ติดบูโร ทำบัตรเครดิต ได้มั้ย เช็กให้ชัวร์ก่อนสมัคร
หลายคนที่เคยมีประวัติค้างชำระ หรือจ่ายหนี้ล่าช้าจนถูกบันทึกในเครดิตบูโร อาจสงสัยว่า ติดบูโร ทำบัตรเครดิตได้มั้ย? คำถามนี้สำคัญมากโดยเฉพาะในปี 2025 ที่ธนาคารเข้มงวดในการพิจารณาเครดิตมากขึ้น บทความนี้จะพาคุณมาทำความเข้าใจว่าเครดิตบูโรคืออะไร ติดแล้วส่งผลยังไง และมีทางไหนบ้างที่คนติดบูโรจะสมัครบัตรเครดิตให้ผ่านได้
เครดิตบูโรคืออะไร?
เครดิตบูโร (Credit Bureau) คือศูนย์ข้อมูลเครดิตที่รวบรวมประวัติการชำระหนี้จากสถาบันการเงินทั่วประเทศ เช่น บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อรถ บ้าน ฯลฯ โดยข้อมูลนี้จะนำมาใช้ประกอบการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ หรือบัตรเครดิต
ติดบูโร คืออะไร?
การติดบูโร เป็นภาษาพูด หมายถึง มีสถานะบัญชีที่ค้างชำระเกิน 90 วัน หรือติดค้างหนี้ในระบบ จนกลายเป็นหนี้เสีย (NPL) ซึ่งจะถูกบันทึกไว้ในรายงานเครดิตบูโร และอาจมีผลกระทบในการยื่นขอสินเชื่อ หรือบัตรเครดิตในอนาคต
ตัวอย่างสถานะเสี่ยงในรายงานบูโร:
- ค้างชำระ 3 เดือนขึ้นไป
- มีบัญชีที่ถูกฟ้องร้อง
- อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างหนี้
ติดบูโร ทำบัตรเครดิต ได้ไหม?
คำตอบคือ เป็นไปได้ แต่ยาก โดยทั่วไปแล้วธนาคาร หรือผู้ให้บริการบัตรเครดิตจะไม่อนุมัติให้กับผู้ที่มีสถานะเครดิตบูโรไม่ดี เพราะมองว่ามีความเสี่ยงสูง แต่อย่างไรก็ตามอาจมีกรณียกเว้น หรือแนวทางบางอย่างที่อาจช่วยให้สมัครบัตรเครดิตได้แม้เคยติดบูโร
เคยติดบูโร อยากทำบัตรเครดิต ต้องทำยังไง?
1.ปิดหนี้ให้เรียบร้อย และรอให้สถานะดีขึ้น
หากชำระหนี้ที่ค้างอยู่แล้ว ข้อมูลในเครดิตบูโรจะยังคงแสดงต่อไปอีก 3 ปี นับจากวันที่ปิดบัญชี แต่สถานะจะดีขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการสมัครผ่านในอนาคต
2.สมัครบัตรเครดิตแบบมีหลักประกัน
หรืออาจเรียกว่า บัตรเครดิตเงินฝากค้ำประกัน ซึ่งธนาคารหลายแห่งเปิดให้คนมีประวัติเครดิตไม่ค่อยดีสมัครโดยเฉพาะ หรืออาจเป็นกลุ่มฟรีแลนซ์ที่มีรายได้ไม่สม่ำเสมอ ข้อดีคือมีโอกาสผ่านอนุมัติสูง เพราะธนาคารมีเงินค้ำประกันอยู่แล้ว
3.สมัครบัตรกดเงินสด หรือสินเชื่ออื่น ๆ แทน
บัตรกดเงินสดบางธนาคาร หรือสินเชื่อดิจิทัล มักมีเงื่อนไขการสมัครไม่เข้มงวดเท่ากับบัตรเครดิต แต่ทั้งนี้ก็ต้องไม่มีหนี้เสียอยู่ในระบบปัจจุบันก่อนสมัคร
สิ่งที่ควรทำหากอยากสมัครบัตรเครดิตหลังติดบูโร
- เช็กสถานะเครดิตของตัวเอง ผ่านเครดิตบูโร (ค่าธรรมเนียมประมาณ 150 บาท)
- ปิดบัญชีหนี้เก่าให้หมด และเก็บหลักฐานการชำระไว้
- รอเวลาให้สถานะเป็นปกติ (Clean Record) อย่างน้อย 12–36 เดือน
- มีรายได้มั่นคง และไม่ติดภาระหนี้เกิน 40% ของรายได้
- เริ่มจากบัตรเครดิตแบบมีเงินค้ำ แล้วค่อยอัปเกรดในอนาคต
ใครที่เคยมีประวัติติดบูโร ก็ไม่ต้องท้อใจไป เพราะระบบเครดิตสามารถฟื้นให้ดีขึ้นเหมือนเดิมได้ ซึ่งสิ่งสำคัญคือการเริ่มต้นชำระหนี้ให้ตรงเวลา และสร้างวินัยการเงินที่ดี เพราะหากสามารถพิสูจน์ได้ว่ามีความรับผิดชอบมากขึ้น ทำให้เครดิตดีขึ้นได้ การสมัครบัตรเครดิต หรือสินเชื่อในอนาคตก็จะง่ายขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน