ในโลกที่มีการคมนาคมที่สะดวกสบายรวมถึงความทันสมัยของเทคโนโลยีที่ทำให้ผู้คนมีการติดต่อสื่อสารกันได้ง่ายขึ้นส่งผลให้เศรษฐกิจมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในอนาคตที่ประเทศไทยและประเทศในกลุ่มสมาชิกอาเซียนกำลังจะมีการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจส่งผลให้แนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจมีมากขึ้น ดังเช่น ใน ปี พ.ศ.2558 จะเห็นได้ว่ามีธุรกิจส่วนตัวเกิดขึ้นมากมาย เนื่องจากช่องทางการติดต่อสื่อสาร การโฆษณาและการค้าขายเป็นไปได้ง่าย สะดวกและรวดเร็ว โดยเฉพาะการติดต่อซื้อขายในโลกออนไลน์ ทั้งนี้ธุรกิจยังมีโอกาสเติบโตขึ้นหากขยายตลาดสู่ประเทศในกลุ่มสมาชิกอาเซียนได้อีกด้วย สำหรับปีต่อ ๆ ไปหากเศรษฐกิจยังมีการเติบโตมากขึ้นแนวโน้มของผู้ที่หันมาประกอบธุรกิจส่วนตัวอาจมีเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
สำหรับธุรกิจส่วนตัวที่กำลังเป็นที่นิยมในปี พ.ศ.2558 นั้น มีหลายธุรกิจด้วยกัน เช่น ธุรกิจด้านการท่องเที่ยว เนื่องจากในปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก เนื่องจากการเดินทางที่สะดวกสบาย ค่าครองชีพที่ไม่สูงมากและวัฒนธรรม วิถีชีวิตอันเป็นเอกลักษณ์ของคนไทยจึงเป็นที่ชื่นชอบของชาวต่างชาติที่อยากมาเที่ยวเมืองไทย นอกจากนี้ยังมีธุรกิจอื่น ๆ อีก เช่น ธุรกิจเกี่ยวกับอาหาร เกี่ยวกับสุขภาพและความงาม โดยธุรกิจบางอย่างสามารถซื้อขายกันผ่านโลกออนไลน์เป็นการประหยัดต้นทุนและเพิ่มช่องทางในการหาลูกค้าได้ง่ายขึ้น รวมไปถึงธุรกิจร้านกาแฟ ร้านขนมที่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากซึ่งธุรกิจเหล่านี้ก็ได้อาศัยโลกออนไลน์ในการโปรโมทร้านด้วยเช่นกัน ธุรกิจส่วนตัวที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มีการอาศัยโลกออนไลน์ในการนำเสนอสินค้าหรือบริการเพราะสามารถติดต่อกับลูกค้าทั้งในและต่างประเทศได้ง่าย ทั้งยังไม่เสียค่าใช้จ่ายในการขายและโปรโมทสินค้าหรือบริการอีกด้วย
อ่านเพิ่มเติม >> 5 ก้าว เริ่มต้นธุรกิจส่วนตัว สตาร์ทจุดไหนให้สำเร็จ ? <<
ผู้ที่สนใจอยาก ทำธุรกิจส่วนตัว ในบางครั้งอาจเริ่มจากความชอบและพัฒนาไปสู่อาชีพที่สามารถเลี้ยงตัวเองได้ และถึงแม้จะมีช่องทางในการซื้อขายเพิ่มมากขึ้นแต่การจะไปถึงจุดนั้นแต่ผู้ที่ทำธุรกิจส่วนตัวยังต้องพบเจอกับปัญหาในการทำธุรกิจอีกมาก เช่น ขาดแคลนเงินทุน ไม่มีความน่าเชื่อถือ ไม่มีความรู้ด้านการตลาด เป็นต้น โดยเฉพาะปัญหาด้านการบริหารเงินซึ่งนับได้ว่าเป็นปัจจัยสำคัญในการทำธุรกิจส่วนตัว ทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่กำลังมองหาแนวทางหรือวิธีการทำธุรกิจส่วนตัวให้เติบโตอย่างมั่นคงและสามารถขยายเครือข่ายออกไปได้ในอนาคตสำหรับผู้ที่ไม่มีประสบการณ์มาก่อนอาจเรียนรู้การบริหารเงินเพื่อทำธุรกิจส่วนตัวจากผู้ที่มีประสบการณ์ ผ่านอุปสรรคต่าง ๆ มากมายจนประสบความสำเร็จ ดังเช่น ธุรกิจขายของทุกอย่าง 20 บาท ที่สามารถพบเห็นได้ตามชุมชนทั่วไป ร้านขายของขนาดย่อมเยาที่ขายของจุกจิกรวมไปถึงข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ซึ่งหลายคนอาจมองว่าเป็นธุรกิจที่ธรรมดาแต่ความจริงแล้ว หากมีการบริหารจัดการที่ดีธุรกิจขายของใช้เหล่านี้ก็สามารถสร้างรายได้จำนวนมากได้เช่นกัน
