จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา ทำให้เกิดการตื่นตระหนกอีกครั้งว่าจะมีการล็อกดาวน์ทางเศรษฐกิจอีกครั้งหรือไม่ เนื่องจากเกิดกรณีทหารอียิปต์ในจังหวัดระยองและเด็กหญิงวัย 9 ปี ที่มากับคณะทูตประเทศซูดาน ได้ติดเชื้อ Covid-19 และหลังจากข่าวออกไปไม่กี่ชั่วโมง ร้านอาหาร โรงแรมภายในจังหวัดระยองไม่มีคนไปกินที่ร้านและถูกยกเลิกการจองห้องพักเป็นจำนวนมาก สิ่งได้ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการเป็นอย่างมาก เพราะรายจ่ายมีมากมาย แต่รายรับกับไม่มี ธุรกิจการท่องเที่ยวโรงแรมได้รับผลกระทบอย่างมากห้องพักถูกยกเลิกเกือบ 100%
ดังนั้นหลายธนาคารจึงออกมาให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ในช่วงเวลานี้ เพื่อเป็นช่วยเหลือผู้กระกอบการหลายคนที่กำลังเกิดวิกฤติขาดรายได้เพื่อมาจ่ายลูกน้อง ดูแลโรงแรม สถานประกอบการต่าง ๆ และหนี้บ้าน รถ บัตรเครดิต โดยมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อย ระยะที่ 2 เป็นการช่วยผ่อนปรนและช่วยเหลือลูกหนี้ที่มีความเดือดร้อนต่อไปอีกระยะ จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563
ธนาคารพาณิชย์และแบงก์รัฐบาลรวมจนถึง Non-Bank ได้ทยอยประกาศมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยระยะที่ 2 เพิ่มเติม 2 ส่วนใหญ่ ๆ คือ
- มาตรการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ขั้นต่ำ
โดยลูกหนี้เริ่มลงทะเบียนได้ ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม – 31 ธันวาคม 2563 (โดยต้องเป็นลูกหนี้ปกติ ไม่เป็น NPL ณ 1 มีนาคม 2563) โดยประเภทสินเชื่อมีดังนี้
- บัตรเครดิต >> เปลี่ยนเป็นสินเชื่อระยะยาว 48 งวด หรือ ขยายเวลาชำระหนี้ ดอกเบี้ยไม่เกิน 12%
- สินเชื่อส่วนบุคลที่มีวงเงินหมุนเวียน เช่น บัตรกดเงินสด >> ลดอัตราผ่อนขั้นต่ำ เปลี่ยนเป็นสินเชื่อระยะยาว 48 งวด ดอกเบี้ยไม่เกิน 22%
- สินเชื่อส่วนบุคคลที่ผ่อนชำระเป็นงวด และ สินเชื่อจำนำรถ >> ลดค่างวดอย่างน้อย 30% ดอกเบี้ยไม่เกิน 22%
- สินเชื่อเช่าซื้อ ไม่จำกัดวงเงิน เดิมมอเตอร์ไซค์ไม่เกิน 35,000 บาท / รถยนต์ทุกประเภท : ไม่เกิน 250,000 บาท >> เลื่อนชำระค่างวด (เงินต้นและดอกเบี้ย) 3 เดือน หรือ ลดค่างวดโดยขยายเวลาการชำระหนี้
- สินเชื่อบ้าน ไม่จำกัดวงเงิน เดิมไม่เกิน 3 ล้านบาท >> เลื่อนชำระค่างวด (เงินต้นและดอกเบี้ย) 3 เดือน หรือ ลดค่างวดโดยขยายเวลาการชำระหนี้
- ลดเพดานดอกเบี้ย เริ่ม 1 สิงหาคม 2563 เป็นต้นไป
ปรับดอกเบี้ยสินเชื่อบัตรเครดิต-บุคคลทั้งเพดานเป็นการทั่วไป ลดค่างวด-ขยายเทอมชำระหนี้สูงสุดนาน 90 เดือน หวังต่อลมหายใจลูกค้า ภายหลังจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกาศมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระยะที่ 2 ทั้งนี้ มาตรการช่วยเหลือหลักๆ คือ
- ปรับลดเพดานอัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตเหลือ 16% จาก 18%
- ปรับลดสินเชื่อส่วนบุคคลที่ผ่านชำระเป็นงวดและสินเชื่อส่วนบุคคลที่มีวงเงินหมุนเวียนเหลือ 25% จาก 28%
- ปรับลดสินเชื่อจำนำทะเบียนรถเหลือ 24% จาก 28%
รวมถึงขยายเวลาการพักชำระหนี้และยืดระยะเวลาการชำระหนี้ โดย ขยายวงเงิน ให้ผู้ให้บริการทางการเงิน พิจารณาขยายวงเงินแก่ลูกหนี้ดีต่อเนื่องและมีความจำเป็น เฉลี่ยต่ำกว่า 30,000 บาทต่อเดือน เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 2563 – 31 ธันวาคม 2564
ในส่วนของธนาคารพานิชย์ต่าง ๆ ที่ออกมาตรการช่วยเหลือมีมากถึง 13 ธนาคารรวมทั้งบัตรเครดิต
อย่างไรก็ตามขอให้ทุกท่านได้ติดต่อสอบถามกับธนาคารโดยตรงอีกครั้ง เพื่อความชัดเจนในข้อมูลและเผื่อว่ามีกรณียกเว้นต่าง ๆ ท่านจะได้รับคำแนะนำจากแต่ละธนาคารก่อนตัดสินใจ
1.ธนาคารกสิกรไทย
โดยมีเงื่อนไขของธนาคารดังนี้
<< แบบไม่ต้องลงทะเบียน >>
- ลูกค้าที่ใช้บริการบัตรเครดิตกสิกรไทย และบัตรเงินด่วน Xpress Cash ได้ลดดอกเบี้ยโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องติดต่อธนาคาร
- ลูกค้าสินเชื่อเงินด่วน XPress Loan และสินเชื่อรถ Kleasing สินเชื่อรถช่วยได้ ประเภทจำนำทะเบียนรถ ที่ได้รับการอนุมัติสินเชื่อตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2563 เป็นต้นไป จะได้รับการลดดอกเบี้ยโดยอัตโนมัติ
<< แบบลงทะเบียน >>
- เป็นลูกค้าที่ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมจากสถานการณ์COVID-19 เช่น ธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม สายการบิน หรือธุรกิจที่ปิดบริการชั่วคราวตามประกาศทางราชการ
- ลูกค้าต้องไม่ค้างชำระเงินต้นหรือดอกเบี้ยเกินกว่า 90 วัน หรือ 3 เดือน นับแต่วันครบกำหนดชำระ (NPL) ณ วันที่ 1 มีนาคม 2563
- ลูกค้าที่ได้รับการอนุมัติก่อนวันที่ 1 กรกฎาคม 2563
ช่องทางการลงทะเบียน
- ลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม – 31 ธันวาคม 2563
- พิมพ์ @help ผ่าน LINE Kbank Liveคลิก หรือสแกน QR CODE ด้านล่างนี้
2.ธนาคารกรุงเทพ
บัตรเครดิต
- ธนาคารช่วยเหลือโดยปรับลดอัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำมาอยู่ที่ 5% (จากเดิม 10%) จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 สำหรับผู้ถือบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพทุกประเภท และทุกรายได้รับสิทธิ์อัตโนมัติ โดยไม่ต้องลงทะเบียนขอรับสิทธิ์มาตรการที่ต้องลงทะเบียน
- เลื่อนชำระเงินต้น และดอกเบี้ย นาน 3 เดือน และลดดอกเบี้ยลงเหลือ 12% ในระหว่างเลื่อนชำระ
- เปลี่ยนประเภทการผ่อนชำระบัตรเครดิตเป็นสินเชื่อที่มีระยะเวลาผ่อนชำระ 48 งวด และลดดอกเบี้ยลงเหลือ 12%
- โอนภาระหนี้บัตรเครดิตค้างชำระเป็นการผ่อนชำระระยะยาว โดยลดดอกเบี้ยลงเหลือ 12% และสามารถใช้วงเงินบัตรเครดิตส่วนที่เหลืออยู่ได้ โดยคิดดอกเบี้ยปกติ
สินเชื่อส่วนบุคคล
ประเภทสินเชื่อเงินกู้ที่มีลักษณะหมุนเวียน (Revolving Loan)
- ลดอัตราผ่อนขั้นต่ำ ตามความสามารถในการชำระหนี้
- เปลี่ยนเป็นสินเชื่อที่มีระยะเวลา (term loan) 48 งวด หรือขยายระยะเวลาตามความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้า โดยคิดดอกเบี้ยไม่เกิน 22% ต่อปี ทั้งนี้ จะพิจารณาให้ใช้วงเงินที่เหลือตามความสามารถในการชำระหนี้ แต่เมื่อรวมกับยอดคงเหลือของสินเชื่อเดิมต้องไม่เกินกว่าวงเงินที่ได้รับการอนุมัติ
ประเภทสินเชื่อเงินกู้ที่ผ่อนชำระเป็นงวด (Installment Loan)
- ลดค่างวดอย่างน้อย 30% โดยคิดอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 22% ต่อปี
สินเชื่อที่อยู่อาศัย และสินเชื่ออเนกประสงค์ที่ใช้ที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกัน
- เลื่อนชำระค่างวด (เงินต้นและดอกเบี้ย) ระยะเวลา 3 เดือน หรือ
- เลื่อนชำระเงินต้น (จ่ายเฉพาะดอกเบี้ย) ระยะเวลา 3 เดือน และพิจารณาลดดอกเบี้ยให้ลูกค้าแต่ละรายตามความเหมาะสม หรือ
- ลดค่างวดโดยขยายเวลาการชำระหนี้
วิธีการลงทะเบียน
- ลงทะเบียนได้ที่เว็บไซต์ธนาคารกรุงเทพคลิก
- ติดต่อที่สาขา/สำนักธุรกิจของธนาคาร
- ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม – 31 ธันวาคม 2563
3.ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
สินเชื่อบ้าน สินเชื่อส่วนบุคคล
- พักชำระหนี้เงินต้น สูงสุดไม่เกิน 3 เดือน
- พักชำระหนี้เงินผ่อนชำระค่างวด สูงสุดไม่เกิน 3 เดือน
- ปรับลดจำนวนเงินผ่อนชำระค่างวด สูงสุดไม่เกิน 30%
- เปลี่ยนจากวงเงินหมุนเวียน เป็นผ่อนชำระค่างวด สูงสุดไม่เกิน 48 เดือน (สินเชื่อส่วนบุคคล)
เงื่อนไขของธนาคาร
- สำหรับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เท่านั้น
- ธนาคารขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณามาตรการช่วยเหลือตามผลกระทบที่ลูกค้าได้รับ แล้วแต่กรณี
- ไม่เป็นสินเชื่อค้างชำระเกิน 90 วัน, ไม่เคยปรับปรุงโครงสร้างหนี้ หรือไม่เป็นสินเชื่อที่อยู่ในกระบวนการทางกฎหมาย ก่อนวันที่ 1 มีนาคม 2563
- สำหรับลูกค้าที่มีสินเชื่อกับธนาคารก่อนวันที่ 1 เมษายน 2563
การลงทะเบียนกับธนาคารกรุงศรีอยุธยา
- สแกน QR Code ด้านล่างนี้ เพื่อลงทะเบียน
บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลในเครือกรุงศรี คอนซูมเมอร์
