ปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในประเทศไทย ซึ่งทำให้เจ้าของแบรนด์ต้องสูญเสียมูลค่าและกำไรหลายเท่าตัว นอกจากนี้ยังพลาดโอกาสในการพัฒนาแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักอีกด้วย แถมยังสูญเสียกำลังใจในการสร้างสรรค์ผลงาน ดังเช่น เจ้าของกระทู้ “เก็บเงินทำ แบรนด์ชุดว่ายน้ำ สุดท้ายก็โดนก๊อป” ได้พบเจอ ซึ่งมีกรณีศึกษาที่น่าสนใจดังต่อไปนี้
ปัญหาของเจ้าของกระทู้
เจ้าของกระทู้มีชื่อว่า สมาชิกหมายเลข 3040283 กำลังศึกษาระดับปริญญาตรีในปีสุดท้าย ในช่วงกลางปีของปีที่แล้ว (พ.ศ.2558) เจ้าของกระทู้ได้นำเงินออมซึ่งตนเองได้เก็บสะสมไว้ เพื่อทำแบรนด์ชุดว่ายน้ำของตนเอง สาเหตุของการทำ แบรนด์ชุดว่ายน้ำจากเจ้าของกระทู้ก็เนื่องจากความชอบส่วนตัว รวมไปถึงแบบชุดว่ายน้ำที่เจ้าของกระทู้ต้องการเป็นส่วนตัวยังไม่มีวางจำหน่ายในท้องตลาด โดยลักษณะของชุดว่ายน้ำที่เจ้าของกระทู้ออกแบบนั้นจะเป็นชุดว่ายน้ำคอสูงและผูกบริเวณด้านหลัง ด้วยความตั้งใจจริงและต้องการสานฝันให้สำเร็จ เจ้าของกระทู้จึงเริ่มต้นด้วยการออกแบบ ติดต่อโรงงานผลิตและสร้างแบรนด์ใน Social Neteorkอย่าง Instragarm ขึ้น ทั้งนี้เจ้าของกระทู้ก็ได้มีการถ่ายภาพตัวอย่างของชุดด้วยตนเองไม่ว่าจะเป็นการว่าจ้างนักแสดงเพื่อเป็นนางแบบ รวมไปถึงดำน้ำเพื่อถ่ายภาพอีกด้วย ทั้งนี้กว่าที่จะได้มาเป็นชุดว่ายน้ำนั้น เจ้าของกระทู้ก็มีการปรับแก้หลายต่อหลายครั้ง จนกระทั่งได้แบบที่เจ้าของกระทู้ชื่นชอบมากที่สุด
ชุดว่ายน้ำของเจ้าของกระทู้วางจำหน่ายในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2558 ซึ่งสร้างปรากฏการณ์ที่น่าทึ่งอย่างมาก เนื่องจากยอดจำหน่ายสูงจนเจ้าของกระทู้เองก็ยังรู้สึกตกใจ ทั้งนี้ผลตอบรับจากลูกค้าที่เจ้าของกระทู้ได้รับกลับมา คือ ส่วนใหญ่ชอบที่แบบไม่โป๊จนเกินไป เหมาะสำหรับการใส่ว่ายน้ำในทุกโอกาส
หลังจากวางจำหน่ายได้ไม่นาน เจ้าของกระทู้พบว่าสินค้าของตนมียอดจำหน่ายที่ลดลงเรื่อย ๆ จนกระทั่งในเดือนหนึ่งพบว่ายอดลดลงมา 75% ซึ่งในช่วงนี้เจ้าของกระทู้กำลังทำ Thesis จึงไม่ได้ให้ความสนใจกับการที่ยอดจำหน่ายตกลงมาถึงขนาดนี้นัก
แต่แล้วเหตุการณ์ที่ทำให้เจ้าของกระทู้รู้ความจริงก็เกิดขึ้นเมื่อวันหนึ่ง เจ้าของกระทู้กดเข้าไปดูใน Instragram ของร้านจำหน่ายชุดว่ายน้ำร้านหนึ่งที่ติดตาม Instragram ของเจ้าของกระทู้อยู่ ทำให้พบความจริงอันน่าตกใจว่าร้านนี้ ใช้รูปReview สินค้าจากลูกค้าของร้านเจ้าของกระทู้ ซึ่งเจ้าของกระทู้ก็ได้ถามไปยังร้านค้านั้นและได้รับคำตอบว่าทางร้านค้าเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้า โดยตัวแทนจะรวมตัวอยู่ในกรุ๊ปตัวแทน ซึ่งเจ้าของกระทู้เองหลังจากได้เข้าไปในกรุ๊ปตัวแทนก็พบว่า ภายในกรุ๊ปได้นำรูปจากร้านเจ้าของกระทู้ไปใช้จริง หลังจากนั้นเจ้าของกระทู้ก็ได้สืบเสาะมาเรื่อย ๆ และพบว่ามีอีกหลายต่อหลายร้านที่นำสินค้ารูปแบบเดียวกับสินค้าของเจ้าของกระทู้ไปใช้ เมื่อสอบถามไปยังร้านเหล่านั้นก็พบว่าทางร้านเหล่านั้นรับสินค้าจากจตุจักรอีกทอดหนึ่ง ซึ่งเจ้าของกระทู้จึงได้ขอคำปรึกษาและต้องการระบาย ใน Pantip ด้วยความรู้สึกว่าตนไม่ได้รับความยุติธรรมเท่าใดนัก
