ก่อน ซื้อบ้าน เชื่อว่าใครหลายๆคนอาจจะต้องมีการคิดและพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วน ซึ่งหากคุณต้องการที่จะซื้อบ้านจริงๆ ก็ควรจะต้องมีการเปรียบเทียบกับบ้านหลายๆที่ และเลือกดูราคาที่เหมาะสม ดูจากสภาพบ้านเป็นอย่างไร และที่สำคัญจะต้องดูความสามารถในการผ่อนชำระของตัวเองอีกด้วย อย่าลืมว่าการที่จะ ซื้อบ้าน จะต้องผ่านกระบวนการหลายขั้นตอน ซึ่งจะต้องเตรียมตัวและความพร้อมหลายๆ อย่าง เพราะหากคุณเตรียมตัวไม่พร้อม หรือแม้แต่ทำเรื่องกู้กับธนาคาร ผ่านแล้วก็ตาม แต่ก็ยังมีรายจ่ายอื่นๆ ตามมาอีก ซึ่งหากเกิดความผิดพลาด อาจทำให้คุณมีหนี้ก้อนโตก็ได้
จ่ายค่าธรรมเนียม ภาษีและดอกเบี้ย
ก่อนทำการโอนบ้านนั้นจะต้องมีการเสียค่าธรรมเนียมการโอน, ภาษีเงินได้,ค่าอากรแสตมป์ ฯลฯ และยังมีส่วนที่เพิ่มเติมสำหรับคนที่ทำการกู้กับธนาคาร ที่จะต้องมีค่าจดจำนอง รวมไปถึงดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายให้กับธนาคารทุกๆเดือน ซึ่งในส่วนนี้ตัวเลขค่าธรรมเนียมที่จะต้องจ่าย จะมีความแตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับบ้านแต่ละแห่ง และดอกเบี้ยในการกู้ก็ยังขึ้นอยู่กับของแต่ละธนาคารอีกด้วย
จ่ายค่าซ่อมแซมและการบำรุงดูแลรักษา
ไม่ว่าจะเป็นบ้านมือสองหรือเป็นบ้านใหม่มาก็ตาม ก็อาจจะมีจุดที่ต้องทาการซ่อมแซมหรือปรับปรุง เพราะยังมีจุดบก พร่องที่คุณอาจจะมองไม่เห็น ไม่ว่าจะเป็นระบบท่อน้ำหรือการเดินสายไฟ รวมไปถึงความผิดพลาดบางอย่าง ที่อาจจะ แสดงอาการภายหลัง ซึ่งอาจจะมีการแตกร้าวของผนังบ้านหรืออาคารที่ทรุด และยิ่งเป็นบ้านมือสองด้วยแล้ว ยิ่งต้องคอยตรวจเช็คและคำนวณค่าใช้จ่ายให้ดีก่อนที่จะทำการตัดสินใจซื้อและต้องมาปรังปรุงภายหลัง ทางที่ดีนั้นควรมองหาผู้เชี่ยวชาญ เพื่อทำการขอคำปรึกษาในด้านนี้แบบเฉพาะทาง แต่เมื่อคุณเข้าอยู่อาศัยและใช้งานไปซักระยะหนึ่งแล้ว ก็อาจจะทำให้มีการเสื่อมโทรมตามสภาพ ในส่วนนี้ก็จะมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นตามมา หากบางบ้านมีสวนหรือสระว่ายน้ำ ก็อาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงเครื่องมือและอุปกรณ์ตกแต่งให้เกิดความสวยงาม แม้แต่ค่าทำความสะอาดและเปลี่ยนน้ำในสระ ค่าใช้จ่ายส่วนนี้ต้องเสียไปอีกมากเลยทีเดียว
ผ่อนหนี้บ้านให้หมดไวจะได้สบายใจ
อย่าพึ่งกลัวค่าใช้จ่ายแฝงในการซื้อบ้านกันไปก่อน เพราะว่าก่อนทำการตัดสินใจที่จะซื้อบ้านทุกครั้ง หากทำการบ้านและมีการวางแผนการเงิน เพื่อทำการลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นทิ้งไปตั้งแต่ต้นแล้ว ค่าใช้จ่ายแฝงที่ตามมาก็อาจจะไม่เกินจากที่คุณประมาณการณ์เอาไว้อย่างแน่นอน ซึ่งนอกจากนี้ผู้ที่มีภาระในการผ่อนบ้านมีศัตรูตัวฉกาจในการปิดบัญชีหนี้ก็คือดอกเบี้ย