การทำธุรกิจไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่นั้น มักจะต้องมีการปรับตัวไปตามยุคตามสมัยที่เปลี่ยนไป เช่น การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี สังคม วัฒนะธรรม หรือการเข้ามาของคู่แข่งรายใหม่ และอื่น ๆ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจของเราอย่างแน่นอน ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ดังนั้นถ้าเราต้องการให้ธุรกิจของเราดำเนินกิจการได้สะดวกราบรื่น และไม่ล้มลง คือเราต้องคอยวิเคราะห์ปัจจัยต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของเราอย่างต่อเนื่องนั่นเอง ซึ่งเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราควรวิเคราะห์ปัจจัยใดบ้าง เช่น ธุรกิจขายเสื้อผ้า เราก็ต้องวิเคราะห์ว่าสังคมและวัฒนธรรมในปัจจุบันนั้น เปลี่ยนแปลงไปอย่างไร สินค้าที่เรามียังสามารถตอบสนองต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคได้อยู่หรือไม่ ถ้าไม่ได้เราก็ต้องคิดหาวิธีปรับเปลี่ยน ผลิตสินค้าชนิดใหม่ขึ้นมา และเลิกขายสินค้าที่ขายไม่ได้ออกไป หรือ ถ้าเป็นธุรกิจด้านการสื่อสาร เราก็ต้องมาวิเคราะห์ในเรื่องของเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่เพิ่มเข้ามา ว่าอยู่ในข่ายส่งผลกระทบต่อเราหรือไม่ เทคโนโลยีเหล่านั้นช่วยธุรกิจของเราได้อย่างไรบ้าง เป็นต้น สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่เจ้าของธุรกิจจะต้องคอยวิเคราะห์ หรือตรวจสอบอยู่เสมอ
ดังเช่นในกระทู้ http://pantip.com/topic/34835382 ที่เจ้าของกระทู้ได้มาตั้งกระทู้เพื่อเล่าประสบการณ์การทำธุรกิจของตนเองให้เราได้อ่านกัน ซึ่งมีประโยชน์อย่างมาก โดยที่คุณพ่อของเจ้าของกระทู้เคยดำเนินธุรกิจแล้วไม่ประสบความสำเร็จมาก่อน และเมื่อถึงคราวของเจ้าของกระทู้สามารถนำประสบการณ์จากการเรียน หรือการทำงานต่าง ๆ มาปรับใช้กับธุรกิจได้อย่างดี ซึ่งสิ่งต่าง ๆ ที่เจ้าของกระทู้ทำนั้น สามารถนำไปปรับใช้ได้กับธุรกิจทุก ๆ ประเภท เช่น การ Lean คือการลดส่วนที่ไม่จำเป็น หรือมีความจำเป็นน้อยมากต่อธุรกิจของเราออกไป ในยามที่เราเกิดวิกฤต การ Lean จะมีส่วนช่วยมาก เนื่องจากลดรายจ่ายบริษัทเราไปได้ จนทำให้การเงินของบริษัทเรานั้น กลับมาสู่สภาพปกติได้เร็วขึ้น เช่น การลดจำนวนพนักงาน ให้เพียงพอกับงาน หรือยอดขายที่บริษัททำได้ การเลิกผลิตหรือจำหน่ายสินค้าบางชนิดที่คงค้างในสต็อกมากเกินไป หรือเป็นเวลานาน เพราะการมีสินค้าค้างสต็อกคือต้นทุนจม ถ้าลดส่วนนี้ไปก็จะทำให้เงินหมุนของธุรกิจมีสภาพคล่องขึ้น เป็นต้น
จะเห็นได้ว่าสิ่งที่เจ้าของกระทู้ได้เล่ามานั้น เป็นประโยชน์กับทุก ๆ คนอย่างมาก และจริง ๆ แล้วก็เป็นประโยชน์ของเจ้าของกระทู้ด้วย เนื่องจากเป็นการทบทวนตนเองว่าได้ผ่านการทำอะไรกับธุรกิจมาบ้าง และหลังจากที่ทำสิ่งเหล่านี้ไปแล้วนั้น ได้ประสิทธิผลที่เป็นอย่างไรบ้าง คุ้มค่ากับการลงทุนทำไปหรือไม่
สิ่งสำคัญของการทำธุรกิจให้ดีนั้น มีหลัก ๆ เพียงไม่กี่ข้อ เช่น
- การวางแผน :
