ยุคสมัยแห่งการเลียนแบบ ที่บอกว่าเลียนแบบเพราะอะไร เพราะโซเชี่ยลเป็นกระแสหลักของคนยุคนี้ อะไรๆก็โซเชี่ยล และเป็นยุคที่หลายคนยึดติดกับคำว่า เขามีฉันต้องมีใครไม่มีคือตัวประหลาด สังคมยุคนี้เป็นแบบนี้จริงๆ โดยเฉพาะกับคนกลุ่มที่ติดโซเชี่ยล และติดความเชื่อผิดๆ ยกตัวอย่างง่ายๆ บัตรเครดิต
ที่ยกตัวอย่างบัตรเครดิตเพราะ สมัยนี้มันทำง่ายแค่มีเงินเดือน 15,000 บาทก็สามารถทำบัตรเครดิตบางประเภทได้แล้ว และสังคมมองว่าการใช้ บัตรเครดิต คือเรื่องดีคือความสะดวก คือมีฐานะ และดูดีกว่าการควักเงินสดซื้อของ ไม่เชื่อลองสังเกตง่ายๆ เวลาไปซื้อของหรือทานอาหารตามที่ต่างๆเช่นห้างสรรพสินค้า เวลาจ่ายเงินสดพนักงานบางร้านบางแห่ง จะมองทันที และมองด้วยสายตาแปลกๆ ซึ่งอันนี้ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าจะมองทำไม และมันเหมือนกับการแบ่งชนชั้นทางการเงินคือ เงินสดเดินตลาดกินร้านข้างทาง บัตรเครดิตเดินห้างกินร้านหรู ทั้งๆที่บอกตรงๆเลยว่าตลกมาก กับความคิดของคนบางกลุ่มที่ดูถูกคนใช้เงินสด ไม่เชื่อคุณลองไปซื้อของแพงๆในห้างแล้วจ่ายเงินสดสิ ผู้เขียนโดนมาแล้ว ซื้อทีวีราคาแค่ 12,000 บาทควักเงินสดจ่ายให้ ซึ่งก่อนจ่ายเงินเขาก็ถามว่าผ่อนบัตรอะไร เราก็บอกว่าไม่ผ่อน เขาก็บอกว่าขอบัตรเครดิต เราก็หยิบสดจ่ายให้ แต่พนักงานแคชเชียร์เครื่องใช้ไฟฟ้ามองหัวจรดเท้า เราก็มองกลับด้วยความสงสัยจะมองทำไม ได้แต่คิดในใจสงสัยวันๆเจอแต่เงินผ่อนหรือไม่ก็เจอแต่บัตรเครดิต เลยงงนับเงินสดไม่ถูกมั้ง ซึ่งพอมานึกย้อนหลังก็คงประมาณว่าเรากระจอกบัตรเครดิตไม่มีเลยต้องใช้เงินสดซื้อ ซึ่งหากเป็นแบบนี้มันก็ตลกจริงๆ
ที่ไม่นิยมเรื่องบัตรเครดิต เพราะเคยมีเคยใช้และเป็นหนี้บัตรมาแล้วดังนั้นทุกวันนี้ใช้เงินสดดีกว่าจะได้ไม่เป็นหนี้อีก และอีกอย่างก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องใช้บัตรด้วย ซึ่งมีหลายคนที่มีแนวคิดนี้เหมือนกันบางคนมีฐานะดี แต่ไม่ตามกระแสเหมือนที่คนในสังคมยุคนี้เป็นกัน และมีความรู้สึกเหมือนกันว่ากลายเป็นเรื่องแปลกไปซะอย่างนั้น
ซึ่งจากการได้แลกเปลี่ยนความคิดและพูดคุยกันหลายคนเจอแบบเดียวกับเราคือ ใช้เงินสดแล้วกลายเป็นตัวประหลาดในบางครั้ง ใช้โทรศัพท์ยี่ห้อไม่ดังกลายเป็นโดนดูถูก แต่งตัวไม่ตามเทรนด์กลายเป็นตัวตลก ไม่ อยากมีเหมือนคนอื่น ไม่เห่อกระแสโซเซี่ยลกลายเป็นคนหลงยุค นี่คือเรื่องจริงที่หลายคนประสบมาแล้วมาเล่าสู่กันฟัง บางคนทำงานออฟฟิศอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ทันสมัยแต่เขาไม่ชอบตามกระแส ชอบแบบสบายๆไม่ยึดติดเทรนด์ต่างๆ ไม่บ้าแบรนด์ก็กลายเป็นตัวตลกในออฟฟิศ เป็นยายเฉิ่มซึ่งเขาบอกว่ามันผิดด้วยหรือที่เขาไม่บ้ากระแส ไม่อยากได้ไม่อยากมีเหมือนคนอื่นๆ เขาบอกว่าเขาตลกคนที่เห่อกระแสมากกว่า อย่างออฟฟิศเขานั้นอะไรที่เป็นแฟชั่นมาใหม่ สาวๆออฟฟิศเขาจะต้องมีและบางวันใส่มาชนกันหรือถือมาชนกัน เขาเห็นแล้วตลกมากกว่าเขาบอกมันเหมือนก๊อปปี้กันมาดูแล้วเกร่อ มากกว่าจะทันสมัย
นอกจากนี้กระแสโซเชี่ยลยังทำให้หลายคนเสพติดและกลายเป็นคนฟุ่มเฟือย อย่างเช่นการเช็คอินตามร้านอาหารหรือแลนด์มาร์คต่างๆ เชื่อไหมว่ามีบางคนเห็นเพื่อนหรือคนรู้จักและแม้แต่คนในโซเชี่ยลนิยมไปก็ต้องไปบ้าง ซึ่งบางคนมีเวลามีเงินจะไปกินไปเที่ยวเชคอินมาแชร์มันก็ไม่น่าเกลียดแต่บางคนไม่มีเนี่ยสิเห่อทำตามเขามันก็ตลกสิ้นดี บอกเลยว่ามีจริงๆคนแบบนี้ เพราะขอให้ได้ไปขอให้ได้แชร์ ไปแค่เดินๆก็เอาแบบนี้ก็มีนะจะบอกให้ ดังนั้นจึงบอกได้เลยว่าสังคมยุคนี้มันแปลกคนที่ชอบอะไรสบายๆไม่ตามเทรนด์ไม่ตามกระแสไม่เห่อแบรนด์เนม จะกลายเป็นคนแปลกๆไปทันทีทั้งที่ไม่ทำอะไร แปลกหรือแตกต่างจากคนทั่วไปเลยสักนิด หรือคนที่ไม่มีบัตรเครดิตไม่นิยมใช้ของแพง ต่อให้รวยแค่ไหนก็จะดูจนในบัดนาว คนที่ใช้บัตรเครดิตติดกระแสแห่ตามเทรนด์ จะกลายเป็นคนมีฐานะและมีรสนิยมทั้งๆทีเบื้องหลังบางคนผ่อนหนี้น้ำตาตกใน บอกเลยว่าสังคมมันเพื้ยนขึ้นทุกวันๆจริงๆ