ประสบการณ์กับ ความล้มเหลว ในการพยายามสร้าง ธุรกิจ

การลงทุนทำธุรกิจ แม้จะเป็นช่องทางที่ทำให้ร่ำรวยได้อย่างรวดเร็ว แต่หากผู้ประกอบธุรกิจไม่มีความรู้ก็อาจจะทำให้การลงทุนนั้นสูญเปล่าไปก็เป็นได้ สำหรับผู้ที่ต้องการให้การลงทุนครั้งแรกของตนเริ่มต้นได้ดี การเลือกอ่านข้อมูลเพื่อเก็บเป็นความรู้ คือ ทางเลือกที่ดีที่สุด

จากกระทู้ : ขอเล่าประสบการณ์กับความล้มเหลวในการพยายามสร้างธุรกิจถึงสี่ครั้ง(http://pantip.com/topic/31006304/page2)

เจ้าของกระทู้เรียนจบระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 แต่ทว่าไม่ได้ศึกษาต่อนั่นเพราะปัญหาทางการเงิน และอีกหนึ่งปัญหา คือ การสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ผ่าน สิ่งที่เจ้าของกระทู้เลือกก็คือการทำงานในเมืองหลวงโดยการทำงานครัว สองปีแรกเขาได้เริ่มต้นในอาชีพผู้ทำเนื้อสัตว์เพื่อส่งต่อให้พ่อครัวพร้อมทั้งฝึกย่างหมู ช่วงที่ทำงานนั้นเขาได้ศึกษาต่อที่รามคำแหง แต่ไม่สำเร็จ ช่วงนั้นเจ้าของกระทู้ได้แรงบันดาลจากหนังสือพ่อรวยสอนลูก เจ้าของกระทู้จึงเปลี่ยนความคิดว่าต้องการทำธุรกิจส่วนตัว ซึ่งเขาได้ตัดสินใจเลือกทำธุรกิจเปิดร้านข้าวมันไก่โดยทำร่วมกับพี่สาว ช่วงแรกขายดีมาก แต่ก็มีสิ่งไม่คาดคิดเกิดขึ้น นั่นก็คือ ไข้หวัดนก อันส่งผลกระทบให้ลูกค้าไม่กล้าบริโภคสัตว์ปีกไประยะหนึ่ง ทั้งคู่จึงตัดสินใจที่จะปรึกษากันว่าควรเปลี่ยนมาขายอาหารตามสั่ง ซึ่งทำได้สองปีเจ้าของตึกก็บอกยกเลิกและไม่ให้เช่าที่ปัจจุบัน หลังจากนั้นเจ้าของกระทู้จึงได้มองหาทำเลใหม่และตัดสินใจเลือกเซ้งร้านอาหารตามสั่งบริเวณสุขุมวิท ซอย 95 ซึ่งทำเลนี้มีโรงงานและมีพนักงานหลายคน แต่เหตุการณ์กลับไม่เป็นไปอย่างที่คิดไว้ เนื่องจากคนงานนิยมกินอาหารราคาถูก ทำเลร้านอาหารใหม่นี้ เจ้าของกระทู้ทำได้เพียง 15 วัน เท่านั้น

หลังจากนั้นเจ้าของกระทู้จึงไปเปิดร้านอาหารตามสั่งใหม่ที่มีนบุรีโดยร่วมกับพี่สาวเช่นเคย แต่ขายได้ไม่นานก็ต้องปิดกิจการอีก ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ทุนเริ่มหมด ทั้งคู่เลยล้มเลิกความตั้งใจในการทำธุรกิจส่วนตัวและแยกย้ายทำงานประจำ ต่อจากนั้นในช่วงปี 2550 เขาตัดสินใจกับภรรยาของเขาและเริ่มทำธุรกิจ โดยเลือกจะขายกับข้าวราดแกงในโรงเรียน ซึ่งยืมเงินทุนจากพี่สาวคนโต ซึ่งเจ้าของกระทู้และภรรยาตัดสินใจลาออกจากงานโดยไม่จ้างลูกจ้าง ในระยะแรกของการขายอาหารให้กับโรงเรียน ร้านของเจ้าของกระทู้ขายไม่ได้ เนื่องจากเจ้าของกระทู้พยายามลดต้นทุนด้วยการใส่ผักลงไป แต่ร้านข้าง ๆ เจ้าของกระทู้นั้นขายได้ดี เนื่องจากมีเนื้อสัตว์จำนวนมากและมีผักน้อย ซึ่งเจ้าของกระทู้พยายามหากับข้าวที่เด็กชอบเพื่อให้ขายได้ดีกว่าเดิม ส่วนใหญ่เด็กจะไม่ชอบกินผักแต่จะชอบกับข้าวที่มีเนื้อสัตว์ ทำให้ต้นทุนสูงขึ้น และไม่เหลือเงินเก็บ เจ้าของกระทู้อดทนเป็นระยะเวลาสองปี จนกระทั่งล้มเลิกกิจการ ทั้งคู่ตัดสินใจกลับมาทำงานประจำและปัจจุบันเจ้าของกระทู้ทำงานที่ประเทศกัมพูชา เป็นพ่อครัวของกาสิโน

