกือบทุกเมืองใหญ่ๆ มักมีการจัดงานกิจกรรม นิทรรศการ หรืองานเทศกาลที่เพื่อนๆสามารถเข้าร่วมได้ฟรีมากมาย แต่คุณจำเป็นที่จะต้องใช้เวลาค้นคว้าหาข้อมูลเกี่ยวกับเมืองที่จะไป ช่วงเวลา ตลอดจนรายละเอียดในการจัดงานสักหน่อย ยกตัวอย่างเช่น ลอนดอน เป็นเมืองที่เพื่อนๆสามารถเที่ยวฟรี ด้วยการเข้าร่วมชมนิทรรศการหรือพิพิธภัณฑ์ได้ฟรีเกือบจะทุกแห่ง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่เป็นสายรักการชมงานศิลป์และประวัติศาสตร์ ถ้าชอบความหรูหราขึ้นมาอีกนิกนิดลองดู ปารีส เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจครับ สำหรับคนที่อยากเข้าชมพิพิธภัณฑ์ลูฟว์ ซึ่งจะมีเปิดให้บริการเข้าชมฟรีทุกวันอาทิตย์แรกของเดือน ตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคมถึงมีนาคมเท่านั้น นอกจากนี้เพื่อนๆยังสามารถเข้าพิพิธภัณฑ์ลูฟว์ฟรีตามช่วงเวลาต่างๆดังต่อไปนี้ได้ครับ
- ฟรีทุกวัน สำหรับเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี หรือคนพิการพร้อมผู้ดูแล (อย่าลืมนำพาสปอร์ต หรือหลักฐานภาษาอังกฤษไปด้วยนะครับ)
- ฟรีทุกวันศุกร์ ระหว่าง 18:00 – 9:45 น. สำหรับบุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 26 ปี
- ฟรีทุกคน สำหรับวันที่ 14 ก.ย. Bastille Day ของทุกปี
อย่างไรก็ตาม วันที่สามารถเปิดเข้าชมฟรีนั้นมักจะแน่นขนัดไปด้วยผู้คนมากมาย จึงจำเป็นที่เพื่อนๆจะต้องไปต่อแถวเข้าคิวรอแต่เช้าประมาณ 8 โมง และอาศัยความอดทนในการรออีกสักนิดนะครับ นอกจากนี้ช่วงฤดูร้อนหลายๆประเทศยังมีการจัดงานคอนเสิร์ตประเภทดนตรีในสวนให้เราเข้าชมฟรีด้วยครับ
เป็นอย่างไรบ้างครับสำหรับเคล็ดลับที่เรานำมาฝากกัน นอกเหนือจาก 7 วิธีข้างต้นแล้ว GoBear ขอแนะนำให้เพื่อนๆทำประกันเดินทางไว้ด้วยนะครับ เพื่อที่เวลาเราเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น ถูกยกเลิกเที่ยวบิน เจ็บป่วย เกิดอุบัติเหตุ จะได้ขอเคลมประกันเดินทางได้ ไม่ต้องกลัวกระเป๋าฉีกระหว่างเดินทางไงล่ะครับ
บทความโดย: นันทรัช ชมภูแสง
Content Writer ประจำเว็บไซต์ GoBear ผู้หลงใหลการอ่านหนังสือและเชื่อมั่นในพลังของการถ่ายทอดความรู้สึกผ่านเรื่องราว มีความสุขกับการฟังเพลง ดูซีรีส์ และทุกอย่างที่เกี่ยวกับญี่ปุ่น