ซึ่งหากคุณสามารถผ่อนชำระหนี้ให้หมดได้เร็ว ก็จะทำให้ภาระของคุณไม่พอกพูนบานปลาย การขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยหรือกู้ ซื้อบ้าน นั้น จะมีระยะเวลาการผ่อนชำระค่อนข้างยาวกว่าหนี้ประเภทอื่นๆ ซึ่งจะเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 20 ถึง 30 ปี หากสินเชื่อบ้านเป็นหนี้ที่มีวงเงินค่อนข้างมาก แต่ในแง่ของสถาบันการเงินก็ถือได้ว่าเป็นสินเชื่อที่มีความเสี่ยงน้อยกว่าสินเชื่อประเภทอื่นๆ เพราะหากคุณไม่สามารถผ่อนชำระต่อได้ ทางสถาบันการเงินก็ยังสามารถยึดหลักทรัพย์ คือ บ้าน เพื่อนำมาขายทอดตลาดต่อได้ ทำให้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยจึงเป็นการเปิดโอกาสให้ลูกหนี้สามารถผ่อนชำระได้ยาวนานเป็นพิเศษ แต่การที่ปล่อยให้ผ่อนชำระได้นานแบบนี้ หากผ่อนนานเกินไปก็อาจจะทำให้ราคาบ้านแพงกว่าที่คาดไว้มาก เพราะ
ปรากฏว่าเมื่อรวมเงินต้นและดอกเบี้ยทั้งหมดที่จะต้องจ่ายตลอดสัญญาราคาบ้านจะอยู่ในราคาที่สูงมากเห็นตัวเลขแล้ว อาจจะหน้ามืดไปเลยก็ได้
เคล็ดลับดีๆ ในการผ่อนชำระหนี้บ้านให้หมดเร็ว
สำหรับคนที่ต้องการมีอิสรภาพจากการเป็นหนี้ สามารถแก้ปัญหาได้หลายทาง ซึ่งหากคุณมีกำลังทรัพย์เพียงพอ คุณสามารถเพิ่มเงินค่างวดในการผ่อนชำระซึ่งเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดที่จะทำให้คุณสามารถชำระหนี้หมดได้เร็วขึ้น เป็นธรรมดาว่า เงินส่วนที่นำมาจ่ายเพิ่มนี้ อาจจะกระทบกับรายได้ของคุณ แต่เพื่อเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่กว่า ก็ต้องรู้จักอดทนและประหยัดรายจ่ายในส่วนอื่นๆ โดยอาจจะใช้วิธีตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นบางอย่างออก ทั้งนี้ก็เพื่อนำมาผ่อนชำระเพิ่ม ซึ่งการเพิ่มเงินผ่อนชำระก็จะทำให้คุณปลดหนี้ได้เร็วขึ้น บางคนมองว่าระยะเวลาไม่ได้ลดลงมากเท่าไหร่นัก แต่หากพิจารณาในแง่ของตัวเงินแล้ว จะทำให้คุณสามารถประหยัด ดอกเบี้ยลงได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
การแก้ปัญหาอยากให้บ้านผ่อนหมดเร็วๆ
สำหรับคนที่มีรายได้พิเศษนอกเหนือจากรายได้ประจำ ไม่ว่าจะเป็นเงินโบนัส เบี้ยขยันประจำปีจากบริษัท เงินรางวัล คุณสามารถเลือกที่จะนำมาโปะหรือจ่ายเป็นเงินก้อนได้ หากคุณไม่ได้มีความจำเป็นในการใช้เงินก้อน ก็จะทำให้สามารถช่วยในเรื่องของการประหยัดดอกเบี้ยไปได้มาก แม้ว่าวิธีนี้อาจจะยาก เพราะหลายคนอาจจะทุ่มเททำงานอย่างหนักทำให้คิดว่าน่าจะได้รับรางวัลเพื่อนำไปใช้จ่ายตามใจชอบอย่างที่ต้องการบ้าง แต่ก็อยากให้มองว่าหากคุณหมดภาระหนี้ได้เร็วเท่าไร เงินที่เหลือจากที่คุณสามารถหามาได้ก็จะสามารถนำไปใช้จ่ายได้อย่างเต็มที่เช่นกัน อดเปรี้ยวไว้กินหวาน น่าจะดีกว่า