หลังจากที่เพื่อนสมาชิกของเว็บไซต์ Pantip ได้อ่านประสบการณ์ของเจ้าของกระทู้จึงได้ให้คำแนะนำดังนี้

• สมาชิกความคิดเห็นที่ 25 ชื่อสมาชิกว่าChiiChai ได้แนะนำว่า

ก่อนที่เจ้าของกระทู้จะตกลงปลงใจทำธุรกิจใด ควรศึกษาให้มากกว่านี้ และควรให้รายละเอียดของการศึกษาครอบคลุมและชัดเจนกว่าเดิม ทั้งนี้ควรศึกษาให้มากเพื่อที่ว่าจะได้ไม่ขาดทุนในภายหลัง ยกตัวอย่างเช่น เรื่องทำเล หากมีใครแนะนำมาไม่ควรเชื่อทันที แต่ควรไปศึกษาพฤติกรรมของคนบริเวณนั้นที่คาดว่าจะเป็นลูกค้าในอนาคต ควรดูหลาย ๆ วัน และไม่ควรรีบร้อนเพราะเจ้าของกระทู้มีเงินจำกัด การทำธุรกิจจะเสี่ยง ผู้ลงทุนจึงควรศึกษาความเป็นไปได้ว่าสามารถทำได้เพียงใด ไม่ควรเชื่อเพราะมีผู้อื่นแนะนำมา

• ความคิดเห็นที่ 25-2 จากเพื่อนสมาชิกที่มีชื่อว่า nookiemickey แนะนำว่า

ตัวเธอเองทำงานในฝ่ายที่ต้องหาทำเลสำหรับเปิดร้านอาหาร และต้องลงพื้นที่เป็นระยะเวลาหลายวัน และอยู่ตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงค่ำ ทั้งนี้ก็เพื่อประมาณการต้นทุน กำไรและขาดทุน รวมไปถึงโอกาสในความเป็นไปได้ของการขายเพื่อออกมาเป็นตัวเลขเสียก่อน

• ความคิดเห็นที่ 26 จากเพื่อนสมาชิกที่มีชื่อว่า gtbboyz แนะนำว่า

เจ้าของกระทู้ยังไม่พร้อม การจะลงทุนใด ๆ ต้องรู้รายละเอียดของธุรกิจที่เราจะลงทุนให้ครบทุกด้าน นอกจากนี้ยังต้องศึกษาคู่แข่ง รวมไปถึงโอกาสในการขายได้ ปัญหาของธุรกิจที่อาจเกิดขึ้น พร้อมความเสี่ยงที่อาจพบเจอ หากมีไอเดียดี แต่ทุนน้อยก็อาจเป็นได้เพียงผู้ประกอบการ การจะก้าวไปสู่เจ้าของธุรกิจจะต้องใช้เวลามากถึง 10 ปี เจ้าของความคิดเห็นนี้ แนะนำว่าควรอดทนทำงานและเก็บเงินให้ได้มากที่สุด พร้อมกันนั้นก็ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับอาชีพที่ต้องการลงทุนไปในตัว เพื่อความพร้อมนั่นเอง

ข้อควรระวังในการทำธุรกิจส่วนตัว

1.ไม่ควรรีบร้อนในการตัดสินใจสำหรับการเริ่มต้นธุรกิจใด ๆ ก็ตาม โดยไม่ได้ศึกษา เนื่องจากอาจจะทำให้ตัดสินใจพลาดได้

2.ควรศึกษาเกี่ยวกับธุรกิจที่ตนเองต้องการทำให้ละเอียด เพื่อเตรียมรับมือกับปัญหาที่อาจต้องเผชิญ

3.ควรศึกษาทำเลว่าเหมาะสมกับธุรกิจของตนเองหรือไม่

4.ไม่ควรทุ่มเทลงทุนโดยไม่หวังผลกำไร แต่หวังพึ่งยอดขาย เพราะในระยะยาว ธุรกิจจะเลี้ยงตนเองไม่ได้

5.ควรเก็บข้อผิดพลาดที่เคยได้รับมาเป็นบทเรียน

6.ควรรับฟังความคิดเห็นคนใกล้ตัว และไม่ควรมั่นใจในตัวเองมากเกินไป

การประกอบธุรกิจส่วนตัว แม้จะเป็นความฝันของคนในยุคปัจจุบัน แต่หากเจ้าของเงินลงทุนไม่มีการศึกษาอย่างละเอียดถี่ถ้วน ในไม่ช้า ธุรกิจก็อาจจะล้มเหลว หรือได้กำไรไม่ดีเท่าที่ควรดั่งที่หวังไว้ นอกจากนี้อาจก่อให้เกิดหนี้สินตามมาได้ การศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจที่ต้องการลงทุนคือสิ่งสำคัญที่สุด