ในขณะที่ร่างกายของเราสมบูรณ์แข็งแรง แต่ถ้าหากมีเหตุการณ์ที่คุณไม่คาดคิดเกิดขึ้น ซึ่งอาจรุนแรงจนไม่สามารถทำให้คุณดำเนินชีวิตได้ตามปกติ แน่นอนว่านอกจากค่ารักษาพยาบาลที่จะเป็นภาระกับคุณแล้ว รายได้ประจำ หรือรายได้เสริมต่างๆ ที่คุณเคยได้รับจากการทำงาน ก็อาจลดน้อยลงหรืออาจไม่ได้รับอีกด้วย ซึ่งคุณคงจะต้องถามตัวเองว่ามีความพร้อมแล้วหรือยังสำหรับเหตุการณ์ต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทุกขณะ
ข้อดีของการทำประกันอุบัติเหตุ
การทำประกันอุบัติเหตุเป็นหนึ่งในคำตอบที่ดี เพราะจะสามารถช่วยบรรเทาความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นได้ไม่มากก็น้อย ซึ่งความคุ้มครองจะถูกกำหนดขึ้นจากพื้นฐาน ของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงของผู้ได้รับอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการเสียชีวิต, สูญเสียอวัยวะ, ค่ารักษาพยาบาล, ทุพพลภาพ รวมถึงการจ่ายเงินชดเชยในกรณีที่ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ตามปกติ
ทำไมต้องทำประกันอุบัติเหตุ
ประกันอุบัติเหตุ หรือประกัน PA ( Personal Accident ) เป็นกรมธรรม์ที่มีการจ่ายเงินชดเชยให้ในกรณีที่ผู้ทำประกันเสียชีวิต หรือสูญเสียอวัยวะ ทุพพลภาพ ที่เกิดจากอุบัติเหตุ ซึ่งยังมีประกันอุบัติเหตุบางแพ็คเกจ ที่มีการเสนอข้อคุ้มครองเพิ่มเติมในส่วนอื่นๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น การเสียชีวิตจากการขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ ซึ่งปกติจะเป็นข้อยกเว้นของประกันอุบัติเหตุ รวมถึงการคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล ที่เกิดจากอุบัติเหตุ ฯลฯ
บุคคลประเภทใดที่ควรทำประกันอุบัติเหตุ
บุคคลที่ควรทำประกันอุบัติเหตุคือ ผู้ที่มีความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุในชีวิตประจำวัน แม้ว่าประกันอุบัติเหตุจะเน้นให้ความคุ้มครองต่อการเสียชีวิต หรือ ทุพพลภาพที่เกิดจากอุบัติเหตุเป็นหลักก็จริง ซึ่งแน่นอนว่าไม่ค่อยมีใครอยากให้เกิด และไม่ค่อยอยากเคลมตรงจุดนี้ แต่การทำประกันอุบัติเหตุ ยังให้ความคุ้มครองสำหรับค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุ ซึ่งถือว่ามีประโยชน์มาก ไม่ว่าจะเป็น แขนหักจากการตกจักรยาน หรือขาหักจากการออกกำลังกาย ,ผู้ที่ขาหัก จากการเล่นฟุตบอล ,โดนสุนัข จรจัดกัดจากการเดินหรือวิ่ง ขณะออกกำลังกาย หรือแม้แต่สุนัขที่ตนเองเลี้ยงกัด ก็สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้
สิ่งที่ควรพิจารณาในการเปรียบเทียบของการคุ้มครอง ประกันอุบัติเหตุ
ประกันอุบัติเหตุที่ส่วนใหญ่จะให้ความคุ้มครองหลักคือในกรณีเสียชีวิต อวัยวะ หรือทุพพลภาพถาวรอย่างสิ้นเชิง เป็นพื้นฐาน แต่สิ่งที่ควรดูเพิ่มเติม คือ ผลประโยชน์ต่างๆ ที่แต่ละแพ็กเกจให้นอกเหนือจากที่กล่าวข้างต้น ไม่ว่าจะเป็นวงเงินที่คุ้มครองการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุขณะขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ ซึ่งปกติส่วนนี้จะเป็นข้อยกเว้น เพราะหากไม่ระบุไว้ว่าคุ้มครองให้เข้าใจว่าจะไม่คุ้มครองในส่วนตรงนี้ แต่กรณีที่ระบุตัวเลขไว้ ส่วนมากจะให้ที่ 50% ของกรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุอื่น ๆ ซึ่งบางบริษัทให้ถึง 100% ก็เท่ากับการเกิดอุบัติเหตุอื่น ๆ ซึ่งเหมาะสำหรับกลุ่มผู้เอาประกันที่ใช้รถจักรยาน ยนต์บ่อยหรือชื่นชอบกับขับขี่ big bike ฯ อาจดูจากวงเงินชดเชยที่จ่ายค่าใช้จ่ายรายเดือนให้แทนผู้ถือกรมธรรม์ อย่าง
