ครอบครัวกับการเงินเป็นของคู่กันที่แยกไม่ออกเลยทีเดียว เรียกว่าพอมีครอบครัวปุ๊ปก็ต้องคุยกันเรื่องการเงินทันที แต่มีบางครอบครัวที่ไม่คุยกัน คือลองใช้ชีวิตแบบไม่ต้องสนใจเรื่องการเงินไปก่อน พออยู่ไปสักระยะจึงเริ่มเห็นอะไรบางอย่างที่ถ้าปล่อยไว้จะบานปลายแน่นอน ครอบครัวจึงต้องมีหลักในการใช้จ่ายเงิน เพื่อให้เกิดความสุขอย่างแท้จริง ไม่ต้องนอนเอามือก่ายหน้าผากเครียดกับเงินไม่พอใช้และพฤติกรรมของอีกฝ่าย เรามาดูกันเลยค่ะว่า 7 พฤติกรรมที่ทำแล้วจะช่วยให้การเงินดีขึ้นมีอะไรบ้าง
1.ไม่ใช้จ่ายมือเติบ
บางคนควักกระเป๋าเป็นว่าเล่นเลย เอาเงินมาจากบ้าน 500 บาท พอมีใครมาเสนอขายอะไรในที่ทำงานก็ควักจ่ายอย่างง่ายดาย หรือเพื่อนชวนไปกินอาหารกลางวันก็อาสาเป็นเจ้ามือเสียทุกรอบไป เพราะว่าเงินอยู่ในกระเป๋า ซึ่งนาน ๆ จ่ายสักทีก็ไม่เป็นไร แต่บางคนควักจ่ายจนเคยชิน เมื่อนั่งลงคิดยอดแล้วคงจะตกใจไม่น้อยที่เป็นคนมือเติบเห็นง่ายจ่ายไวนั่นเอง
2.ไม่ซื้อของฟุ่มเฟือย
หลายครอบครัวมีปัญหาภรรยาชอบซื้อของฟุ่มเฟือยอยู่เป็นประจำ เช่น ชอบช้อปปิ้ง ซื้อของแบรนด์เนม ซึ่งถ้านาน ๆ ทำทีคงไม่เกิดผลกระทบต่ออีกฝ่าย ถึงแม้ว่าตัวเธอจะมีรายได้มากพอ แต่แน่นอนว่าคู่ชีวิตก็อยากที่จะเห็นภรรยาตนเองรู้จักใช้จ่ายเงิน เพราะเขาอาจมองไปถึงอนาคตว่าหากมีลูกและภรรยายังติดซื้อของฟุ่มเฟือยเช่นนี้ จะสอนลูกให้ดีได้อย่างไร ซึ่งคุณภรรยาอาจคิดว่าไม่ใช่ปัญหาแต่บางครอบครัวสามีกลุ้มใจมาก ทางออกคือให้ลดการซื้อของฟุ่มเฟือยลงหรือไม่ซื้อเลยก็จะทำให้ครอบครัวมีความสุขขึ้น
3.ไม่ทำตัวเป็นคนรวย
สื่อต่าง ๆ ที่เราเห็นก็ทำให้เราอยากได้อยากเป็นเหมือนคนรวยขึ้นมา และก็มองหาสินค้าไฮโซต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า รองเท้า การแต่งกาย การไปทำหน้า ทำผม สปา นวดหน้านวดตา เป็นประจำอะไรประมาณนั้น ซึ่งบางครั้งต้องยอมรับว่าเราเลียนแบบพฤติกรรมของคนรวยและพยายามสรรหาสิ่งที่คนรวยใช้ วิธีการแต่งตัวของคนรวย โดยที่ไม่ได้มองที่รายได้ของครอบครัว ซึ่งหากคิดดี ๆ ก็คือความสุขของครอบครัวมิได้มาจากสิ่งปรนเปรอภายนอกแต่มาจากสิ่งดี ๆ ที่อยู่ภายในของกันและกันมากกว่า
4.ไม่ช้อปแหลก
