เคลมประกัน ทำไง เมื่อเกิดเหตุ มีรถต้องรู้ มีประกันยิ่งต้องรู้!

สวัสดีเพื่อนๆทุกคนครับ ที่ติดตามบทความของพวกเราทีมงาน Moneyhub มาโดยตลอดครับ ซึ่งในครั้งที่แล้วเราได้รู้เกี่ยวกับประกันชั้นต่างๆ การคุ้มครอง สิทธิของผู้เอาประกันต่างๆ ที่ให้เพื่อนๆเลือกให้เหมาะสมกับรถยนต์ของตัวเอง และในครั้งนี้ผมได้บอกไปในบทความที่แล้วว่าจะมาแนะนำเกี่ยวกับการเกิดเหตุขึ้นจริง ว่าจะทำอย่างไรในเมื่อเราเกิดอุบัติเหตุพร้อมทั้งมีประกันภัยรถยนต์ใช่ไหมล่ะครับ หรือ อาจจะเรียกง่ายๆได้ว่าคือ การเคลมประกันทำอย่างไร ? ต้องมีหลักการแบบไหน ต้องทำอย่างไรบ้าง

ซึ่งไม่ยากเลยครับ วันนี้พวกเราได้รวบรวม เหตุการณ์สมมุติที่อาจจะเกิดขึ้นจริงในทุกๆกรณีกันครับ  เพื่อนๆอยากรู้กันแล้วใช่ไหมล่ะครับว่า ถ้ากรณีแบบนี้ จะต้องทำอย่างไร ดังนั้นเราไปดูกันเลยครับว่า ควรทำอย่างไรเมื่อเกิดเหตุขึ้นจริงๆครับ

อ่านตอนที่แล้ว : เลือกประกันภัยรถยนต์ แบบไหนดีสุด ให้คุ้มสุด ตรงใจสุด!

การเคลมประกันรถยนต์นั้นทำอย่างไร ?

    การเคลมประกันนั้นคือการทับศัพท์ claim = อ่านว่า เคลม หมายถึง เรียกร้อง,สิทธิเรียกร้อง,สิทธิ,สิทธิควรได้รับ และ insurance   คือ ประกันภัย หมายถึง การประกันความเสียหายของทรัพย์สิน การเคลมประกัน หมายถึ งการเรียกร้องความเสียหายที่เกิดต่อทรัพย์สิน นั่นเองครับ

เคลมประกัน ทำไง ? อันดับแรกจริงๆก็ต้องตั้งสติก่อนนะครับ

• ในกรณีที่ไม่มีใครผิดโดยชัดเจนครับ ทำอย่างไร?

1. อย่าเคลื่อนย้ายรถจนกว่าตำรวจจะมาทำเครื่องหมายและให้ย้าย
2. ติดต่อตำรวจในท้องที่ หากไม่มีตำรวจในบริเวณนั้น
3. โทรหาบริษัทประกันของคุณ เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟัง
4. หากเกิดขึ้นในต่างจังหวัด หรือบนทางหลวง คุณสามารถติดต่อตำรวจทางหลวงได้ หลังจากนั้นจึง- โทรหาบริษัทประกันของคุณ

เมื่อตัวเราเองไม่ใช่คนผิด กับการกระทำผิดครั้งนี้ครับ เช่นโดนชนท้ายหรือรถจอดอยู่โดนชน หรือ เรื่องของจราจร ทางเอก ทางโท ครับ ซึ่งแน่ใจว่าเราเองไม่ใช่คนผิดแน่นอนครับ

1. จนเลขทะเบียน ชื่อ ที่อยู่ของคู่กรณีที่ทำผิด
2. ให้ผู้กระทำผิดลงนามในเอกสารที่เตรียมโดยบริษัทประกันของคุณ และจดรายละเอียดในใบขับขี่ของผู้กระทำผิด
3. จดรายละเอียดของพยานในที่เกิดเหตุ (ถ้ามี)
4. โทรหาบริษัทประกันของคุณ
5. ในกรณีของผลการเคลม คุณต้องติดตามบริษัทประกันของเราเองในภายหลัง

• ในกรณีที่ตัวเราเองผิด

1. โทรหาบริษัทประกันของคุณทันที
2. อย่าลงนามในเอกสารก่อนที่บริษัทประกันของคุณจะมาถึงที่เกิดเหตุ
3. เคลื่อนย้ายรถไปยังที่ที่ไม่กีดขวางการจราจร หลังจากที่ยอมรับความผิด
4. ให้ชื่อและที่อยู่ของคุณแก่คู่กรณี ถ้าอีกฝ่ายขอ

• ในกรณีที่ตัวเราเองบาดเจ็บ หรือ เสียชีวิตครับ

1. ถ้าฝ่ายที่ได้รับบาดเจ็บยังมีสติ และยินยอม และยังไม่มีการเรียกรถพยาบาล คุณสามารถพาผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดได้ แต่ถ้าไม่มีสติแล้ว คุณควรโทรหารถพยาบาลทันทีครับ
2. ติดต่อบริษัทประกันทันที
3. หากเป็นกรณีที่อาจจะมีการฟ้องร้องกันในภายหลัง บริษัทประกันอาจมีนักกฎหมายเป็นตัวแทนคุณในระหว่างการเจรจาได้
4. อย่าเจรจาเรื่องค่าสินไหมทดแทนเอง จนกว่าเจ้าหน้าที่จากบริษัทประกันจะไปถึงที่เกิดเหตุ

• ในกรณีชนเราแล้วหนี

พยายามจำเลขทะเบียนของรถที่ชนแล้วหนีให้ได้ หลังจากนั้นแจ้งตำรวจ และระบุเลขทะเบียนของรถคันนั้น เพื่อใช้ในการฟ้องร้องดำเนินคดีต่อไป นั่นเองครับ

• ในกรณีที่ยานพาหนะโดนยึด

ถ้ารถของเราถูกเจ้าหน้าที่ยึดเอาไว้ก่อน ให้ตำรวจที่รับผิดชอบจดทรัพย์สินที่มีอยู่ในรถคุณเอาไว้ด้วยในรายงาน นะครับ ป้องกันการสูญหายและไม่ตรงไปตรงมาครับ

***สำคัญ นะครับ สำหรับข้อสังเกตของการเคลมประกันต่างๆซึ่งต้องทำตามดังนี้นะครับ***

• ใบเคลมที่ได้รับมา โปรดเก็บไว้ให้ดี ซึ่งดีที่สุดคือเก็บไว้ในรถ
• เมื่อได้กรมธรรม์มา ควรอ่านให้ละเอียดว่าคุณได้รับความคุ้มครองใดบ้าง และทำอย่างไรเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
• เพื่อการให้บริการที่มีประสิทธิภาพ กรุณาทำตามขั้นตอนที่แนบมาในกรมธรรม์อย่างเคร่งครัด

• ในกรณีรถหาย ควรทำอย่างไรดี?

1. แจ้งตำรวจทันที หรือแจ้งศูนย์รับเรื่องรถหาย ที่เบอร์ (02) 245-9059 or 245-6951 โดยแจ้งข้อมูลที่เป็นประโยชน์ทั้งหมด ได้แก่ เลขทะเบียน สี เลขตัวถัง สถานที่ที่รถหาย วันที่รถหาย เป็นต้น
2. แจ้งบริษัทประกันที่คุณทำประกันด้วย และให้เอกสารที่จำเป็นแก่บริษัทประกัน
3. ถ้ามีข้อมูลเพิ่มเติมที่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ รีบแจ้งแก่บริษัทประกันทันที ข้อมูลจะถูกเก็บเป็นความลับครับ

ต้องให้ข้อมูลที่ถูกต้องและรวดเร็วเท่านั้นนะครับ ต้องชัดเจน และ แม่นยำนั่นเอง

      เพื่อนๆควรเตรียมข้อมูลสำคัญ เหล่านี้ไว้ใกล้มือเพื่อนๆ หากจำได้ยิ่งดี เพราะสิ่งเหล่านี้เราจะต้องแจ้งกับบริษัทประกันภัยของเรานั่นเองครับ สำคัญมาก

