เมลินดา เกตส์ ผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิ Bill & Melinda Gates
“ถ้าคุณประสบความสำเร็จในชีวิต นั่นก็เป็นเพราะว่าที่หนึ่ง ณ เวลาหนึ่ง คน ๆ หนึ่งได้ให้โอกาสในชีวิตคุณ หรือแนวคิดอะไรดี ๆ ที่ทำให้คุณมุ่งหน้าไปในทางที่ใช่ แต่อย่าลืมว่าคุณจะเป็นหนี้บุญคุณไปตลอดชีวิต หากคุณไม่ได้ช่วยเหลือคนที่ด้อยโอกาสกว่าคุณ ในแบบที่คุณเคยได้รับความช่วยเหลือมา” เมลินดา เกตส์ ภรรยาของบุรุษที่ร่ำรวยที่สุดในโลก บิล เกตส์ ก่อนที่เธอจะแต่งงานกับเกตส์ เธอเป็นผู้จัดการทั้วไปของบริษัท Microsoft ตั้งแต่เธอออกจากงานเมื่อปี 1996 เธอก็เป็นลูกมือหลักของมูลนิธิ Gates เพื่อระดมทุนสำหรับโปรเจ็คเกี่ยวกับเรื่องสุขอนามัยของโลก
แอนเดรีย จัง ซีอีโอเก่าของ AVON และประธานของ Grameen America
“พ่อแม่สอนฉันตั้งแต่เด็กว่าคะแนนเต็มควรจะเป็นสิ่งที่คุณไขว่คว้าอยู่เสมอ ฉันอยากจะชนะ และฉันอยากที่ได้ชัยชนะไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม” เธอลาออกจากตำแหน่งหลังจากที่บริษัทประสบปัญหาด้านการเงิน และการลงทุน ขณะนี้เธอทำงานให้กับ Grameen America องค์กรการเงินสำหรับรายย่อย (ไมโครไฟแนนซ์) ที่ก่อตั้งโดยผู้ชนะรางวัลโนเบล มูฮัมหมัด ยูนัส องค์กรไม่แสวงหาผลประโยชน์ที่ให้สินเชื่อกับผู้ยากจนในอเมริกา และเป็นที่แน่นอนว่าคนที่มากู้บางคน ก็เป็นผู้แทนจำหน่ายของ AVON นั่นเอง
ออร์จี ยูซอร์ คาลู (Orji UzorKalu) นักธุรกิจผู้ประสบความสำเร็จ
“นักธุรกิจที่ดีต้องมีเซนส์ในการทำธุรกิจแบบทีนักข่าวมีเซนส์ในการหาข่าว ในสถานการณ์ที่คนหลายคนเห็นแต่อุปสรรค ผมเห็นโอกาสมากมาย นักธรุกิจมองเห็นอะไรหลายๆอย่างที่คนส่วนใหญ่มองไม่เห็น”ออร์จี ยูซอร์ คาลู (Orji Uzor Kalu) นักธุรกิจผู้ประสบความสำเร็จ เขาเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์สองฉบับของไนจีเรีย ชื่อว่า the Daily Sun และ New Telegraphเขามีทรัพย์สินรวมกันกว่า $1000 ล้านเหรียญสหรัฐ
อิโดวู โคเยนิคาน ที่ปรึกษาหลักของบริษัท Grandeur Touch, LLC
“บุคลิกส่วนตัวของคุณจะสะท้อนไปยังธุรกิจของคุณ [เพราะฉะนั้น] ในการที่จะพัฒนาธุรกิจของคุณ คุณต้องพัฒนาตัวเองก่อน”
“คุณต้องทำงานให้กับธุรกิจของคุณ ก่อนที่ธุรกิจของคุณจะทำงานให้คุณ” คำแนะนำเหล่านี้มาจากอิโดวู โคเยนิคานที่ปรึกษาหลักของบริษัท Grandeur Touch, LLC ซึ่งเป็นบริษัทให้คำปรึกษาด้านธุรกิจการเงิน และการจัดการ
เออร์เนสต์ แอกเยมาง เยโบอานักเขียนและอาจารย์มหาวิทยาลัย
“คุณคือผู้จัดการไม่ว่าคุณจะเป็นใครก็ตาม คุณมีหน้าที่จัดการดูแลธุรกิจอยู่เสมอ เพราะคุณเป็นผู้จัดการ มีทรัพย์สินมูลค่ามากมายที่คุณต้องดูแล และนั่นก็เป็นสิ่งที่คุณเลือกเอง ในฐานะที่เป็นคนจัดการชีวิตของตัวเอง การตัดสินใจของคุณก็คือสินทรัพย์อย่างหนึ่ง เพราะมันจะส่งผลต่อธุรกิจในชีวิตของคุณมากไม่ว่ามันจะประสบผลสำเร็จ หรือล้มเหลว คนบางคนกลายเป็นผู้จัดการที่ยอดเยี่ยม ในขณะที่บางคนก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า ล้วนแล้วก็มาจากการตัดสินใจในการเลือกเส้นทางต่างๆของชีวิต หรือบางคนก็เป็นเพราะพวกเขาแค่อยากจะทำธุรกิจไปวันๆเท่านั้น ไม่อยากก้าวหน้าอะไรมากมาย” นักเขียนท่านนี้สร้างแรงบันดาลใจผ่านงานเขียนของเขา ถึงแม้จะไม่ได้เป็นนักธุรกิจอย่างเต็มตัว แตข้อคิดของเขาก็มีประโยชน์ไม่น้อยสำหรับใครที่เริ่มต้นหรือกำลังธุรกิจอยู่ เพราะสอนให้เรารู้ว่าการที่เราจะประสบความสำเร็จหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับทางเลือกที่เราเลือกเดินในชีวิตเป็นหลัก
