บัตร Amex ดียังไง ทำไมต้องมี บัตรระดับพรีเมียมที่ควรรู้จัก
บัตรเครดิต เป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มนุษย์เงินเดือนหลายคนมีติดกระเป๋าเอาไว้ แต่บัตรเครดิตที่เราใช้กันตามปกติ มักเป็นบัตรเครดิตที่มาจากธนาคารผู้ให้บริการในประเทศไทย เวลาที่เห็นคนอื่นนำบัตรเครดิตที่ไม่คุ้นตาออกมาจากกระเป๋า จึงดึงดูดสายตาเราได้ไม่น้อยเลย โดยเฉพาะบัตร American Express (บัตร Amex Platinum) ที่เรียกได้ว่าพรีเมียมสุด ๆ ไม่ใช่ทุกคนจะมีครอบครองกันได้ง่าย ๆ ใครที่สนใจอยากลองสมัครบัตรเครดิตเจ้านี้ดู เราจะพาทุกคนไปดูกันว่าบัตร Amex ดียังไง ทำไมต้องมี?
ความเป็นมาของบัตร American Express
ความจริงแล้ว American Express ไม่ใช่บริษัทที่ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อตั้งใจจะทำบัตรตั้งแต่แรก บริษัทแห่งนี้ถูกก่อตั้งขึ้นมาในปี 1850 โดยทำธุรกิจขนส่งด้วยรถม้า ช่วงเวลานั้นธนาคารเป็นกลุ่มลูกค้าสำคัญ จนกระทั่ง 10 ปีให้หลังได้เกิดสงครามกลางเมืองในสหรัฐอเมริกาขึ้นมา กลับกลายเป็นว่าธุรกิจขนส่งด่วนด้วยรถม้าดันได้รับผลประโยชน์จากสงครามในครั้งนั้น ธุรกิจจึงขยายตัวอย่างรวดเร็ว มีสำนักงานร่วม 890 แห่งทั่วทั้งประเทศ มีการขยายเครือข่ายเส้นทางขนส่งถึง 10,000 ไมล์
30 ปีหลังก่อตั้งบริษัท ธุรกิจขนส่งเริ่มมีคู่แข่งทางการค้ามากขึ้นกว่าเดิม จนสงครามธุรกิจเข้มข้นอย่างถึงขีดสุด ด้วยเหตุนี้ ทางบริษัทจึงหันมาทำธุรกิจขนส่งเงินสดที่สามารถทำกำไรได้มากกว่าธุรกิจขนส่งด่วนมากมาย แต่สุดท้ายก็ได้รับผลกระทบจากการถือกำเนิดของธนาณัติอยู่ดี ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงตัดสินใจจะกลับไปพัฒนาการขนส่งด่วนอีกครั้ง จนกระทั่งเช็คเงินสดได้ถือกำเนิดขึ้น
ก้าวเข้าสู่ช่วงสงครามรอบครั้งที่ 1 บริษัทก็กลายเป็นที่รู้จักในยุโรป ทำหน้าที่ในการส่งออกเช็คเงินสดเป็นธุรกิจหลัก ด้วยเหตุนี้จึงเริ่มหันมาจับธุรกิจการเงินอย่างจริงจังในช่วงปี 1919 มีการขยายบริษัทในเครือขึ้นมามากมายควบคู่กับการทำธุรกิจท่องเที่ยว จนสุดท้ายก็มีการออกบัตรเป็นของตนเองขึ้นมา เพื่อกอบกู้สถานการณ์ธุรกิจด้านอื่นที่กำลังจะล่มสลายไป และกลับปังขึ้นมาเสียอย่างนั้น พวกเขาจึงกลายมาเป็นบริษัทบัตรเครดิตที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม และเป็นตัวแทนความหรูหราทางการเงินมาจนถึงในปัจจุบัน
บัตร Amex ดียังไง ทำไมต้องมี
บัตร American Express หรือ บัตร Amex หลายคนอาจไม่คุ้นหูสักเท่าไหร่ เพราะวิธีการสมัครไม่ค่อยจะเป็นมิตรกับเรา แถมบอกเลยว่าค่าธรรมเนียมจะไปแบบจุกๆ เงื่อนไขการสมัครเริ่มต้นต้องมีรายได้ตั้งแต่ 30,000 บาทขึ้นไปต่อเดือนอีกต่างหาก เลยเกิดคำถามที่ว่าบัตร Amex ดียังไง ทำไมต้องมี?
