เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ซบเซาในปัจจุบัน ส่งผลให้บรรดาเจ้าของกิจการต่างๆในประเทศไทย ต้องจำใจปิดกิจการลง ธุรกิจที่เข้มแข็งเท่านั้นที่จะอยู่รอด ถือว่าเป็นช่วงวิกฤตที่ส่อเค้าความรุนแรงอย่างเงียบๆ ถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่คุณต้องเตรียมการรับมือ ทั้งนี้ก็เพื่อให้ธุรกิจของคุณยังคงสู้ต่อไปได้ และทำผลกำไรได้อย่างมหาศาลในช่วงเศรษฐกิจที่กำลังย่ำแย่นี้นั่นเอง ซึ่งเราก็ไอเดีย เพิ่มผลกำไร ให้กับธุรกิจของคุณมาฝากเช่นกัน ตามวิธีการต่างๆ ดังนี้
-
รู้จักตลาดของคุณ และหมั่นศึกษาแนวทางเพิ่มเติมอยู่เสมอ
ก่อนอื่นเลย คุณต้องทราบว่ากลุ่มลูกค้าของคุณเป็นใคร และพวกเขามีกำลังซื้อมากมายแค่ไหน หากผลกำไรที่ได้จากกลุ่มลูกค้าประจำยังไม่เพียงพอ คุณต้องไม่หยุดพัฒนาและเพิ่มฐานลูกค้ากลุ่มใหม่เพิ่มเติมอยู่เรื่อยๆ อาจจะใช้วิธีพบปะลูกค้าโดยตรง หรือผ่านช่องทางอื่นๆ เช่นอินเตอร์เน็ต,สื่อโซเชียลเน็ตเวิร์คต่างๆ เป็นต้น ซึ่งเดี๋ยวนี้การโปรโมทผ่านสื่ออินเตอร์เน็ทก็มีความแพร่หลายมากทีเดียว และพบว่าหลายกิจการก็ประสบความสำเร็จจากการโปรโมทในรูปแบบนี้สูงมากพอสมควรเลยล่ะ
นอกเหนือไปจากนี้ก็เป็นเรื่องของการติดต่อสื่อสาร การที่คุณเป็นถึงเจ้าของกิจการ คุณต้องมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี และมีความจริงใจ ซึ่งสองสิ่งนี้ถือเป็นแรงดึงดูดที่สำคัญ และจะทำให้ลูกค้ารู้สึกประทับใจในบริการของคุณมากยิ่งขึ้นจนบอกต่อไปเรื่อยๆ ซึ่งถือว่าส่งผลดีเป็นอย่างมาก ให้กับองค์กรของคุณ
-
รู้จักคู่แข่งของคุณอย่างถ่องแท้
รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง คำกล่าวนี้ถือเป็นความจริงเสมอในสมรภูมิธุรกิจ เพราะทันทีที่คุณเผลอหันหลังให้ พวกเขาก็จะนำหน้าพวกคุณไป 1 ก้าวเสมอ ดังนั้น คุณต้องมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล และหัดเป็นคนช่างสังเกตอยู่เสมอ ตรวจสอบข่าวสารคู่แข่งจากแหล่งข่าวกรองที่เชื่อถือได้ และหมั่นปรับปรุงพัฒนาธุรกิจของคุณให้นำหน้าคู่แข่งอยู่เสมอ
คนไทยมักมีนิสัยชอบเลียนแบบ เช่น ทันทีที่เห็นอีกฝ่ายใช้วิธีนี้โปรโมทสินค้า แล้วผลลัพท์ที่ออกมาก็ค่อนข้างไปได้สวย ไม่นานพวกเขาก็จะใช้รูปแบบเดียวกันเพื่อการโฆษณา ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่คุณจะต้องมีความคิดนำพวกเขาไปหนึ่งก้าวเสมอ การเลียนแบบไม่ได้ทำให้ธุรกิจของเราน่าสนใจและประสบความสำเร็จเสมอไป แต่ความแปลกใหม่ไม่เหมือนใครต่างหาก ทีจะช่วยดึงดูดลูกค้าให้มาสนใจในตัวสินค้าของคุณได้ ดังนั้นการโปรโมทด้วยรูปแบบใหม่ๆ และดูโดดเด่นน่าสนใจ จึงมีความสำคัญมากทีเดียว
-
หมั่นพัฒนาคุณภาพสินค้าเพื่อสร้างมูลค่าอยู่เสมอ
คุณภาพของสินค้า ถือเป็นจุดยืนที่คุณต้องควบคุมให้ได้มาตรฐานมากที่สุด เพราะสินค้าถือเป็นตัวแทนของบริษัท หากเกิดความผิดพลาดเมื่อส่งถึงมือผู้บริโภคเมื่อไหร่ บริษัทของคุณก็จะเสี่ยงอันตรายมากขึ้นเท่านั้น เพราะอาจเกิดการฟ้องร้อง หรือเป็นข่าวเสียหายทางหน้าหนังสือพิมพ์ได้
