บัตรกดเงินสด คือ แหล่งวงเงินฉุกเฉินที่ง่ายที่สุด เพราะสามารถกดกี่ครั้งก็ได้ กดกี่บาทก็ได้ตามวงเงินที่มีโดยไม่เสียค่าธรรมเนียมการกด ดังนั้นหากมีเรื่องฉุกเฉินจำเป็นต้องใช้เงินหรือหมุนเงินไม่ทัน บัตรกดเงินสดก็เป็นคำตอบที่ช่วยได้
ดังนั้นเวลาที่สมัครบัตรเครดิตก็ให้สมัครบัตรกดเงินสดเผื่อไว้ด้วยเพราะถ้าหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินการกดเงินสดออกจากบัตรกดเงินสดก็ประหยัดกว่ากดเงินสดออกจากบัตรเครดิตมาก เพราะการกดเงินจากบัตรเครดิตนั้นต้องเสียค่าธรรมเนียมจากการกดถึง 3% หรือ คิดค่าธรรมเนียมตามสัดส่วนของยอดที่กด และมีการระบุขั้นต่ำที่กด
1.ข้อดีของบัตรกดเงินสด
- เป็นวงเงินเผื่อฉุกเฉิน ไม่เสียดอกเบี้ยหากไม่มีการกดออกมา
- สามารถเบิกเงินสดได้ตลอด 24 ชั่วโมง
- ผ่านเครื่อง ATM ตามเงื่อนไขของบัตร ซึ่งบางธนาคารสามารถแบ่งจ่าย 0 % นานสูงสุดถึง 12 เดือน
- นอกจากนี้ยังสามารถผ่อนชำระค่าสินค้า / บริการกับร้านค้าที่เข้าร่วมรายการด้วยและบางธนาคารสามารถสะสมคะแนน ไม่มีวันหมดอายุอีกด้วย
2.สูตรในการ คำนวณอัตราดอกเบี้ยบัตรกดเงินสด
บัตรเงินสดของแต่ละธนาคารนั้นโดยทั่วไปแล้วจะระบุไว้ว่า อัตราดอกเบี้ยลดต้นลดดอกสูงสุดไม่เกิน 28% ต่อปีเหมือนกันทุกธนาคาร แต่ความจริงอาจเรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยไม่เท่ากัน ซึ่งจะต่างกันบ้างตามกลุ่มวงเงินที่อนุมัติ ตามฐานเงินเดือนของผู้ถือบัตร หรือตามโปรโมชั่น ของแต่ละสถาบันการเงิน เป็นต้น สูตรการ คำนวณอัตราดอกเบี้ยบัตรกดเงินสด จะเป็นดังนี้
ดอกเบี้ย = เงินต้น x อัตราดอกเบี้ย x จำนวนวันจำนวนวันของปี (365 หรือ 366 วัน)
3.การชำระบัตรกดเงินสด
สามารถชำระคืนเต็มจำนวน หรือ ชำระแบบขั้นต่ำ 5% ของยอดการใช้จ่ายทั้งหมด หรือ 500 บาท ก็ได้แล้วแต่ว่ายอดของบัตรไหนจะสูงกว่ากัน แต่อย่างไรก็ตามการจ่ายบัตรทุกครั้งควรจ่ายเต็มจำนวน การจ่ายบัตรกดเงินสดสามารถจ่ายเมื่อไหร่ก็ได้ไม่จำเป็นต้องรอรอบบิล แต่การเช็คยอดอาจจะยากเพราะต้องมีการปรับยอดใหม่ที่รวมดอกเบี้ยแล้วทุกวัน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาหลาย ๆ บัตร และสามารถโอนเงินเข้าบัตรให้มากกว่ายอดหนี้ของได้ เงินส่วนเกินนั้นก็จะโชว์อยู่ในวงเงินและสามารถถอนออกมาใช้ได้ จ่ายเหลือไว้ดีกว่าการจ่ายขาด และอย่าจ่ายขั้นต่ำหลายครั้งติดต่อกันเพราะอาจเป็นการนำไปสู่ปัญหาทางการเงินในที่สุดอันเนื่องมาจากดอกเบี้ยที่เดินทุกวัน จะทำให้ยอดหนี้สูงขึ้นเรื่อยๆ และสุดท้ายผู้ถือบัตรอาจจะหมุนเงินไม่ทัน
4.การเปลี่ยนวงเงินบัตรเครดิตเป็นเงินสดเข้าบัญชี
ปัจจุบันมีหลายธนาคารออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพื่อบริการทางการเงินให้แก่ลูกค้า เช่น การเปลี่ยนวงเงินในบัตรเครดิตให้เป็นสินเชื่อเงินสดโอนเข้าธนาคารโดยอัตโนมัติ ซึ่งโปรโมชั่นหรือบริการเหล่านั้นจะมีดอกเบี้ยที่ถูกลง ดังนั้นก่อนที่จะเลือกสมัครบัตรกดเงินสดก็ควรมองหาทางเลือกหลาย ๆ ช่องทางไว้ก่อน ตัวอย่างเช่น บางธนาคาร ที่มีการโอนเงินสดเข้าบัญชีออมทรัพย์ของลูกค้าทันที เป็นการกันวงเงินบัตรเครดิตของลูกค้า แล้วคิดอัตราดอกเบี้ยแบบแบ่งจ่ายรายเดือนพร้อมดอกเบี้ย ที่สามารถเลือกงวดการผ่อนชำระได้ตั้งแต่ 4 – 10 เดือน อัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารกำหนดก็คือ 11.16% ต่อปี (0.93% ต่อเดือน) ตั้งแต่ 10,000 สูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท ขึ้นอยู่กับวงเงินบัตรเครดิตที่เหลืออยู่ในเวลานั้น ๆ
และยังมีบัตรกดเงินสดจากธนาคารอื่น ๆ อีกมากมายที่มีดอกเบี้ยลดต้นลดดอกอยู่ระหว่าง 0.55 – 0.99% ต่อเดือน หรือ 9.9 – 20%ต่อปี ที่มีระยะเวลาในการผ่อนตั้งแต่ 3 – 36 เดือน เป็นต้น
เมื่อตัดสินใจใช้บัตรกดเงินสดไม่ว่าจะเป็นของธนาคารหรือสถาบันการเงินอะไรก็ตาม ผู้ถือบัตรควรต้องศึกษาการทำงานของบัตร วันปิดยอด วันจ่ายชำระ การคิดคำนวณอัตราดอกเบี้ยของบัตรกดเงินสด ให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ก่อนเพื่อให้สามารถใช้งานของบัตรได้อย่างเต็มประสิทธิภาพสูงสุดโดยไม่เสียค่าธรรมเนียม ค่าดอกเบี้ย และค่าทวงถามโดยใช่เหตุ
เปรียบเทียบบัตรกดเงินสดของแต่ละธนาคาร > คลิก <