อันดับแรกเลย เจ้านี้มาพร้อมสิทธิพิเศษระดับพรีเมียมมากมายจะช่วยยกระดับชีวิตของเราให้ดูหรูหรามากขึ้นกว่าเดิม เวลาไปช้อปปิ้งแค่หยิบบัตรใบนี้ขึ้นมาก็พร้อมจะดึงดูดสายตาคนรอบข้างทุกคนให้หันมามองแล้ว อย่างที่บอกไปว่ไม่ใช่บัตรที่คนธรรมดาทั่วไปจะมีกันได้ทุกคน
ที่สำคัญบัตรบางประเภทยังสามารถใช้จ่ายได้อย่างอิสระ ไม่มีการกำหนดวงเงินให้วุ่นวาย อยากจะรูดซื้อรถซุปเปอร์คาร์ราคา 20 ล้านก็ทำได้ เพียงแต่ว่าเวลาถึงรอบชำระก็ต้องจ่ายเลยเป็นจำนวน ไม่มีการจ่ายขั้นต่ำ 10% ถึงแม้ว่าจะช่วยเปิดประสบการณ์การใช้จ่ายอย่างอิสระ แต่ก็เป็นการเอาเงินอนาคตมาใช้อย่างแท้ แต่ข้อดีก็คือไม่ทำให้เป็นหนี้นั่นเอง เพราะรูดจ่ายไปเท่าไหร่ ถึงเวลาก็ต้องจ่ายคืนเต็มจำนวนเท่านั้น ความหรูหราที่เกินระดับบัตรธรรมดาทั่วไปจาก American Express ยังไม่จบเพียงเท่านั้น จะมีอะไรน่าสนใจอีกบ้าง ไปดูกันเลย
- รับโบนัส 100,000 คะแนน เมื่อสมัครบัตร Platinum สามารถใช้คะแนนแลกตั๋วเครื่องบินชั้นธุรกิจเดินทางไปกลับโอซาก้า 1 ที่นั่ง มูลค่าสูงสุดถึง 60,000 บาท
- เปิดประสบการณ์ลิ้มรสอาหารระดับ 5 ดาวมูลค่าสูงสุดกว่า 14,000 บาท พร้อมเครดิตเงินคืนสูงสุดถึง 28,000 บาท ณห้องอาหารชั้นนำที่ถูกคัดสรรมาเป็นอย่างดีกว่า 1,400 แห่งทั่วโลก
- อภินันทนาการเข้าพักฟรี 1 คืน จาก 1 คืนที่เราชำระค่าห้องพักในโรงแรมที่ร่วมรายการ ช่วยให้ประหยัดสูงสุดกว่า 1 แสนบาทจากการเข้าพักเพียงแค่ 2 คืนเท่านั้น
- บัตรกำนัลที่พักฟรี 1 คืนกับโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ โรงแรมสุดหรูใจกลางกรุงมูลค่าร่วม 35,000 บาท พร้อมอาหารเช้าสำหรับ 2 ท่านในห้องอาหารเดอะ เวอร์รันด้า
- รับไปเลยบัตรสมาชิก Priority Pass ระดับเพรสทีจสูงสุด 3 ใบ สำหรับบัตรหลัก 1 ใบ และบัตรเสริมอีก 2 ใบ มูลค่าสูงถึงใบละ 429 ดอลลาร์สหรัฐ หรือตีเป็นเงินไทยแล้วประมาณ 15,000 บาท สามารถใช้สิทธิ์เข้าห้องรับรองในสนามบินมากกว่า 1,300 แห่งทั่วทั้งโลก
- มอบกรมธรรม์ประกันภัยเมื่อเดินทาง ด้วยวงเงินคุ้มครองสูงสุดถึง 25 ล้านบาท แล้ววงเงินคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลอีก 5 ล้านบาทต่อ 1 แผนการท่องเที่ยว ครอบคลุมทั้งบัตรหลัก คู่สมรส รวมถึงบุตรของสมาชิกบัตรหลัก และสมาชิกบัตรเสริม มูลค่าสูงถึง 27,000 บาท
- บริการรถลีมูซีนสุดหรู รับส่งเดินทางไปยังสนามบินแบบไม่จำกัดจำนวนครั้ง เมื่อสำรองเที่ยวบิน หรือห้องพักต่างประเทศมูลค่าตั้งแต่ 25,000 บาทขึ้นไป
- ร่วมเฉลิมฉลองวันเกิดด้วยการรับคะแนนสะสมไปเลย 3 เท่าทุกยอดใช้จ่าย 25 บาท สามารถทำคะแนนสะสมด้วยยอดใช้จ่ายสูงสุดถึง 50,000 บาทเลยทีเดียว
บอกเลยว่าทั้งหมดที่ว่ามานี้ ยังไม่ใช่สิทธิพิเศษทั้งหมดของบัตรจาก American Express แถมแต่ละใบยังมาพร้อมกับสิทธิพิเศษที่มีความหรูหราแตกต่างกันออกไปอีกด้วย จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมค่าธรรมเนียมบัตรของเจ้านี้จึงมาพร้อมกับความโหดอย่างถึงขีดสุด และต้องกำหนดเงื่อนไขรายได้ผู้มีสิทธิ์สมัครสูงถึงขนาดนั้น แต่หากใครสามารถสมัครบัตรเจ้านี้ได้ และสามารถรองรับค่าธรรมเนียมที่ตามมาในแต่ละปีได้ บอกเลยว่าเป็นบัตรพรีเมียมที่คุ้มสุด ๆ ไปเลย