แนวทางการแก้ปัญหา
ทั้งนี้สมาชิกภายในเว็บ Pantip ก็ได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยคำแนะนำมีหลาย ๆ ด้านดังต่อไปนี้
1.นำสินค้าไปจำหน่ายใน Amazon
สมาชิกคนหนึ่งได้แนะนำกับเจ้าของกระทู้ให้นำสินค้าไปวางจำหน่ายใน Amazon โดยเว็บนี้นับเป็นตลาดทางการค้า ที่กว้างไกลและเปิดโอกาสให้เจ้าของแบรนด์ได้นำสินค้าของตนไปนำเสนอให้คนทั้งโลกได้รู้จัก เหมาะสำหรับการต่อยอดแบรนด์ในอนาคตเป็นอย่างยิ่ง
2.จดแบบสินค้าเป็นทรัพย์สินทางปัญญา และจดแบรนด์เครื่องหมายการค้า
เพื่อนสมาชิกอีกหนึ่งคนได้ให้คำแนะนำจากเจ้าของกระทู้ว่าจดแบบสินค้าเป็นทรัพย์สินทางปัญญา และจดแบรนด์เครื่องหมายการค้าเพื่อว่าหากเจ้าของกระทู้ถูกก๊อปปี้งานในอนาคต หรือมีผู้นำสินค้าที่เจ้าของกระทู้ไปใช้ในการค้า หากมีหลักฐานชัดเจน เจ้าของกระทู้ก็สามารถฟ้องร้องต่อศาลเพื่อเรียกค่าเสียหายได้ นอกจากนี้สิ่งที่จดแจ้งจะได้รับการคุ้มครองในอนาคตและไม่ตกเป็นของสาธารณะอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น กรณีของ Walt Disney
3.ลงลายน้ำให้กับรูปภาพทุกรูป
เพื่อนสมาชิกอีกท่านหนึ่งแนะนำว่าการลงลายน้ำให้กับรูป คือ สิ่งสำคัญที่สุด โดยหากเป็นรูปจากเจ้าของร้านควรลงชื่อเว็บไซต์เป็นลายน้ำที่ไม่สามารถลบได้ จะทำให้ผู้ซื้อคลิกเข้าไปดูที่เจ้าของแบรนด์ตัวจริงนั่นเอง
4.เน้นการออกคอลเล็คชั่นใหม่และให้ความสำคัญกับคุณภาพสินค้า
สมาชิกในเว็บไซต์ Pantip บางคนแนะนำว่าให้เจ้าของกระทู้ทำใจในสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้ว โดยทางแก้คือให้เจ้าของกระทู้พยายามออกคอลเล็คชั่นใหม่อยู่เสมอ ๆ และเน้นการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพ แต่ทั้งนี้เจ้าของกระทู้ก็ต้องเผื่อใจไว้ก่อนว่า การออกคอลเล็คชั่นใหม่นั้นต้องมีผู้ก๊อปตามอย่างแน่นอน
5.ติดต่อกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา
เพื่อนสมาชิกอีกท่านหนึ่งแนะนำเจ้าของกระทู้ให้ส่งข้อความถามใน Facebook ของกรมทรัพย์สินทางปัญญา (https://www.facebook.com/ipthailand) เพื่อหาทางแก้ไข ดีกว่าจะปล่อยให้สินค้าของตนเองถูกละเมิดลิขสิทธิ์ นอกจากนี้เพื่อนสมาชิกยังได้แนะนำอีกว่าเจ้าของกระทู้ไม่ควรนิ่งเฉยต่อการถูกละเมิดลิขสิทธิ์ ผู้ที่กระทำความผิดควรชดใช้เพื่อเป็นตัวอย่างของสังคม
ทั้งนี้หลาย ๆ ความเห็นได้แนะนำให้เจ้าของกระทู้ดำเนินคดีกับร้านค้าตัวแทนจำหน่ายเหล่านั้น เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายและเพื่อลดการเอาเปรียบความคิดสร้างสรรค์ของผู้อื่น จะเห็นได้ว่าการจดลิขสิทธิ์เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งและจำเป็นกับผู้ที่สร้างแบรนด์ใหม่หากไม่ต้องการถูกเอาเปรียบจากการละเมิดลิขสิทธิ์ ต่อจากนี้จะได้ไม่เกิดกระทู้หรือคำถามที่ว่า ” ทำแบรนด์เอง แต่โดนก็อป ทำยังไงดี ? “