ออมเงินอย่างไร ให้รวยสมวัย

การออมเงิน คือสิ่งที่คนจำนวนไม่น้อยมักจะสอนและบอกต่อกันอยู่เสมอว่าให้รู้จักออมเงิน ให้ทำแบบนั้น ให้ทำอย่างนี้เพื่อที่จะให้ตัวเองนั้นได้มีเงินออมที่มากๆ ได้มีเงินเก็บที่มากๆ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามสิ่งหนึ่งที่เราควรจะคำนึงถึงเป็นอันดับแรกเลยก็คือ ช่วงอายุและวัยที่แตกต่างกัน ศักยภาพในคนแต่ละวัยก็แตกต่างกัน ฉะนั้นแล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายสักเท่าไหร่นะที่จะสอนให้คนทุกเพศทุกวัย ใช้เทคนิคหรือเรียนรู้เทคนิคออมเงินแบบเดียวกันหมด

ซึ่งทางที่ดีแล้วเราควรที่จะแยกเทคนิคการออมให้เหมาะกับแต่ละช่วงอายุกันดีกว่า ว่าควร ออมเงินอย่างไร และเราก็สามารถแบ่งได้ดังนี้

• วัยเรียนหรืออายุไม่ถึง 20 โดยประมาณ

คนที่ประสบความสำเร็จหลายๆคนไม่ว่าจะประสบความสำเร็จในธุรกิจเล็กๆจนไปถึงประสบความสำเร็จในธุรกิจใหญ่ๆ ก็มักจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าในวัยเรียน เป็นวัยที่สบายที่สุด เพราะทุกสิ่งทุกอย่างยังคงมีคนดูแลและก็ไม่มีรายจ่ายสักเท่าไหร่ เป็นวัยที่ลงทุนธุรกิจแล้วเจ๊งหรือพังยังไงก็ไม่เดือดร้อนเหมือนวัยอื่นๆ อีกทั้งยังไม่ต้องจ่ายค่าที่พักอยู่อาศัย ไม่ต้องจ่ายค่าน้ำ ไม่ต้องจ่ายค่าไฟ ประหยัดค่าอาหารในแต่ละมื้อและที่สำคัญคือมีรายรับเข้ามาตลอด!!

ด้วยเงินค่าขนมรายวัน นับว่าเป็นรายรับอย่างดีเลยล่ะสำหรับคนในวัยนี้โดยตัวเองเพียงแค่ทำหน้าที่เรียนหนังสือให้ดีก็พอ ซึ่งด้วยรายรับที่เป็นค่าขนมในทุกๆวันนี้ เราก็สามารถแบ่งมาสักส่วนหนึ่งเพื่อเก็บออมเอาไว้ใช้ในการลงทุนในอนาคตได้ แต่ก็ต้องพยายามหักห้ามใจตัวเองต่อสิ่งเร้าต่างๆรอบตัวด้วยนะ

• วัยสร้างตัวหลังเรียนจบหรือประมาณ 20-30 ปี

ช่วงเวลานี้ เริ่มเป็นช่วงที่ก่อร่างสร้างตัวด้วยตัวเอง เริ่มยืนด้วยลำแข้งของตัวเองอย่างเต็มตัว เป็นช่วงวัยเริ่มต้นแห่งการทำงานที่มีไฟอย่างมาก ไม่ว่าจะมีงานไหน มีงานอะไรที่สามารถทำแล้วได้เงิน คนในวัยนี้ก็สามารถทำได้หมดเลยล่ะ นับได้ว่าเป็นวัยที่มีกำลังในการหาเงินค่อนข้างสูง

สำหรับคนวัยนี้ แน่นอนว่าหลังจากที่เรียนจบก็ยังไม่มีหนี้สักเท่าไหร่หรืออาจจะมีไม่มาก จึงทำให้คนวัยนี้เป็นวัยที่สามารถรองรับความเสี่ยงได้สูงอย่างมากเลยล่ะ และถึงแม้ว่าคนในวัยนี้จะมีการลงทุนแล้วก็เกิดการขาดทุนขึ้นมา ก็ยังไม่ทำให้ชีวิตถึงกับล้มละลายเพราะยังมีเวลาอีกมากในการใช้หนี้คืนหรือหารายได้ส่วนอื่นมาทดแทน สิ่งที่คนวัยนี้ควรทำก็คือพยายามหากูรูด้านการเงิน หาทางลัดที่จะช่วยเรียนรู้เกี่ยวกับระบบการเงิน และเลือกออมเงินโดยเก็บเป็นตราสารทุนแบบหุ้นระยะยาว ค่อยๆเก็บกำไรทีละเล็กละน้อย