ธุรกิจขายของทุกอย่าง 20 บาท ที่นำมาแบ่งปันนี้มาจากเว็บไซต์ http://thailandtwentyshop.blogspot.com/2013/03/20.html เป็นธุรกิจเปิดร้านขายของทุกอย่าง 20 บาท เช่น เครื่องครัว เครื่องประดับ ข้าวของเครื่องใช้ในบ้าน เครื่องมือช่าง สติ๊กเกอร์ เครื่องเขียน ของเล่น เสื้อผ้า เป็นต้น โดยมีการเริ่มต้นทำธุรกิจจากการสอบถามผู้ที่มีประสบการณ์มาก่อน จากนั้นเริ่มต้นด้วยการเลือกทำเลในการขายโดยมีหลักการง่าย ๆ คือ เลือกทำเลที่อยู่ใกล้กับถนนเส้นใหญ่ที่มีผู้สันจรไปมาและควรเป็นทำเลที่คนเดินผ่านไปมาทุกวันอีกด้วย โดยทำเลเหล่านี้มักอยู่ใกล้กับตลาดนัด โรงเรียน โรงงาน เป็นต้น ในส่วนร้านในที่นี้ ผู้ประกอบการเลือกทำสัญญาเช่าระยะสั้นเพราะต้องการดูยอดขายก่อน หากขายดีจึงทำการต่อสัญญาระยะยาว เพื่อเป็นการประหยัดเงินทุนและลดความเสี่ยงในการเสียเงินค่าเช่าหากธุรกิจล้มเหลว โดยค่าเช่าอาคาร หากมีของประมาณ 5,000-6,000 ชิ้น ค่าเช่าไม่ควรมากกว่า 5,000 บาทต่อเดือนเพราะหากต้องหักกำไรที่ได้ไปจ่ายค่าเช่าร้านจนหมด
สำหรับของซื้อมาขาย ผู้ประกอบการแนะนำว่าไม่ควรซื้อแบบยกโหลเพราะสินค้าอาจค้างสต๊อกได้ โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มเครื่องประดับ กิ๊ฟช็อปต่าง ๆ เช่น สมุด กรอบรูป พวงกุญแจ กล่องใส่ของลวดลายน่ารัก เป็นต้น หากซื้อแบบยกโหลคุณอาจได้ของที่มีลวดลายและสีสันซ้ำ ๆ กัน แต่ถ้าคุณซื้อสินค้าแบบครึ่งโหล คุณก็จะได้สินค้าที่หลากหลายมากขึ้น และสินค้ากลุ่มนี้หากไปซื้อที่ร้านขายส่งโดยตรงคุณจะได้ราคาที่ถูกมากและมีของให้เลือกมากขึ้นอีกด้วย
ในส่วนของยอดขายในแต่ละวันย่อมไม่แน่นอน หากเป็นร้านตามต่างจังหวัดบางครั้งอาจมียอดขายถึงประมาณวันละ 1,000-5,000 บาท โดยเฉพาะช่วงเทศกาลอาจมียอดสูงถึง 7,000-10,000 ต่อวันเลยทีเดียวในส่วนของกำไร ผู้ประกอบการได้ให้ข้อมูลว่าตนได้กำไรหลังจากหักค่าใช้จ่ายประมาณ 20-50% ไม่รวมค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่าร้านและค่าขนส่งสินค้า
สำหรับข้อควรระวังในการ ทำธุรกิจส่วนตัว นั้นมีหลายข้อด้วยกัน เช่น ศึกษาการทำธุรกิจจากผู้มีประสบการณ์ วางแผนอย่างรัดกุม คำนวณรายรับรายจ่ายให้ละเอียดรอบคอบ ยอมรับข้อผิดพลาด การทำธุรกิจส่วนตัวย่อมมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น หากคุณยอมรับข้อผิดพลาดเหล่านั้นและหาทางแก้ไข เมื่อคุณเจอปัญหาอื่น ๆ คุณก็จะสามารถผ่านไปได้ บริหารเงินให้เป็นเพื่อลดความเสี่ยงในการลงทุน การบริหารเงินเป็นสิ่งสำคัญในการทำธุรกิจส่วนตัวเพราะคุณต้องเป็นผู้ที่จัดการเงินในระบบให้เรียบร้อย คุณจึงต้องศึกษาเกี่ยวกับการลงทุนให้ดีและใช้จ่ายเงินอย่างระมัดระวังเพื่อป้องกันการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น