รถยนต์เป็นสิ่งที่ช่วยอำนวยความสะดวกเวลาที่ต้องเดินทาง คนทุกคนย่อมอยากมีรถยนต์เป็นของตนเอง เมื่อตอนที่อยากได้และอยากมีก็จะพยายามหาทุกวิธีเพื่อมีเงินก้อนมาดาวน์รถที่ตนเองชื่นชอบไปไว้ใช้งาน แต่เมื่อใช้งานไปเรื่อย ๆ ก็เริ่มรู้แล้วว่าการผ่อนรถยนต์คันหนึ่งนั้นเป็นภาระให้แก่การใช้ชีวิตพอสมควร จากที่เคยกินอยู่แบบสบายก็ต้องใช้จ่ายอย่าประหยัดมากขึ้นเพื่อเงินส่วนที่แบ่งเอาไว้เป็นค่าผ่อนชำระหนี้รถยนต์
บางเดือนมีค่าใช้จ่ายฉุกเฉินเข้ามาก็อาจจะทำให้เงินไม่พอชำระค่างวดรถยนต์ในเดือนนั้น ๆ สิ่งตามมาก็คือโทรศัพท์เพื่อติดตามทวงหนี้จากไฟแนนซ์หรือธนาคารต่าง ๆ เจ้าหนี้ ไม่เพียงแค่โทรทวงถามค่างวดรถยนต์เท่านั้นแต่อาจจะต้องเสียค่าติดตามทวงถามให้แก่เจ้าหนี้อีกด้วย การค้างชำระค่างวดรถ 1-2 งวดนั้นอาจจะโดนแค่ติดตามทวงถามค่างวดและมีค่าบริการติดตามทวงถาม แต่หากปล่อยให้หนี้สินเข้าสู่งวดที่ 3 เมื่อไหร่จากติดตามทวงถามค่างวดรถก็จะเป็นการติดตามทวงรถยนต์แล้ว เพื่อเป็นการนำรถยนต์ไปพักไว้ก่อน
ในกรณีที่คิดว่ายังไม่พร้อมจ่ายเงินทั้ง 3 งวดที่ค้างไว้ แต่ก็จะพยายามหามาจ่ายให้ได้ก็ให้ทำการตกลงกับทางพนักงานหรือสำนักงานเจ้าหนี้เรื่องการเลื่อนวันชำระค่างวดรถยนต์ออกไปก่อน และอย่าเพิ่งมาทำการยึดรถแต่ในกรณีนี้จะสามารถใช้ได้ก็ต่อเมื่อมั่นใจว่าจะสามารถหาเงินมาจ่ายค่างวดรถยนต์ตามจำนวนยอดที่ค้างเอาไว้ทั้งหมดได้ ตามวันและเวลาที่ทางบริษัทเจ้าหนี้เป็นผู้กำหนดแต่หากในกรณีที่ไม่สามารถหาได้ทันเวลาก็ต้องจำยอมให้ถูกยึดรถยนต์ไปพักไว้ก่อน
อ่านเพิ่มเติม >> ค้างค่ารถมากกว่า 1 งวด ควรทำอย่างไร ? <<
แต่ก็ไม่ต้องตกใจไปเพราะในขณะที่ถูกยึดรถยนต์ไปยังพอมีเวลาหาเงินส่วนที่ติดค้างไปชำระพร้อมค่าปรับแล้วนำรถกลับมาใช้งานได้เช่นเดิม แต่ก็ต้องภายในเวลาที่บริษัทยื่นข้อเสนอให้ไม่เช่นนั้นรถยนต์อาจจะถูกปล่อยไปประมูลและจบเหตุทันที เพราะเท่ากับว่ารถยนต์ได้ถูกยึดไปอย่างสมบูรณ์แบบแล้วสิ่งตามมาก็คือภาระการชดเชยส่วนต่างให้บริษัทเจ้าหนี้หากการขายทอดตลาดรถยนต์ไม่ได้ราคาตามที่ตั้งเอาไว้ ซึ่งทุกคนที่เคยถูกยึดรถยนต์ไปจะต้องได้รับหมายศาลคดีแพ่งที่เกี่ยวกับการชดใช้ค่าส่วนต่างรถยนต์ที่ถูกยึดไปแล้วอย่างแน่นอน และหากถูกยึดรถจริง ๆ เครดิตบูโรก็จะกลายเป็นบัญชีดำอย่างน้อย 3 ปีไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินที่เกี่ยวกับเครดิตได้เลยหรือในกรณีส่งงวดล่าช้าก็มีผลกระทบต่อเครดิตบูโรเช่นกัน เพราะทางบริษัทเจ้าหนี้จะแทงชื่อของเราไปว่าเป็นประเภทชำระเงินล่าช้าในทุกรอบปีอย่าคิดว่าการจ่ายช้าจะไม่ส่งผลต่อเครดิตด้านการเงิน
