หลาย หลาย คน เมื่อทำงานได้สักระยะหนึ่งก็อยากจะมีสมบัติเป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นบ้าน รถยนต์ คอนโด หรืออื่น อื่น อีกมากมาย….แต่คราวนี้เราจะมาพูดถึง บ้าน กับ รถ เราจะมีอะไรก่อนดี มาดูกันเลยว่าเราจะใช้อะไรมาเป็นสิ่งที่ช่วยตัดสินใจเลือกว่าจะเป็นเจ้าของบ้านหรือรถก่อนดี หรือพออ่านจบแล้ว…อาจจะบอกกับตัวเองว่าพักไว้ก่อนดีกว่า….ยังไม่จำเป็น
อ่านเพิ่มเติม >> ระหว่าง ซื้อบ้านกับซื้อรถ ควรซื้ออะไรก่อน <<
บางคนฝัน อยากมีบ้าน
อยากมีสวนไว้เดินเล่น มีห้องนั่งเล่นไว้พักผ่อน ชมนก ชมไม้ หลังเลิกงาน และวันหยุดต่างๆ ตามแต่จะมี ซึ่งบ้านที่จะหาได้แบบที่ว่านั้นเดี๋ยวนี้ก็จะอยู่นอกเมืองซะเป็นส่วนใหญ่ เพราะยังเป็นราคาที่พอรับได้ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยระยะเวลาที่ใช้ในการเดินทางที่ทั้งไกล รถก็ติด… ทำให้เวลาที่จะอยู่บ้านน้อยกว่าที่ทำงานและบนถนนเสียอีก แต่ถ้าหากจะหาบ้านในขนาดที่ต้องการและอยู่ไม่ไกลจากที่ทำงาน ใช้เวลาในการเดินทางน้อย ก็จะมีราคาที่สูงมาก สูงจนกระทั่งคิดว่าเรากำลังซื้อคฤหาสน์กันเลยทีเดียว
ดังนั้นส่วนใหญ่คนที่ซื้อบ้านนอกเมือง แต่ต้องทำงานในเมือง มักจะปล่อยว่างในวันทำงาน และมักจะได้กลับไปอยู่ตอนวันหยุดเท่านั้น หากบางคนที่มีรายได้สูง… ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการมีบ้านสักหลังอาจจะไม่เป็นภาระเท่าไร แต่ถ้าบางคนมีรายได้พอประมาณที่จะเป็นเจ้าของบ้านได้สักหลัง ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นนั้นอาจจะดูหนักหนาสาหัสกันเลยทีเดียว …. เรามาดูกันดีกว่าว่าการมีบ้านสักหลัง เราจะมี Fixed Expense อะไรเกิดขึ้นบ้างในแต่ละเดือน หรือแต่ละปี
การมีบ้านสักหลังหากไม่ใช่คนรวยแล้ว ส่วนใหญ่ก็จะต้องใช้บริการสินเชื่อบ้านกับธนาคารทั้งนั้น ดังนั้นค่าใช้จ่ายที่เรามีต่อเดือนแน่นอน คือ ค่าผ่อนบ้านที่ต้องจ่ายให้ธนาคาร ซึ่งจะมากหรือน้อยก็แล้วแต่ราคาบ้าน ระยะเวลาในการผ่อน ที่มักจะเป็น 10 -30 ปี แต่ยังดีหน่อยที่สินเชื่อบ้านนั้นจะเป็นแบบลดต้นลดดอก ส่งเงินมากก็หมดเร็ว ค่าใช้จ่ายที่จะตามมาอีกก็จะเป็นค่าน้ำ ค่าไฟที่เกิดขึ้นในแต่ละเดือนแต่อันนี้น่าจะเป็นค่าใช้จ่ายเพียงเล็กน้อย และที่เรามักจะลืมกันก็ คือ ค่าใช้จ่ายส่วนกลางที่ต้องจ่ายทุกปี แต่ก็มีบางโครงการอาจจะถือเป็นโปรโมชั่นให้ลูกค้า Waive ให้ 5-10 ปี หลังจากนั้นเราก็ต้องจ่ายเอง ซึ่งจะคิดตามพื้นที่บ้านของเรา และบ้านเมื่อมีอายุมากขึ้น เราก็ต้องเตรียมเงินไว้ปรับปรุง ซ่อมแซมบ้านด้วย ทาสีบ้าง ดินรอบบ้านทรุดบ้าง รั้วพัง ประตูขึ้นสนิม … มากมายที่จะเกิดขึ้นได้