• ชื่อผู้เอาประกัน เลขที่กรมธรรม์
• เลขใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ รุ่นรถ สีรถ
• ชื่อคนขับขี่
• สาเหตุของอุบัติเหตุ (คร่าวๆ)
• สถานที่เกิดเหตุ พร้อมจุดสังเกตเพื่อให้ตัวแทนจากบริษัทประกันเดินทางไปยังที่เกิดเหตุได้เร็วที่สุด
• จดชื่อตัวแทนจากประกันที่คุณคุยด้วย และเวลาที่คุณโทรติดต่อกับตัวแทนคนนั้น

     ***สำคัญมากเพราะว่า ยิ่งคุณแจ้งรายละเอียดมาก พนักงานก็จะไปถึงเร็ว และสามารถตามเรื่องได้ง่าย ถ้าคุณจำชื่อพนักงานได้ครับ***

ถ้าจะเอารถที่เอาประกันส่งซ่อมควรทำอย่างไรดี?

• บริษัทประกันจะจัดการให้รถคุณส่งซ่อมในอู่ที่อยู่ในเครือของบริษัทประกันครับ
• หากเราต้องการซ่อมอู่นอกเหนือไปจากที่อยู่ในเครือของบริษัทประกัน เพื่อนๆต้องแจ้งให้บริษัทประกันทราบ
• บริษัทประกันอาจทำการเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ หากมองเห็นว่าไม่สามารถซ่อมได้
• ก่อนส่งรถเข้าซ่อม โปรดเช็คทรัพย์สินของเราให้ดีก่อน และจดบันทึกเอาไว้
• ก่อนรับรถหลังซ่อม เช็คและตรวจสภาพว่าพึงพอใจหรือไม่ก่อนลงนามรับรถ หากไม่พอใจในการบริการ แจ้งบริษัทประกันได้ทันทีนะครับ
• เรามีสิทธิ์ในการตรวจเช็คสภาพรถในจุดที่ซ่อมได้ตลอดเวลากับอู่ในเครือของบริษัทประกัน
• ถ้าการซ่อมล่าช้าผิดปกติ สามารถแจ้งบริษัทประกันได้ทันทีครับ มันเป็นสิทธิของเรา
• ถ้าตามหน้ากรมธรรม์ของคุณระบุว่า คุณต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรกเอง ทางบริษัทประกันจะให้อู่ในเครือของประกัน เก็บค่าใช้จ่ายส่วนนั้นจากคุณโดยตรงนะครับ

      ต้องขอขอบคุณข้อมูลจาก www.moneyguru.co.th ด้วยครับ

ตามความจริงแล้วถ้าเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นจริงๆ ถ้าเรามีประกันภัยรถยนต์อยู่แล้ว เพื่อนๆควรมีสติที่สุดนะครับ ไม่ต้องตกใจหรือกังวลใจ ครับทำตามขั้นตอนต่างๆที่พวกเราทีมงานMoneyhub รวบรวมมาให้ในวันนี้นะครับ เพราะการเกิดอุบัติเหตุนั้น ไม่มีสัญญานบอกเราหรอกครับว่า จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ไม่มีใครมาเตือนอยู่แล้ว เพื่อนๆต้องใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาทต้องมีสติทุกครั้งเวลาใช้รถใช้ถนนนะครับ ถึงเรามีประกันชั้น 1 แต่ถ้าเราผิดขั้นรุนแรง ประกันก็ไม่มีอยู่ในเงื่อนไขแน่นอนครับ บางครั้งอาจจะเป็นแค่รถยนต์ที่ต้องเสียหายไป บางครั้งอาจจะต้องเสียชีวิตเพราะความประมาทของเราเอง รวมทั้งของคนอื่นด้วยครับ การทำประกันจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆนะครับสำหรับคนมีรถยนต์นั่นเองครับ

สุดท้ายนี้ถ้าหากเพื่อนๆชื่นชอบบทความของพวกเราหรือต้องการแชร์ให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆก็ กด Like กด Share กันได้ตามสะดวกเลยครับ สำหรับในครั้งหน้านั้นจะเป็นบทความเกี่ยวกับอะไรอีก ต้องติดตามกันต่อไปนะครับ สำหรับวันนี้พวกเราขอตัวลาไปก่อนนะครับ สวัสดีครับ