อยากเสริมเพิ่มแรงใจ อ่านเลย ! >>> รวม ข้อคิดนักธุรกิจ เสริมแรงใจเพื่อการลงทุนที่ดี ! <<<
ลองมาค้นหาเป้าหมายของตัวเอง
การบุกเบิกธุรกิจเป็นมากกว่าแค่การก่อตั้งธุรกิจ ผู้ประกอบการควรจะมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องอนาคต และใช้วิสัยทัศน์นั้นในการสร้างสิ่งที่แปลกใหม่ออกไป นำพาผู้คนเข้ามาใกล้ความเป็นจริงที่พวกเขาอยากจะสร้างขึ้น วิสัยทัศน์นั้นควรจะสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้อื่น หมายถึงว่าไม่ใช่เพียงแค่ตัวผู้ประกอบการเอง แต่หมายรวมถึงบุคคลอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน แต่คุณจะ “เจอ” ธุรกิจและวิสัยทัศน์ที่ควรค่าแก่เวลา แรงกาย และแรงสมองของคุณได้อย่างไร แค่คุณรอเวลาโอกาสที่น่าสนใจมาเคาะประตูได้หรือเปล่า
ถ้าคุณกำลังพยายามดิ้นด้นค้นหาอาชีพธุรกิจของคุณ ลองมาดูวิธีการที่เราแนะไว้ด้านล่าง เป็นวิธีที่ง่ายและตรงไปตรงมา แต่ต้องใช้ความทุ่มเทเป็นอย่างมาก เราหวังว่าคุณจะเข้าใจว่าการใช้เวลา “ค้นหาชีวิต” นั้นสำคัญไม่แพ้กว่าการค้นหางาน ใบปริญญา หรือการอบรมการเป็นนักธุรกิจเลย
เริ่มต้นโดยมีผลลัพธ์อยู่ในใจ
เมื่อต้องกำหนดภาระหน้าที่ในชีวิต คุณต้องเข้าใจว่าอะไรสำคัญที่สุดสำหรับคุณ ลองคิดนอกเหนือจากสิ่งสำคัญในปัจจุบัน แต่รวมไปถึงสิ่งที่จะมีความสำคัญต่อชีวิตคุณในอีก 50 ปีข้างหน้า คุณเชื่อว่ามีอะไรควรจะเปลี่ยนแปลงในโลกใบนี้บ้าง แล้วคุณมีบทบาทอะไรในการเปลี่ยนแปลงนั้น
เรามักจะได้ยินคนหลายคนพูดว่าเขาไม่รู้ว่าจะวางแผนชีวิตระยะยาวอย่างไรดี แต่การตอบแบบนั้นคงจะไม่เพียงพอ ปรัชญาของการบุกเบิกอยู่บนพื้นฐานของความไม่แน่นอน และการมุ่งไปข้างหน้าแม้ว่าอะไรจะยังดูไม่แน่นอนก็ตาม คุณอาจจะไม่มีรายละเอียดทุกอย่าง ณ ตอนนี้ แต่คุณควรจะเข้าใจเป็นอย่างดีว่าสิ่งที่มีความหมายต่อคุณ และเจตนารมณ์ของคุณคืออะไร และอะไรที่ทำให้ชีวิตของคุณน่าอยู่
เพื่อช่วยกำหนดเป้าหมายสูงสุดของคุณ ลองตั้งคำถามกับทุกสิ่งทุกอย่างดู ลองคุยกับทุกๆคนที่คุณชื่นชมและไว้ใจ คนที่คุณคิดว่าเขาประสบความสำเร็จ และถามเขาว่าเขาให้คุณค่ากับอะไรมากที่สุดในชีวิต ลองพบปะผู้คนอายุประมาณเจ็ด-แปดสิบปี และถามพวกเขาว่าพวกเขารักทะนุถนอมอะไรมากที่สุดในชีวิต แล้วลองค้นหาสิ่งที่สำคัญในระหว่างนั้น และสิ่งที่พวกเขาคิดว่าสำคัญมากที่สุด หลังจากที่พวกเขาได้คิดไตร่ตรองมาแล้วทั้งชีวิต ลองถามถึงเรื่องสุขที่สุด และเรื่องที่เขาเสียดายมากที่สุดในชีวิต ในขณะที่คุณสำรวจความสำเร็จ ความล้มเหลว และความทรงจำของพวกเขา คุณเองก็จะได้ค้นพบมุมมองของตัวเองด้วยเช่นกัน
อ่านหนังสือดี ๆ หนังสือปรัชญาสักหน่อย ลองใช้เวลาเงียบ ๆ คนเดียวบ้าง ถ้าคุณเคร่งศาสนา ก็ลองพินิจพิจารณาพื้นฐานความเชื่อของคุณ ใจความของเรืองนี้ก็คือให้คุณลองถามคำถามหลาย ๆ ข้อ พิจารณาข้อสันนิษฐานของตนเอง ลองตรวจสอบชีวิตตัวเองดูว่าอยู่บนพื้นฐานของความจริงเท็จแค่ไหน และให้คิดพิจารณา จากนั้นก็ตั้งคำถามอีกครั้งหนี่ง แล้วลองดูสิว่า ตรงไหนที่คุณจะประสบ ความสำเร็จ ไม่ได้ ?