หากไม่อยากถูกยึดรถยนต์เมื่อเริ่มรู้ตัวว่าไม่ไหวแล้ว ก็ให้พยายามหาเงินเพื่อมาชำระแบบตัดงวดไปก่อนซัก 1-2 งวดไม่ให้เข้า 3 งวดก็ยังพอเป็นทางออกที่ดีได้พอสมควร แต่หากเริ่มไม่ไหวแล้วจริง ๆ ก็ตัดใจขายไปเลยแม้ว่ามันอาจจะขาดทุนแต่ก็เป็นการดีกว่าจะปล่อยให้ถูกยึดเพราะมันจะทำให้ประวัติทางการเงินเสียได้ง่าย ๆ สำหรับการขายรถก็มีอยู่ 2 วิธีคือ
- ขายแบบขาดทุนไปเลย แต่ต้องคำนวณว่าราคาขายขายไปนั้น เงินที่ได้มาจะพอปิดหนี้ได้หรือเปล่า แม้ว่าขายแล้วเงินอาจจะเหลือหรือไม่เหลือเลยก็จำเป็นต้องตัดใจขายออกไปเพราะโดยส่วนใหญ่การขายรถแบบร้อน ๆ เช่นนี้คำว่ากำไรไม่มีอย่างแน่นอน
- การขายดาวน์ต่อ การขายแบบนี้จะยังพอให้เห็นเงินอยู่บ้างด้วยการขายต่อให้บุคคลอื่นเอารถไปส่งต่อโดยต้องนำเงินสดมาซื้อดาวน์ต่อจากเรา และต้องทำการเปลี่ยนสัญญาให้ผู้ซื้อใหม่เป็นผู้รับผิดชอบหนี้สินทั้งหมดที่เหลือของรถยนต์คันที่ซื้อต่อไป ส่วนเราก็จะหมดภาระและได้เงินสดมาก้อนหนึ่งประวัติทางการเงินก็ไม่เสีย ไม่แนะนำให้ซื้อขายกันด้วยการทำสัญญาใจหรือสัญญาที่ไม่มีผลด้านกฎหมาย เพราะชื่อของเรายังคงติดค้างอยู่กับรถยนต์คันที่ขายไปแล้วหากไม่มีการเปลี่ยนสัญญาอย่างถูกต้อง เมื่อเจ้าของใหม่เอารถยนต์ไปใช้งานแล้วเกิดไม่ส่งต่อหรือส่งล่าช้าผลกระทบจะมาอยู่ที่ชื่อของเราในทันที ดังนั้นหากจะขายดาวน์คือต้องทำการเปลี่ยนสัญญาในทันที อย่าให้ภาระเรื่องรถยนต์ยังมาผูกมัดเราได้หากคิดจะขายออกไปแล้ว
วิธีการแก้ไขหนี้สินเรื่อง ผ่อนชำระค่างวดรถไม่ไหว ก็มีอยู่หลายวิธีสามารถช่วยปลดภาระและความกังวลใจให้แก่เจ้าของรถยนต์ได้ แต่ทางที่ดีก่อนออกรถยนต์เพื่อมาใช้งานควรคิดถึงสภาพคล่องในระยะยาวเอาไว้ให้ดีอย่าคิดแค่อยากได้อยากมีและไหวแน่นอน เพราะไม่มีใครรู้ถึงอนาคตของตนเองได้โดยเฉพาะเรื่องการเงินที่สามารถพลิกแพลงได้ตลอดเวลา หรือหากถ้ามีรถยนต์แล้วก็พยายามผ่อนชำระให้ตรงตามเวลาเพื่อไม่ให้เกิดหนี้สินแบบพอกหางหมูและต้องมานั่งทุกข์ใจเพราะสิ่งที่ตนเองรักและไม่อยากปล่อยให้หลุดจากมือไป
อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญเมื่อเป็นหนี้สินเกี่ยวกับรถยนต์แล้วอย่าเลี่ยงรับโทรศัพท์จากพนักงานทวงถามหนี้สิน เพราะว่ามันจะยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก ดังนั้นควรรับสายทุกครั้งแม้ว่าจะถูกโทรตามโทรจิกมากแค่ไหนและทำการคุยตกลงกันให้เรียบร้อย หากตกลงกันแล้วก็จะไม่ค่อยมีสายโทรเข้ามารบกวนอย่างแน่นอนหากยังไม่ถึงรอบแต่หากไม่รับสายพนักงานก็จะยิ่งพยายามติดต่อเข้าอาจจะสร้างความรำคาญให้แก่เราได้พอสมควร