ช่วงเศรษฐกิจที่ชะลอตัวแบบนี้บางธุรกิจก็อาจจะเริ่มประสบปัญหาเรื่องสภาพคล่องกันอยู่ไม่มากก็น้อย ซึ่งทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยให้ธุรกิจของเรามีสภาพคล่องมากขึ้นก็คงจะหนีไม่พ้นการเข้าไปขอสินเชื่อจากธนาคาร กู้เงินทำธุรกิจส่วนตัว แต่การที่จะเข้าไปขอสินเชื่อจากธนาคารนั้นก็ไม่ได้ง่ายเหมือนกับการหยิบยืมเงินจากคนภายในครอบครัว
ดังนั้นหากเราคิดว่าจะต้องขอสินเชื่อจากธนาคารแล้วล่ะก็คงจะต้องมีการปรับแต่งตัวเอง ที่จะทำให้ธนาคารยอมอนุมัติสินเชื่อให้เราได้อย่างง่ายๆ เรามาดูกันดีกว่าว่าจะต้องทำยังไงถึงจะได้อนุมัติสินเชื่อจากธนาคารกัน
ก่อนอื่นเลยเราต้องสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจเราก่อน
ซึ่งการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อให้กับธุรกิจของธนาคารก็ไม่ได้แตกต่างจากการอนุมัติสินเชื่อให้กับบุคคลทั่วไปสักเท่าไร เพราะธนาคารก็จะต้องตรวจสอบประวัติของเราในฐานะที่เป็นเจ้าของกิจการและประวัติการดำเนินธุรกิจ รวมถึงประวัติในเครดิตบูโรด้วย นอกจากนั้นแล้วก็จะต้องดูด้วยว่าเราในฐานะเจ้าของหรือผู้ประกอบการนั้นมีความรู้ความชำนาญและประสบการณ์ในธุรกิจนั้นมากน้อยแค่ไหน และที่สำคัญธนาคารก็จะพิจารณาประเภทธุรกิจของเราด้วยว่าเป็นธุรกิจที่ขายสินคาหรือให้บริการทางด้านใด เป็นธุรกิจเกิดใหม่หรือเปล่า รวมถึงระยะเวลาที่ดำเนินธุรกิจมากแล้วด้วยอีกต่างหาก
ดังนั้นเรื่องความน่าเชื่อถือนับว่าเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ สำหรับการอนุมัติสินเชื่อเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นเราควรจะสร้างความน่าเชื่อถือของธุรกิจตัวเอง โดยไม่มีประวัติการค้างชำระไม่ว่าจะเป็นหนี้สินกับธนาคารโดยตรง หรือค้างชำระกับเจ้าหนี้การค้าของเรา ต้องไม่มีประวัติเช็คเด้ง และยิ่งถ้าเป็นธุรกิจที่มีการดำเนินงานมานาน ก็จะทำให้ธุรกิจของเราเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ก็จะยิ่งช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของกิจการให้น่าเชื่อถือมากขึ้น โอกาสที่จะได้รับการอนุมัติสินเชื่อจากธนาคารก็มากขึ้นด้วยเช่นกัน
และถ้าจะให้ดียิ่งขึ้นไปอีกนั่นก็คือ เราควรที่จะต้องมีแผนการดำเนินธุรกิจของเราเอง
เพราะจะช่วยให้ธนาคารรู้จักธุรกิจของเรามากขึ้น การจัดทำบัญชีของธุรกิจก็ถือได้ว่ามีความสำคัญไม่แพ้กัน เนื่องจากจะทำให้ธนาคารสามารถตรวจสอบฐานะทางการเงินของธุรกิจเราได้ดีขึ้น ทำให้รู้ว่าในอดีตที่ผ่านมาผลประกอบการและสภาพคล่องของธุรกิจเราเป็นไปในทิศทางใด รวมทั้งยังเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าเรามีระบบในการควบคุมจัดการการเงินของธุรกิจได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
ทำรายการเดินบัญชีเงินฝากอย่างสม่ำเสมอ
เมื่อเรามาทำธุรกิจเองแล้วเราก็คงจะไม่มีสลิปเงินเดือนไปแสดงกับธนาคารว่าเรามีตัวเงินเข้ามาจริงๆ ต่อเดือนเป็นเท่าไร ดังนั้นการทำรายการเดินบัญชีเงินฝากอย่างสม่ำเสมอก็จะช่วยทำให้เห็นว่าธุรกิจของเรามีการเคลื่อนไหวของกระแสเงินสดเป็นอย่างไร เพราะฉะนั้นเมื่อเรามีรายได้เข้ามาก็ควรที่จะนำฝากเข้าบัญชีของกิจการอย่างสม่ำเสมอ และที่สำคัญที่สุดคือ จะต้องแยกสมุดบัญชีเงินฝากของธุรกิจออกจากบัญชีเงินฝากธนาคารส่วนตัว
อ่านเพิ่มเติม : เดินบัญชี อย่างไรให้น่าเชื่อถือ
นอกจากนั้นแล้วการเก็บเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของเรา
ไม่ว่าจะเป็นใบจดทะเบียนพาณิชย์ หลักฐานการเสียภาษี ใบเสร็จรับเงินที่เราออกให้กับลูกค้าและที่ได้รับจากการซื้อของเพื่อดำเนินธุรกิจ ใบสั่งซื้อสินค้า เพราะเป็นเอกสารสำคัญที่จะต้องเก็บให้ครบถ้วนและเป็นระบบ ที่นอกจากจะเป็นหลักฐานเพื่อใช้ยื่นของสินเชื่อกับธนาคารแล้ว ยังเป็นหลักฐานที่เราต้องเก็บตามกฎหมายเพื่อประกอบการทำบัญชีของธุรกิจด้วย
เมื่อเราได้ปรับแต่งธุรกิจของเราให้มีความน่าเชื่อถือกันแล้วก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องได้รับอนุมัติสินเชื่อจากธนาคารอย่างแน่นอน เพราะธนาคารก็มีเงื่อนไขในการอนุมัติแตกต่างกันไป เช่น ธนาคารก็อาจจะต้องดูวัตถุประสงค์ในการขอสินเชื่อด้วยว่าเราจะนำเงินนั้นไปลงทุนทำอะไรบ้าง และมีโอกาสสร้างมูลค่าให้มีเงินงอกเงยขึ้นมาได้มากหรือน้อยเพียงใด และแน่นอนว่าต้องดูด้วยว่าเรามีความสามารถในการชำระหนี้มากน้อยแค่ไหนด้วย รวมทั้งต้องดูถึงหลักทรัพย์ที่จะนำมาค้ำประกันว่ามีความเหมาะสมกับสินเชื่อที่จะอนุมัติหรือไม่
เห็นแบบนี้แล้วก็อย่าเพิ่งถอดใจว่าจะไม่ได้สินเชื่อจากธนาคารเพื่อธุรกิจของตัวเอง หากเราเตรียมตัวของเราให้พร้อม การขอวงเงินก็ไม่ได้เกินกว่าความสามารถของตัวธุรกิจและหลักทรัพย์ที่นำมาค้ำประกันแล้วล่ะก็ โอกาสที่จะได้อนุมัติสินเชื่อก็ไม่น่าที่จะยากเกินไป