ลดอัตราผ่อนชำระขั้นต่ำอัตโนมัติ (ไม่ต้องลงทะเบียน)
- บัตรเครดิตปรับจาก 10% เป็น 5% ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2563 – 31 ธันวาคม 2564
- สินเชื่อส่วนบุคคลปรับจาก 5% เป็น 3% ตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม 2563 – 31 ธันวาคม 2564
ลดอัตราดอกเบี้ยพิเศษ (ต้องลงทะเบียน)
- บัตรเครดิตปรับเป็น 12% ต่อปี + ขยายการผ่อนชำระนานสูงสุด 48 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป
- สินเชื่อบุคคลปรับเป็น 22% ต่อปี + ลดการผ่อนชำระขั้นต่ำเหลือ 3% ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2563 – 31 ธันวาคม 2564
เงื่อนไขของธนาคาร
- เฉพาะลูกค้าที่มีบัญชีสินเชื่อกับบริษัทก่อนเดือนมีนาคม 2563 และได้รับผลกระทบโดยตรง อาทิ ธุรกิจท่องเที่ยว ธุรกิจที่ปิดตัวลง หรือธุรกิจที่ไม่สามารถเปิดให้บริการได้ตามประกาศของทางราชการ
- ลูกค้าจะถูกปรับลดวงเงินสินเชื่อให้คงเหลือเท่ากับยอดสินเชื่อคงค้างที่เข้าร่วมโครงการ
- โปรดศึกษาเงื่อนไขและคุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการที่เว็บไซต์ของบริษัทในเครือกรุงศรี คอนซูมเมอร์
การลงทะเบียน
- ลงทะเบียนผ่านโมบายแอปฯ Uchoose ได้จนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2563
สินเชื่อยานยนต์ กรุงศรี ออโต้
- ผ่อนผันโดยลดค่างวดผ่อนชำระสูงสุด 30% ของค่างวดเดิม หรือ
- พักชำระค่างวด (เงินต้นและดอกเบี้ย) สูงสุด 3 เดือน
* กรุงศรี ออโต้ จะเป็นผู้พิจารณาให้ความช่วยเหลือตามมาตรการที่เหมาะสมกับสภาพการณ์ปัจจุบันของลูกค้า
เงื่อนไขของธนาคาร
- เป็นลูกค้าที่ยังไม่เคยขอความช่วยเหลือ หรือลูกค้าที่เคยได้รับความช่วยเหลือจากมาตรการระยะแรก
- เป็นลูกค้าที่ได้รับการอนุมัติสินเชื่อกับกรุงศรี ออโต้ ก่อนวันที่ 1 เมษายน 2563
- ไม่เป็นสินเชื่อที่ค้างชำระเกิน 90 วัน ณ วันที่เข้าร่วมมาตรการ
- ไม่เป็นสินเชื่อที่อยู่ในขบวนการทางกฎหมาย ณ วันที่เข้าร่วมมาตรการ
การลงทะเบียน
- ต้องแจ้งความประสงค์ขอเข้าร่วมโครงการและยืนยันผลกระทบต่อเจ้าหน้าที่ล่วงหน้าก่อนวันครบกำหนดชำระค่างวด หรือก่อนโครงการเดิมสิ้นสุดไม่น้อยกว่า 15 วัน เพื่อให้มาตรการช่วยเหลือระยะที่ 2 มีผลในรอบบัญชีที่จะถึงกำหนดชำระ
- ยื่นคำร้องผ่านออนไลน์คลิก
- ส่งเอกสารประกอบการพิจารณาเมื่อได้รับข้อความทาง SMS
4.ธนาคารทหารไทยและธนชาต
บัตรเครดิต และบัตรกดเงินสด
มาตรการที่ไม่ต้องลงทะเบียนกับธนาคาร
- ปรับลดอัตราผ่อนชำระคืนขั้นต่ำให้ลูกค้าทุกราย โดยไม่ต้องติดต่อธนาคาร มีผลตั้งแต่รอบบิลเดือนเมษายน 2563 เป็นต้นไป
- ปรับลดเพดานดอกเบี้ยให้ลูกค้าทุกราย โดยไม่ต้องติดต่อธนาคาร สำหรับยอดการใช้จ่าย/ยอดกดเงินสด ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2563 เป็นต้นไป
