เดี๋ยวนี้การทำธุรกิจของตัวเองไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพราะการสื่อสารได้เข้าถึงแทบทุกตัวคนการค้าขายไม่จำเป็นต้องมาเปิดหน้าร้าน สต็อกของมากมายเหมือนเมื่อก่อน แค่มีหน้าร้านทางอินเตอร์เน็ตหรือไม่มีเลยก็ยังขายได้ หรือหากชอบธุรกิจที่มีชื่อเสียงอยู่แล้วที่เขาเปิดเป็นแฟรนไชส์ก็สามารถทำได้อีกจึงทำให้การประกอบธุรกิจทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่เกิดขึ้นแทบทุกหัวระแหง และสิ่งหนึ่งที่จะขาดไม่ได้เลยก็คือ เงินลงทุน ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่แบบก้อนโตเหมือนสมัยก่อน แต่มีติดๆไว้สักหลักพันหรือหลักหมื่นก็ทำให้อุ่นใจอยู่เหมือนกัน บ้างก็ต้องการมาเป็นทุนเริ่มต้น บ้างก็ไว้สำหรับขยับขยาย หรือเป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อความคล่องตัวในการบริหารจัดการ เพราะสินค้ายิ่งขายดีก็ยิ่งหมดเร็ว ต้องสั่งมาสำรองไว้เยอะๆ
แต่เรื่องการเงินก็ใช่ว่าจะมีหากันได้ง่ายๆ เนื่องจากการขอสินเชื่อกับสถาบันการเงินก็ต้องมีหลักฐานหรือหลักทรัพย์มาค้ำประกัน แถมยุ่งยากวุ่นวายกว่าจะอนุมัติได้ ดังนั้นง่ายที่สุดแล้วก็คือ การกดเงินออกมาจากบัตรเงินสด รวดเร็วทันใจ ตอบสนองความเร่งด่วนได้ แถมบางที่ยังมีดอกเบี้ยถูกกว่าสินเชื่อส่วนบุคคลอีกด้วย
ข้อดีของการใช้บัตรกดเงินสดมาหมุนเวียนกิจการ
- ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์หรือบุคคลค้ำประกัน วงเงินที่ได้ก็แล้วแต่การพิจารณาประกอบกับรายได้ ซึ่งแต่ละธนาคารหรือสถาบันการเงิน ก็จะให้วงเงินที่แตกต่างกันไปด้วย
- ได้วงเงินสูงสุดถึง 5 เท่าของรายได้ยิ่งกิจการมีรายได้มากๆยิ่งได้ง่ายและวงเงินสูงตามไปด้วย สถาบันการเงินบางแห่งให้ถึง 2 ล้านบาทเลยทีเดียว
- ใช้การคิดดอกเบี้ยเป็นรายวันแบบลดต้นลดดอก ยอดน้อยก็ดอกเบี้ยน้อย ยอดมากก็ดอกเบี้ยสูงตามไปด้วย แถมมีเงินก้อนมาเมื่อไรก็ปิดยอดได้ทันที
- การเบิกเงินขั้นต่ำจะเบิกเท่าไรก็ได้ ไม่มีค่าธรรมเนียมขั้นต่ำใดๆ แต่ก็อย่าเบิกมาใช้มากเกินไปจนทำให้ปัญหาหนี้สินตามมาจนแก้ไม่ถูกนะ
- สามารถคำนวณต้นทุนดอกเบี้ยได้อย่างตรงไปตรงมา ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆแอบแฝง ดีกว่าไปกู้เงินนอกระบบ
- การชำระเงินคืนขั้นต่ำไม่สูงมากแค่ 3 – 5% ของยอดเงินคงค้างต่อเดือน หรือ พูดง่ายๆกู้มา 10,000 ต้องจ่ายคืนต่ำสุดเพียง 360 บาทเท่านั้น
- ง่าย สะดวก รวดเร็ว ไม่ยุ่งยาก ช่วยให้คุณมีความคล่องทางการเงินขึ้นกว่าเดิมเยอะเลยทีเดียว
สิ่งที่ควรระวังในการกดเงินสดจากบัตรกดเงินสดมาหมุนเวียนกิจการ
ถึงแม้ว่าข้อดีของการนำเงินจากบัตรกดเงินสดมาใช้ในการทำธุรกิจจะง่าย ไม่ยุ่งยาก รวดเร็ว หลักทรัพย์ก็ไม่ต้องมีค้ำประกัน แต่อย่าลืมว่าข้อเสียของสินเชื่อประเภทนี้ก็มีเหมือนกันโดยเฉพาะอัตราดอกเบี้ยที่แพงหูฉี่อยู่ที่ 28% ต่อปี ดังนั้นก่อนที่เราจะไปกดเงินสดมาใช้จึงต้องใช้ความรอบคอบและมั่นใจว่าธุรกิจต้องไปได้ เพื่อการใช้บัตรกดเงินสดจะได้มีประโยชน์สูงสุด โดยพิจารณาให้ถี่ถ้วน ดังนี้
- สิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงก็คือ ภาระดอกเบี้ย อย่าคิดแต่เงินเป็นทุนเท่านั้นต้องบอกดอกเบี้ยด้วย แล้วดูต้นทุนทุกอย่างประกอบ จึงค่อยดูความเป็นไปได้ว่ามีกำไรบ้างหรือเปล่า อย่าลืมหักพวกค่าจ้างแรงงาน ค่าขนส่ง ค่าเอกสาร ค่าโทรศัพท์ ค่าน้ำ ค่าไฟ แล้วดูผลลัพธ์ถ้ามันได้น้อยมากหรือขาดทุนก็อาจต้องคิดทบทวนหาแหล่งทุนใหม่
- ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าระยะการคืนเงินของบัตรกดเงินสดมีระยะเวลากี่วัน กี่เดือน แล้วเทียบว่าถึงระยะของการคืนเงินและดอกเบี้ยเราจะมีใช้คืนหรือไม่ กำไรที่ได้มากกว่าอัตราดอกเบี้ยที่เราเสียไปหรือเปล่า เพราะหากถึงครบกำหนดชำระแล้วไม่มีเงิน ก็จะกลายเป็นปัญหาหนี้พอกพูน นอกจากจะไม่ได้กำไรแล้วยังเกิดเป็นหนี้สินระยะยาว เงินสดที่มีก็ต้องกลายมาเป็นการจ่ายดอกเบี้ย หากเป็นอย่างนี้อยู่บ้านเฉยๆยังเครียดน้อยกว่า
- ถ้ากิจการต้องใช้บริการบัตรกดเงินสดบ่อยๆอาจจะไม่ดีแน่ เพราะดอกเบี้ยสูงเกินไป ทางที่ดีลองมองหาแหล่งทุนจากที่อื่นที่ดอกเบี้ยถูกกว่ามาทดแทนบัตรกดเงินสด เพราะจุดประสงค์ของบัตรกดเงินสดเหมาะสำหรับการใช้เงินแบบด่วนๆในระยะสั้น หากนำมาใช้ในระยะยาวก็มีแต่ดอกเบี้ยจะกินจนไม่เหลือกำไรเอาได้
- ในการทำกิจการธุรกิจใดๆอย่าทำธุรกิจที่เกินตัว หากมีทุนน้อยก็ทำเล็กๆที่ไม่ต้องลงทุนมาก หรือแทบไม่มีทุนเลย ค่อยๆเตาะแตะไปก่อน เพราะการกดเงินจากบัตรกดเงินสดออกมายังไงก็คือการยืมเงินคนอื่นมาใช้พร้อมดอกเบี้ย ถ้ามันเกิดล้มเหลวขึ้นมาก็มีแต่เสีย ดังนั้นค่อยๆทำค่อยๆคิดก่อนกดเงินจะดีกว่า
โดยสรุปบัตรกดเงินสดมีข้อดี ใช้ง่าย สะดวก รวดเร็ว และเป็นตัวช่วยได้อย่างดีในภาวะคับขัน ซึ่งหากเราใช้บัตรกดเงินสดอย่างระมัดระวัง พยายามกดใช้ให้น้อยที่สุดเพื่อดอกเบี้ยจะได้ไม่มาก มองสภาพคล่องของกิจการให้ออก บอกได้เลยว่าบัตรกดเงินสดย่อมดีกว่าทางเลือกอื่นๆแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการไปกู้เงินกู้นอกระบบ หรือนำสิ่งของไปจำนำ จำนอง ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ ใช้หนี้บัตรกดเงินสดจนหมด รวยๆรับปีใหม่ค่ะ