บัตรเครดิต vs บัตรชาร์จการ์ด
บัตรจาก American Express สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทประกอบไปด้วยบัตรเครดิต และบัตรชาร์ดการ์ด ลักษณะการใช้งาน หรือการทำงานของบัตรทั้ง 2 ใบนี้ค่อนข้างคล้ายคลึงกัน แต่ก็ยังมีความแตกต่างอยู่เหมือนกัน สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าจะสมัครบัตรแบบไหนดี เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับบัตรทั้ง 2 ประเภทนี้กัน
- บัตรเครดิต
เริ่มต้นกับผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เราคุ้นเคยกันดีอย่างบัตรเครดิต บัตรที่มีการกำหนดวงเงินสำหรับการใช้จ่ายในทุกช่วงเวลา ลักษณะการทำงานก็เหมือนกับบัตรเครดิตทั่วไป นั่นก็คือมอบวงเงินให้กับเรา จากนั้นเราก็สามารถเอาไปใช้จ่ายได้ตามความต้องการในจำนวนวงเงินที่ถูกจำกัดเอาไว้ เมื่อถึงกำหนดชำระตามรอบบิล เราสามารถเลือกได้ตามความสะดวกว่าจะจ่ายแบบเต็มจำนวน หรือจ่ายขั้นต่ำ ซึ่งบัตรแต่ละใบก็จะมีการกำหนดขั้นต่ำในเปอร์เซ็นต์ที่แตกต่างกันออกไปด้วย
บอกก่อนว่าเป็นบัตรเครดิตที่มีดอกเบี้ย ดังนั้น การจะใช้บัตรจากบริษัทนี้จึงต้องอาศัยสติสักเล็กน้อย แต่ถึงอย่างนั้นก็มาพร้อมกับสิทธิพิเศษมากมายที่บอกเลยว่าคุ้มค่ากับดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียมที่เสียไปในแต่ละปีอย่างแน่นอน แถมยังมีการสะสมคะแนนเพื่อแลกเป็นเครดิตเงินคืนเข้าบัญชีได้อีกด้วย
- บัตรชาร์จการ์ด
อธิบายแบบเข้าใจง่ายๆ จบในประโยคเดียว คือบัตรที่ไม่มีการกำหนดวงเงิน เมื่อถึงระยะเวลาชำระเงิน เราสามารถชำระเงินแบบเต็มวงเงินได้วิธีเดียวเท่านั้น จะผ่อนชำระ หรือชำระขั้นต่ำไม่ได้ ดังนั้น คนที่เหมาะสำหรับตัดชาร์จการ์ดจึงเป็นคนที่มีวินัย และมีแผนบริหารจัดการทางการเงินของตัวเองเป็นอย่างดี เหมาะสำหรับไลฟ์สไตล์ของนักธุรกิจที่มีการใช้จ่ายเงินจำนวนมากในแต่ละวัน จะให้มานั่งใช้บัตรที่มีการกำหนดวงเงินก็คงยุ่งยาก และเสียเวลา
แต่สิ่งที่ทำให้บัตรใบนี้กลายเป็นบัตรที่หลายคนอยากมีไว้ในครอบครอง นั่นก็คือไม่ใช่ว่าเราจะเดินดุ่มๆ ไปสมัครได้ บริษัทจะเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินดังกล่าวให้กับผู้ที่มีความพิเศษทางการเงินด้วยตัวเองเท่านั้น อย่างเช่น นักธุรกิจที่จะต้องทำธุรกิจ หรือออกเดินทางไปต่างประเทศอยู่เป็นประจำ บริษัทคัดสรรแล้วว่าบุคคลเหล่านั้นเหมาะสำหรับบัตรชาร์ดการ์ดสุดพิเศษสำหรับพวกเขา จึงเป็นบัตรที่ไม่ใช่ทุกคนจะมีได้ เลยพิเศษสุดๆ ไปเลย
สรุปแล้ว บัตร Amex ดียังไง ทำไมต้องมี คำตอบก็คือเป็นบัตรที่มาพร้อมกับเงื่อนไขมหาโหด ค่าธรรมเนียมจัดหนักจัดเต็ม แต่สิ่งที่เสียไปก็คุ้มค่ากับสิ่งที่จะได้รับมา เพราะการถือบัตรไปนี้ไม่ต่างอะไรจากการเป็นคนพิเศษ ที่จะได้รับการดูแลแบบพิเศษ ทั้งหรูหรา พรีเมียมมากกว่าใคร บอกเลยว่าถึงค่าใช้จ่ายจากบัตรใบนี้จะมากเท่าไหร่ แต่สิ่งที่เราจะได้รับกลับคืนมาคุ้มค่ากว่านั้นแน่นอน