เพราะฉะนั้นก่อนตัดสินใจซื้อบ้านสักหลัง สำรวจตัวเองก่อนว่าเป็นมีบ้านอยู่กรุงเทพหรือเปล่าถ้ามีและไม่อึดอัดมากมายก็อยู่บ้านไปก่อนดีมั้ย หรือหากมีบ้านอยู่ต่างจังหวัด ถามตัวเองว่าจะกลับไปอยู่บ้านหรือเปล่าถ้าใช่ ก็อย่าหาภาระให้ตัวเองอีกว่า หรือบางคนบอกว่าอยากสร้างครอบครัว… ถ้าบ้านที่มีอยู่ยังพออยู่ไว้ คนในบ้านก็โอเค อยู่แล้วไม่อึดอัดใจเท่าไร ก็น่าจะยังอยู่ต่อได้เหมือนกัน อบอุ่นอีกต่างหาก เวลามีอะไรต้องการความช่วยเหลือก็ไม่ต้องไปไหนไกล….เงินที่จะเอาไปผ่อนบ้านในแต่ละเดือนก็เก็บออมกันไว้ก่อนดีกว่า
ทีนี้มาถึงเรื่องรถ
ใครก็อยากมีรถขับกัน มันทั้งโก้ เก๋ แต่บางคนที่อยากจะมีรถไว้ใช้ ก็เพราะทุกวันนี้รอรถเมล์นานมาก… รถตู้มาก็เต็ม เรียกแท๊กซี่ก็ไม่ไป จะเรียกมอเตอร์ไซค์ก็กลัวตาย … เอาว่ะลองกัดฟันออกรถสักคันหนึ่ง… แต่ก่อนซื้อรถเราลองมาดูค่าใช้จ่ายรายเดือนที่จะตามมา อันดับแรกเลยถ้าเราไม่ได้ซื้อเงินสด เราก็ต้องมีค่างวดของรถยนต์ ซึ่งรถยนต์จะแตกต่างจากบ้าน คือ ของรถยนต์จะคิดดอกเบี้ยทีเดียว การส่งเงินมากเพิ่มขึ้นในแต่ละเดือนหรือการจ่ายคืนก่อนครบกำหนดก็ไม่ได้ทำให้เราจ่ายดอกเบี้ยลดลง เพราะสินเชื่อรถยนต์จะคิดดอกเบี้ยแบบคงที ไม่ได้ลดต้นลดดอกเหมือนกับสินเชื่อบ้าน คือ คิดดอกเบี้ยครั้งเดียว จากเงินต้นที่ต้องการ ส่วนระยะเวลาในการผ่อนก็มีให้เลือกหลากหลาย เช่น 4 ปี 5 ปี หรือ 7 ปี
และเมื่อเราจะซื้อรถสิ่งที่ต้องคิดถึง คือ ค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่จะตามมา ได้แก่ ค่าประกันภัยรถยนต์ ค่าน้ำมัน ค่าที่จอดรถ ค่าทางด่วน ค่าบำรุงรักษาตามระยะทาง ยังไม่นับรวมค่าซ่อมแซมระหว่างทางอีก ถ้าหากเวลาเราใช้รถไปนาน นาน รถที่ใช้ก็จะต้องเริ่มมีอาการซ่อมนู่น นี่ นั่น เต็มไปหมดตามอายุการใช้งานของเครื่องยนต์และอุปกรณ์ต่างๆ
อ่านเพิ่มเติม >> เรื่องเงินน่ารู้ก่อนจะ ซื้อรถใหม่ สักคัน <<
ดังนั้นไม่ว่าเราตัดสินใจจะซื้อบ้านหรือรถ สิ่งที่ต้องคิดให้มาก มาก คือ ค่าใช้จ่ายประจำ หรือ Fixed Expense ที่เกิดขึ้นรายเดือน และรายปี ต้องสำรวจตัวเองว่าพร้อมรับภาระในระยะยาวที่เกิน 5 ปีได้หรือเปล่า เราวางแผนทางการเงินของเราดีหรือเปล่า หากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นมาเรายังมีกำลังที่จะจ่ายเงินค่าบ้านและรถได้อยู่ใช่หรือไม่ และหากเราซื้อรถมาจะต้องเป็นตัวช่วยให้เราสามารถทำงานมีเงินเพิ่มขึ้นได้ หรือไม่ก็บ้านที่ซื้อมาเราสามารถอยู่ได้อย่างคุ้มค่า ไม่ต้องปล่อยร้างเพราะมันไม่สะดวกต่อการเดินทางไปทำงานของเรา ….. ลองดูกันนะ พิจารณาเลือกกันดี ดี ว่าจะมีบ้าน หรือ รถก่อนดี… หากคิดดีแล้วว่ายังไม่มีดีกว่า ก็เอาเงินส่วนนั้นมาออมและลงทุนกันดีกว่า…