และที่สำคัญ คุณควรพัฒนาสินค้าของคุณให้มีคุณภาพดียิ่งๆขึ้นไป เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ และความไว้วางใจจากผู้บริโภค ให้พวกเขาช่วยกันโฆษณาสินค้าของคุณด้วยการบอกต่อและอุดหนุนต่อไปเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน โดยการพัฒนานั้นอาจจะเลือกใช้วัสดุที่มีราคาต้นทุนต่ำลงก็ได้ แต่ทั้งนี้จะต้องยังคงความคุณภาพอยู่เสมอ เพื่อให้สินค้ายังคงเป้นที่ต้องการของลูกค้ามากที่สุดนั่นเอง ไม่ใช่ว่าต้องการลดต้นทุนแต่กลับลดคุณภาพของสินค้าไปด้วย นั่นอาจจะทำให้คุณเสียลูกค้าและเสียกำไรแทนก็ได้
-
หาวิธีลดภาระค่าใช้จ่าย
เป็นอีกหนึ่งวิธี ที่จำเป็นต้องทำเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายภายในองค์กร ซึ่งคุณจะเริ่มจากเรื่องเล็กๆน้อยๆเช่นการประหยัดพลังงาน หรือทรัพยากรต่างๆภายในบริษัทก่อนก็ได้ อาทิเช่น ใช้กระดาษรีไซเคิล,ปิดไฟช่วงพักเที่ยง,ปิดแอร์ก่อนเลิกงาน 1 ชั่วโมง เป็นต้น
ค่าใช้จ่ายอื่นๆส่วนใหญ่ มักมาจากการตัดสินใจที่ผิดพลาด ดังนั้นก่อนที่คุณจะตัดสินใจเปิดโครงการประชาสัมพันธ์ใดๆก็ตาม ควรนำเข้าที่ประชุมเพื่อปรึกษาหารือกับหลายๆฝ่าย จะได้ลดความเสี่ยงและเพิ่มผลกำไรได้สูงตามที่คุณต้องการ
หรือถ้าหากเข้าขั้นวิกฤตจริงๆก็ค่อยมาใช้วิธีปรับลดที่เกี่ยวข้องกับตัวพนักงาน เช่น การปรับลดค่าล่วงเวลา,โบนัส,ค่าเบิกต่างๆที่ไม่จำเป็น เป็นต้น แต่ทั้งนี้การปรับลดค่าใช้จ่ายไม่ควรให้ส่งผลกระทบต่อฝ่ายไหนทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป้นฝ่ายลูกค้าผู้บริโภค หรือพนักงานเองก็ตาม
อ่านเพิ่มเติม >> 5 เทคนิค ลดค่าใช้จ่าย เพื่อให้บริษัทอยู่รอด! <<
-
เพิ่มช่องทางการตลาด เพื่อสร้างฐานลูกค้า
ในเมื่อเศรษฐกิจซบเซาแบบนี้ หากเปิดหน้าร้านขายเพียงช่องทางเดียว คงไม่ได้ผลกำไรมากมายตามที่ตั้งเป้าไว้ ดังนั้น คุณควรเพิ่มช่องทางทางการตลาด หรือสร้างฐานลูกค้าเพิ่มตามสื่อต่างๆ เช่นเปิดเพจบริษัทในหน้าเฟสบุ๊ค ,เว็ปไซต์ทั่วไป,หรือช่องทางอื่นๆตามความเหมาะสม
ทั้งหมดนี้ถือเป็นวิธีช่วยเพิ่มผลกำไรที่ค่อนข้างได้ผล และปฏิบัติตามได้ง่ายไม่ซับซ้อน เหมาะสำหรับเจ้าของกิจการทุกประเภท ที่มีความตั้งใจในการพัฒนาองค์กรให้เกิดผลกำไรสูงสุดตามที่คาดหวังไว้ในอนาคต ใครที่กำลังทำธุรกิจและกำลังมองช่องทางแห่งการประสบความสำเร็จอยู่ล่ะก็ เคล็ดลับเหล่านี้ช่วยคุณได้อย่างแน่นอน
แต่อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ที่เพิ่งจะเข้าสู่การทำธุรกิจ อย่าลืมเตรียมพร้อมในส่วนของเงินสำรองไว้ด้วยนะ เพื่อรองรับสถานการณ์ไม่คาดฝันที่อาจจะเกิดขึ้นได้นั่นเอง อย่าลืมว่าทุกการลงทุนย่อมมีความเสี่ยง การเตรียมรับมือกับความเสี่ยงจึงเป็นก้าวแรกของการประสบความสำเร็จเลยล่ะ