• วัยกำลังสร้างฐานะหรือประมาณ 31-40 ปี

ช่วงอายุประมาณนี้ เป็นวัยที่อะไรหลายๆอย่างเริ่มอยู่ตัว มีความมั่นคงในหน้าที่การงานและก็มีความก้าวหน้าในสายอาชีพงานที่ตัวเองทำอยู่ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม คนในวัยนี้ก็มีรายจ่ายที่สูงขึ้นด้วยนะเพราะว่าต้องใช้เงินส่วนหนึ่งในการสร้างตัวและครอบครัว

การออมเงินของคนในวัยนี้ อาจจะเป็นสิ่งที่ตัดสินอนาคตได้ดีกันเลยทีเดียวว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งเราควรที่จะแบ่งออม โดยนำส่วนหนึ่งไปฝากไว้กับตลาดหลักทรัพย์ในรูปของตราสารหนี้ก็ได้ และอีกส่วนหนึ่งอาจจะลงทุนลงไปในหุ้นที่มีความเสี่ยงน้อยหรืออาจจะลงทุนกับธุรกิจส่วนตัวก็ได้เช่นกัน

• วัยมั่นคงหรืออายุระหว่าง 41-55 ปี

ด้วยระยะเวลาการทำงานที่ยาวนานของงานที่ตัวเองกำลังทำอยู่ แน่นอนว่าจึงทำให้คนในวัยนี้หรือช่วงอายุนี้มีความมั่นคงอย่างมากเลยล่ะ อีกทั้งเงินเดือนที่ได้รับ รายได้ที่เข้ามาในกระเป๋า ก็อาจจะมากขึ้นตามประสบการณ์อีกด้วยนะ แต่ก็เป็นวัยที่มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างมากเช่นกันอย่างน้อยๆก็ต้องเก็บเงินส่วนหนึ่งไว้จ่ายค่าเทอม ค่าการศึกษาให้ลูก

การออมเงินของคนในวัยนี้ ควรออมเงินกับสิ่งที่เป็นความเสี่ยงต่ำๆ เพราะด้วยรายจ่ายและภาระที่ค่อนข้างมาก เมื่อไหร่ก็ตามที่สภาพทางการเงินมีปัญหา กว่าจะฟื้นตัวได้ก็ยากมาก ควรนำเงินไปฝากไว้กับธนาคารหรือลงทุนกับตราสารหนี้

• วัยเกษียณหรืออายุ 55 ปีขึ้นไป

เป็นวัยที่ต้องการเวลาพักผ่อนอย่างเต็มตัว เกษียณตัวเองจากงานที่ทำอยู่แล้วมาใช้ชีวิตเรียบง่ายๆ อีกทั้งลูกหลานของตัวเองก็เป็นวัยที่กำลังพยายามสร้างตัว จึงทำให้คนในวัยนี้ไม่ค่อยมีภาระผูกมัดสักเท่าไหร่

การออมที่เหมาะที่สุดก็คือการฝากธนาคารไว้กินดอกหรือซื้อตราสารหนี้ต่างๆ สามารถนำเงินไปลงทุนเล็กๆน้อยๆบ้างตามจังหวะและโอกาสแต่ไม่ควรลงทุนกับธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูง เพราะถ้าหากธุรกิจนั้นไม่ประสบผลสำเร็จก็ยากที่จะฟื้นตัวนะ การออมเงินไว้กินดอก ก็เพียงพอต่อการใช้ชีวิตแล้ว

เพียงเท่านี้เราก็สามารถมีเงินเก็บ มีเงินออมอย่างง่ายๆที่เหมาะสมกับวัยแล้ว และด้วยเงินออมเหล่านี้ ก็พร้อมที่จะทำให้ช่วงอายุแต่ละช่วงของเรา มีความมั่นคงไม่น้อยเลยล่ะ ไม่ว่าจะเกิดเรื่องที่ต้องใช้เงินมากแค่ไหน ก็สามารถรองรับได้แน่นอน