มาตรการที่ต้องลงทะเบียนกับธนาคาร
สำหรับลูกค้าบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด ธนาคารทหารไทย และธนาคารธนชาต ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง
การลงทะเบียน
- ทีเอ็มบี ลงทะเบียนผ่าน Contact Center โทร. 1558
- ธนชาต ลงทะเบียนผ่าน Contact Center โทร. 1770
- ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม – 31 ธันวาคม 2563
สินเชื่อบ้าน
สำหรับลูกค้าที่ยังไม่เคยลงทะเบียนกับธนาคาร
- พักชำระเงินต้น โดยยังคงชำระเฉพาะดอกเบี้ย นาน 6 เดือน หรือ
- ลดยอดผ่อนชำระ 50% นาน 6 เดือน หรือ
- พักชำระค่างวด ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย นาน 3 เดือน* ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผลการพิจารณาของธนาคาร สำหรับลูกค้าแต่ละราย
การลงทะเบียน
สินเชื่อบุคคล
สำหรับลูกค้าที่ยังไม่เคยลงทะเบียนกับธนาคาร
- ลดยอดผ่อนชำระ 50% นาน 6 เดือน และลดอัตราดอกเบี้ยเหลือ 22%
- การลงทะเบียน
- ลูกค้าสินเชื่อบุคคลทีเอ็มบีคลิก
- ลูกค้าสินเชื่อบุคคลธนชาตคลิก
สำหรับลูกค้าสินเชื่อบ้าน หรือสินเชื่อบุคคล ที่เคยลงทะเบียนกับธนาคาร และเข้าร่วมมาตรการครบ 3 เดือนแล้ว ธนาคารจะแจ้งเตือนวันครบกำหนดให้ลูกค้าแต่ละรายทาง SMS ล่วงหน้าอย่างน้อย 10 วัน ก่อนถึงวันครบกำหนดชำระค่างวดสินเชื่อ หากลูกค้าต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม สามารถติดต่อธนาคารผ่านช่องทางที่ระบุใน SMS
สินเชื่อรถยนต์ ธนชาต DRIVE
- รถยนต์ใหม่ รถยนต์ใช้แล้ว และรถแลกเงิน :ลดค่างวดโดยขยายระยะเวลาผ่อนชำระหนี้
- สินเชื่อเล่มแลกเงิน :ปรับอัตราดอกเบี้ยสูงสุดไม่เกิน 22% และลดค่างวดผ่อนชำระต่อเดือนสูงสุด 30% ไม่เกิน 6 เดือน
- การลงทะเบียน
- ลงทะเบียนผ่าน Contact Center ธนชาต 1770 เท่านั้น
5.ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)
พักชำระเงินต้นและดอกเบี้ย ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2563
เงื่อนไขของธนาคาร
สำหรับลูกค้าที่ก่อนหน้านี้ได้เข้าร่วมมาตรการที่ 5 และรายได้ยังไม่กลับสู่ภาวะปกติ
- กรณีลูกค้าที่มีสถานะบัญชีปกติให้แจ้งความประสงค์เข้ามาตรการที่ พักชำระเงินต้นและพักชำระดอกเบี้ย โดยจะพักชำระได้ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2563
- กรณีลูกค้าที่มีสถานะเป็น NPLจะต้องเข้ามาตรการประนอมหนี้พิเศษ หากสามารถปฏิบัติได้ตามเงื่อนไข ลูกค้าสามารถจึงใช้สิทธิ์ตามมาตรการ ได้
การลงทะเบียนกับธนาคารทำได้โดย
- แอปพลิเคชัน GHB ALL
- เว็บไซต์ ธอส.
- Line Official : GHBANK
- ลงทะเบียนขอขยายความช่วยเหลือเพิ่มเติมได้ตั้งแต่วันที่ 13 กรกฎาคม – 29 สิงหาคม 2563