เวลาเรามีเงินเยอะ ๆ อยู่ในมือและไม่มีใครห้ามปราม คุณผู้หญิงบางคนอาจติดช้อปแหลกทางโลกออนไลน์เพราะแค่คลิ๊กและเลือกดู จากนั้นก็จ่ายเงิน แล้วก็รอของ อีกไม่นานก็จะมีพัสดุมาที่บ้าน หลายคนจะดีใจมากที่มีพัสดุมาหาตนเอง ก็มักจะสั่งของเรื่อย ๆ ไม่มีหยุด ซื้อถือว่าเป็นพฤติกรรมช้อปแหลก หากสามีไม่ว่าอะไรและไม่กระทบการเงินก็คงจะไม่มีปัญหา แต่หากสามีเริ่มไม่พอใจและคุณยังไม่หยุดพฤติกรรมนี้ก็เชื่อว่าคุณจะสัมผัสกับความรู้สึกไม่พอใจของเขาแน่นอน
5.ไม่เปรียบเทียบกับคนอื่น
แต่ละครอบครัวมีประสบการณ์ชีวิตที่แตกต่างกัน ฐานะการเงินก็แตกต่างกัน อีกทั้งนิสัยใจคอของแต่ละคู่ยังแตกต่างกันด้วย หากครอบครัวที่สามีภรรยาเขามีระดับรายได้ที่สูงมากมาแนะนำคุณเรื่องการไปเที่ยว การซื้อเพรชซื้อทองเก็บไว้ ซึ่งคุณอาจจะมีรายได้แบบพอเพียงไม่ได้ทำธุรกิจอะไรก็ไม่สามารถทำตามที่เขาแนะนำได้ บางครอบครัวสามีใจดีต่อภรรยาอยากซื้ออะไรก็ซื้อไปเพราะเขามีเงินมากพอ แต่ครอบครัวคุณสามีอาจจะเคี่ยวและประหยัดมาก ดังนั้น คุณจึงควรปรับตัวในเรื่องการเงินให้เข้ากับคู่ชีวิตของคุณโดยไม่เปรียบเทียบกับครอบครัวอื่น จะทำให้เกิดความสุขในครอบครัว
6.ไม่ติดกินของหรู
การไม่ติดกินของหรูจะช่วยให้คุณมีฐานะการเงินดีขึ้น เพราะการไปกินของหรูบ่อย ๆ นั่นเป็นค่าใช้จ่ายอย่างชัดเจน ซึ่งแต่ละมื้อจ่ายหนักมากหลักร้อยอาจถึงหลักพัน การกินของหรูนาน ๆ ครั้งไม่ได้ทำให้เกิดปัญหา แต่ถ้าติดกินของหรูเกือบจะทุกวันปัญหาย่อมเกิดคือจะกินอะไรแต่ละทีก็คิดแต่จะไปร้านหรู ๆ ราคาแพง ๆ พลางปลอบใจตนเองว่าเรื่องกินอย่าหวงไปเลย ซึ่งหลังจากคุณกินเสร็จคุณจะรู้ว่าก็แค่อิ่ม บางครั้งคุณต้องไปหาอะไรทานเพิ่มหลังทานอาหารหรูนั่นด้วย ซึ่งพฤติกรรมนี้หากแก้ได้คุณจะมีเงินเหลือมากทีเดียว
7.ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่
เรื่องนี้จะเน้นไปที่คุณผู้ชายเป็นหลัก เพราะลองคำนวณค่าใช้จ่ายที่หมดไปกับการกินเหล้าและสูบบุหรี่ในแต่ละวันดูจะพบว่ามีค่าใช้จ่ายที่ไม่น่าเสียไป ยิ่งนานวันก็ยิ่งสะสมเป็นพันเป็นหมื่นบาทแล้วแต่ว่าใครจะจัดหนักวันละกี่กลมหรือกี่มวน ภรรยาอาจจะยอมสามีในเรื่องนี้เพราะเห็นว่าใคร ๆ เขาก็ทำกัน จึงทำให้เกิดเป็นความเคยชิน หากอยากเห็นคนรักมีสุขภาพดีและไม่เสียเงินไปกับเรื่องพวกนี้ คุณควรจะจริงจังที่จะพาคุณสามีไปเลิกเหล้าเลิกบุหรี่ที่มีหน่วยงานรองรับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องไม่เป็นการบังคับ คุณควรพูดถือข้อดีของการเลิกเหล้าเลิกบุหรี่ให้สามีฟังบ่อย ๆ เพื่อเขาจะได้เกิดความต้องการเปลี่ยนแปลงด้วยตัวของเขาเอง