การมีบ้านเป็นของตัวเองสักหลัง เป็นความฝันของหลายๆคน พอมีเงินเก็บ ก็อยากสานฝันมีบ้านเป็นของตัวเอง แต่ปัญหาคือ เงินที่เก็บออมไว้มีพอแค่จ่ายเป็นเงินมัดจำและเงินดาวน์เท่านั้น ส่วนที่เหลือต้องเป็นหนี้ก้อนใหญ่ ต้องชั่งใจดูว่า การเป็นหนี้ กับการทำตามความฝันแบบไหนจะคุ้มค่ากว่ากัน อยากเราไม่อยากเป็นหนี้ แล้วก็อยากมีบ้านด้วยจะเป็นไปได้ไหม คือว่าไม่อยากอาศัยอยู่ในห้องเช่าแคบๆ จะมีทางออกแบบไหนบ้าง คำตอบคือ ลองเช่าบ้านอยู่ไปพลางๆก่อนจะดีไหม อยากน้อยเราก็ได้อยู่บ้านสะดวกกว่าหอพัก และไม่ต้องเป็นหนี้ก้อนโต ลองมาดูข้อดีของการเช่าบ้านกัน
1 . รักษาเงินก้อนไว้ได้
การเช่าบ้านไม่ต้องใช้เงินมากมาย อาจเสียค่ามัดจำล่วงหน้าบ้าง แต่ก็ไม่มากและจะได้เงินก้อนนี้คืนในท้ายที่สุดด้วย ทำให้เรารักษาสภาพคล่องทางการเงินไว้ได้
2 . รักษาความคล่องตัวของเรา
ในกรณีที่เราจะต้องเปลี่ยนที่อยู่ในอนาคต เนื่องมาจากเปลี่ยนที่ทำงาน หรือมีปัญหาสุขภาพทำให้ต้องออกไปอาศัยอยู่ในที่ที่อากาศบริสุทธิ์สักพัก เราก็สามารถย้ายออกได้ จึงให้ความคล่องตัวและยืดหยุ่นกับเราอย่างมาก
3 . ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง
หากเกิดปัญหาทางการเงิน เพราะเราปลอดภาระหนี้สินระยะยาว เช่น การมีเหตุฉุกเฉินทางการเงินต่างๆ ถ้าเรามีเกินก้อนที่ไม่ติดภาระหนี้สิน ก็สามารถโยกย้ายเงินไปจัดการได้ทันที ไม่ต้องไปก่อหนี้เพิ่มขึ้นอีก ในกรณีที่จำเป็นต้องใช้เงินจริงๆ
4 . ทำให้ปลอดปัญหาเรื่องบ้านหลายๆเรื่อง
เช่น ไม่ต้องเสียภาษีโรงเรือน ไม่ต้องจ่ายค่าส่วนกลางของหมู่บ้าน ไม่ต้องกังวลเรื่องภัยพิบัติต่างๆ เช่น น้ำท่วม ดินทรุด ถนนพัง เพราะเป็นบ้านเช่า ก็จะไม่สร้างความวิตกกังวล กับปัญหาจุกจิกเหล่านี้
5 . ไม่สิ้นเปลืองเครื่องตกแต่งบ้าน
เป็นธรรมชาติหากเรามีบ้านของตนเอง ก็จะต้องซื้อข้าวของ เฟอร์นิเจอร์ มาแต่งบ้าน แต่งสวนมากมาย หลายๆอย่างที่เบื่อแล้วก็ปล่อยทิ้งให้เสียของ
6 . ไม่ต้องทนเพื่อนบ้าน
ในกรณีที่เจอเพื่อนบ้าน หรือบ้านใกล้เคียงเป็นคนเรื่องมาก มีปัญหา เราสามารถย้ายออกได้เลย ไม่ต้องทนทุกข์กับเรื่องที่รบกวนจิตใจ บางครั้งอาจรุนแรงถึงขั้นเพื่อนบ้านเป็นโรคจิต เราก็จะมีความยืดหยุ่นมนการย้ายออกไปหาที่อยู่ใหม่ แต่ถ้าเป็นบ้านของตัวเอง ยังผ่อนไม่หมด หรือถ้าจะขายก็ขายลำบาก จะย้ายออกไปก็ไม่ได้ ต้องทนอยู่กับเพื่อนบ้านที่มีปัญหากันตลอดไป
ที่กล่าวมาเป็นข้อดีของการเช่าบ้าน การมีบ้านเป็นของตัวเองเป็นสิ่งที่ดีก็จริง แต่ก็นำมาซึ่งภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น และมีภาระของหนี้สินติดตามมาด้วย การมีหนี้สินที่เราคิดว่าสามารถชำระได้ตามตารางโดยไม่เดือดร้อน ก็ยังนับว่าดี แต่หากเกิดมีเรื่องฉุกเฉินต้องใช้เงินก้อนใหญ่ขึ้นมา ทีนี้จะเริ่มเกิดปัญหาชักหน้าไม่ถึงหลังเพราะ ถ้ารายได้เราคงที่ แต่มีรายจ่ายเพิ่มขึ้นมา หรือหากมีความจำเป็นต้องไปยืมเงิน ก็ทำให้การเงินเราสะดุด เป็นหนี้ทั้งสองทาง
หากเป็นไปได้ ลองชะลอฝันแล้วหันมาเช่าบ้านก่อน สัก 3 ปี 5 ปี รอให้การเงินเรามั่นคงกว่านี้ แล้วค่อยซื้อบ้านก็ยังไม่สาย เมื่อเงินมากขึ้นแล้ว การต้องจ่ายค่าปัญหาจุกจิกเกี่ยวกับบ้านก็ไม่สะเทือนแผนการเงินโดยรวมของเราทั้งหมด บางคนเพียงอยากมีบ้าน ทำงานมีเงินพอดีชำระหนี้ ไม่เผื่อเหลือเผื่อขาด อาจต้องมานั่งแก้ปัญหาทีหลัง เพราะซื้อบ้านทั้งที เราก็หวังจะอยู่ไปชั่วชีวิต ต้องคิดให้รอบคอบ มองปัญหาที่จะมาพร้อมบ้านในฝันให้ลึกซึ้งขึ้นอีกหน่อย ก็จะทำให้เราได้บ้านดีสมใจ หากยังไม่สามารถซื้อบ้านได้ตอนนี้ บ้านเช่านับเป็นทางออกที่ดีทางหนึ่ง และเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพทางการเงินของเราด้วย
อ่านเพิ่มเติม : มนุษย์เงินเดือนธรรมดากับโอกาสในการซื้อบ้าน