การจ่ายค่างวดรถ ค่าผ่อนบ้าน ดูเบี้ยประกันของแต่ละบริษัทให้ดี ซึ่งส่วนใหญ่จะใกล้เคียงกัน ดูความมั่นคงของบริษัทประกัน โดยดูจากชื่อเสียง และระยะเวลาในการดำเนินธุรกิจ ว่ายาวนาน และมั่นคงพอสมควรหรือไม่ และที่สำคัญหลังได้รับกรมธรรม์มาแล้วก็ควรศึกษารายละเอียดและข้อยกเว้นต่างๆ เพราะหากไม่ตรงใจกับที่คิดไว้ คุณสามารถยกเลิกได้ในเวลา 15 วันหลังได้รับกรมธรรม์ ซึ่งไม่ควรปล่อยเวลาให้เนิ่นนานหรือค่อยมาศึกษาเมื่อถึงเวลาจะเคลม
วิธีเลือกการทำประกันอุบัติเหตุ
การเลือกความคุ้มครองของกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุ จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ อ.บ. 1 และ อ.บ. 2 ซึ่งควรจำคือ อ.บ. 2 จะให้ ความคุ้มครองที่เหมือนกับ อ.บ.1 แต่จะมีส่วนที่เพิ่มเติมขึ้นอีก อย่างการรับฟังเสียงและการพูดออกเสียง รวมถึงการสูญเสียอวัยวะ บางส่วนที่ไม่ได้รับการคุ้มครองใน อ.บ.1 ซึ่งการเลือกจึงควรเลือกความคุ้มครองที่ตรงกับความให้เหมาะสมกับตัวเอง โดย อ.บ. 2 จะมีเบี้ยประกันภัย สูงกว่า อ.บ. 1 เล็กน้อย การเลือกบริษัทประกันอุบัติเหตุที่ให้บริ การตามที่ต้องการ อย่างบางบริษัทมีบัตรประกันภัยอุบัติเหตุ ก็เพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้ารับการรักษาพยาบาลจากโรงพยาบาลที่อยู่ในเครือของบริษัทประกันภัย โดยที่อาจจะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ภายในวงเงินคุ้มครอง ซึ่งค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทางโรงพยาบาลจะเป็นผู้เรียกเก็บจากบริษัทประกันภัยโดยตรง
ในกรณีที่ทำประกันชีวิตอยู่แล้ว การประกันภัยอุบัติเหตุ ให้ความคุ้มครองอย่างไร?
การทำประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล จะให้ความคุ้มครองตลอด 24 ชั่วโมง และครอบคลุมทั่วโลก โดยให้ความคุ้มครองกรณีการสูญเสียชีวิต ,ทุพพลภาพถาวร ,ค่ารักษาพยาบาล ,การสูญเสียอวัยวะ และสายตา ในกรณีที่ทำประกันชีวิตอยู่แล้ว หลายคนสงสัยว่าทำไมต้องทำประกันภัยอุบัติเหตุเพิ่มอีก ในเมื่อประกันชีวิตจ่ายทุกกรณี ซึ่งไม่ว่าผู้ทำประกันจะเจ็บป่วยหรือประสบอุบัติเหตุ การทำประกันอุบัติเหตุ อาจจะจ่ายเฉพาะกรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเพียงอย่างเดียว ซึ่งอยู่ที่เงื่อนไขและข้อตกลงของแต่ละเจ้า โดยความคุ้มครองภายใต้กรมธรรม์แผนคุ้มครองอุบัติเหตุนี้ ส่วนใหญ่จะจ่ายเต็มทุนประกันกรณีเสียชีวิต หรือหากเกิดทุพพลภาพจากอุบัติเหตุ แม้ว่าคุณจะได้รับเงินชดเชยจากกรมธรรม์ฉบับอื่นก็ตาม และด้วยวงเงินเอาประกันภัยที่เท่ากัน และเบี้ยประกันภัยในส่วนของอุบัติเหตุจะถูกกว่ามาก ซึ่งตรงนี้จะเรียกได้ว่าเป็นการเพิ่มมูลค่าชีวิตของผู้เอาประกันภัยที่ทำเพื่อครอบครัว หรือคนข้างหลัง ก็ว่าได้ ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น ส่วนค่ารักษาพยาบาลจะจ่ายให้ตามที่ลูกค้าได้จ่ายไปจริง แต่ว่าสูงสุดไม่เกินวงเงินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ และยังไม่ได้เบิกค่าใช้จ่ายกรมธรรม์ หรือสวัสดิการอื่นๆ ซึ่งการประสบอุบัติเหตุในปัจจุบันในแต่ละครั้ง ส่วนใหญ่พบว่าค่ารักษาพยาบาลค่อนข้างที่จะสูงมาก ทำให้หลายคนมีความจำเป็นที่ควรจะต้องมีความคุ้มครองสำรองไว้เสมอ