การวางแผนเป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุดของการทำธุรกิจ เพราะเป็นตัวกำหนดการเดินทางของธุรกิจของเรา ว่าจะเดินไปทางซ้ายหรือขวา เพราะ มีการกำหนดเป้าหมาย วิสัยทัศน์ และพันธกิจ ซึ่งเมื่อทั้ง 3 ตัวสอดคล้องกัน และมีความเป็นไปได้ ก็คือเป็นการกำหนดตัวตนของบริษัทเรานั่นเอง
- แผนสำรอง :
สิ่งที่เจ้าของกระทู้ทำนั้นเปรียบเสมือนแผนสำรอง คือ เมื่อธุรกิจดำเนินไปแล้ว ได้ผลลัพธ์ที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ก็ต้องมีการสำรวจว่าผิดพลาดตรงไหนอย่างไร และสร้างแผนใหม่ขึ้นมา เพื่อรองรับกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป เพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินต่อไปได้
- วินัย :
สิ่งนี้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดอีกหนึ่งอย่างสำหรับการดำเนินธุรกิจ เนื่องจากในระหว่างการเดินทางของบริษัทเรานั้น จะมีอุปสรรคต่าง ๆ ผ่านเข้ามาไม่ขาดสาย การมีวินัยที่สามารถยึดปฏิบัติตามแผนที่วางไว้แล้วได้อย่างสม่ำเสมอนั้น ทำให้ธุรกิจของเราประสบความสำเร็จได้ง่ายกว่า เนื่องจากบางครั้ง การที่เราเจออุปสรรคต่าง ๆ แล้วเราไม่ได้ยึดอยู่กับแผน จะทำให้การเดินตามเส้นทางที่วางไว้คลาดเคลื่อน ซึ่งก็จะส่งผลต่อเป้าหมาย คลาดเคลื่อนเช่นกัน
- ความรู้ :
ก่อนเริ่มต้นธุรกิจได้นั้น สิ่งที่สำคัญมาก ๆ คือความรู้ ซึ่งเป็นความรู้ที่ต้องใช้ในการดำเนินธุรกิจ แน่นอนถ้าเราไม่มีความชำนาญในธุรกิจที่เราจะทำแล้วนั้น ต่อให้มีการวางแผนที่ดี มีแผนสำรองสำหรับทุกสถานการณ์ หรือเรามีวินัยสูงเพียงไหน ก็อาจจะไม่ประสบความสำเร็จได้
การดำเนินธุรกิจใด ๆ ก็ตามนั้น ไม่ใช่เรื่องยากเกินความพยายามของเรา แต่ก็ไม่ง่ายเช่นกัน ถ้าไม่มีการวางแผน ไม่มีความยืดหยุ่น และขาดวินัย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งจำเป็นอับดับแรก ๆ สำหรับใครที่ต้องการเริ่มต้นทำธุรกิจที่ควรจะศึกษาให้ดี การเริ่มต้นที่ดีนั้นย่อมมีชัยมากไปกว่าครึ่ง เพราะอย่างน้อยเราได้เริ่มต้นด้วยการใช้ความรู้ จากการศึกษา ประสบการณ์ที่สั่งสมมา และความรอบคอบ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะสามารถทำให้ ธุรกิจประสบความสำเร็จ ได้อย่างแน่นอน
แต่ก็อย่าลืมว่า การวิเคราะห์ธุรกิจตลอดเวลานั้น เป็นสิ่งที่มีความจำเป็น ที่เราต้องนำมาเป็นส่วนหนึ่งใน พันธกิจ ของบริษัทเราเลย เพราะการไม่หยุดอยู่กับที่ ไม่ยึดติดกับสิ่งเก่า ๆ มีความกล้าหาความรู้ และพัฒนาอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้ธุรกิจของเราเติบโตขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง ก้าวได้ไกลกว่าธุรกิจ หรือบริษัทอื่น ๆ ที่ไม่ได้ทำสิ่งเหล่านี้แน่นอน ดังเช่นกับสิ่งที่เจ้าของกระทู้ได้มาแชร์ประสบการณ์ที่มีคุณค่านี้ให้เราได้อ่านกัน สำหรับใครที่กำลังจะเริ่มต้นธุรกิจนั้นอยากให้ลองเก็บประสบการณ์ของเจ้าของกระทู้ไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจของคุณดู เชื่อว่าจะประสบความสำเร็จได้ไม่ยากอย่างแน่นอน