สำหรับหลาย ๆ คนที่มีบัตรเครดิต และบัตรกดเงินสดอยู่ในมือ การใช้จ่ายในบางครั้งก็อาจทำให้คุณลังเลได้ว่า จะใช้บัตรใบไหนดี ระหว่างบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสด ถึงแม้ว่าอัตราดอกเบี้ยที่ระบุในสัญญา หรือประกาศของธนาคาร จะมีความชัดเจนว่า บัตรทั้งสองใบนี้มีความแตกต่างกัน แต่ถ้าคำนึงถึงค่าธรรมเนียมต่าง ๆ แล้ว บัตรใบไหนจะคุ้มค่ากว่ากัน วันนี้ เรามาหาคำตอบไปพร้อมกันดีกว่าว่า บัตรกดเงินสด และบัตรเครดิต ใบไหนคุ้มค่ากว่ากัน มาดูกันเลยค่ะ
บัตรเครดิตใช้งานอย่างไร
บัตรเครดิต การให้สินเชื่อที่ไม่มีหลักประกันจากธนาคาร ซึ่งข้อกำหนดต่าง ๆ จะถูกกำหนดโดยธนาคารแห่งประเทศไทย เช่น อัตราดอกเบี้ย เงินเดือนขั้นต่ำ ที่สามารถสมัครใช้ บริการบัตรเครดิตได้ โดยปัจจุบันเงินเดือนขั้นต่ำของผู้มีรายได้ประจำอยู่ที่ 15,000 บาทต่อเดือน เมื่อธนาคารได้ตรวจสอบรายได้และข้อมูลประวัติการใช้สินเชื่อแล้ว ธนาคารจะพิจารณาออกบัตรพร้อมวงเงินสินเชื่อตามที่ทางธนาคาร เห็นสมควร เช่น 50,000 บาท ยอดเงินจำนวนนี้ผู้ใช้บัตรไม่ต้องฝากเงินไว้ก่อนล่วงหน้า และไม่ต้องหาทรัพย์ใด ๆ ไปค้ำประกันวงเงินสินเชื่อ
ดังนั้น อัตราดอกเบี้ยจึงสูงกว่าสินเชื่อที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันทั่วไป เช่น สินเชื่อบ้าน สินเชื่อรถยนต์ โดยอัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตของธนาคารนั้น จะอยู่ที่ประมาณ 20% ต่อปี แต่ข้อดีคือ มีระยะปลอดดอกเบี้ยที่อาจจะสูงสุดถึง 40 – 45 วันแล้วแต่ธนาคาร ผู้ถือบัตรสามารถนำไปรูดซื้อสินค้าได้ทั่วประเทศ และทั่วโลก โดยไม่จำเป็นต้องพกเงินสดติดตัวไปเป็นจำนวนมาก เป็นการสร้างความปลอดภัย ให้มั่นใจทุกการจับจ่ายในทุกที่ทุกเวลา พร้อมรับคะแนนสะสม เพื่อแลกของรางวัลอีกมากมาย
แต่ก็ยังมีอีกข้อที่ควรรู้ นั่นคือ คุณสามารถเบิกเงินสดได้จากตู้ ATM ทั่วประเทศได้เช่นกัน แต่การใช้บริการในลักษณะนี้ คุณจะต้องเสียค่าธรรมเนียมการกดเงินสด 3% ของวงเงินกดในแต่ละครั้งทันที (เบิกขั้นต่ำ 3,000 บาท) รวมทั้ง VAT อีก 7% บนค่าธรรมเนียมกดเงินสดนี้ด้วยนะคะ
บัตรกดเงินสดใช้อย่างไร
บัตรกดเงินสด มีลักษณะการใช้ง่ายที่คล้ายกันกับบัตรเครดิต แต่เพียงการกำหนดอัตราเงินเดือนขั้นต่ำนั้น จะต่ำกว่าบัตรเครดิตมาก เช่น ผู้ให้บริการบัตรกดเงินสดบางรายกำหนดเงินเดือนขั้นต่ำที่ 10,000 บาทเท่านั้น แต่สิ่งที่ตามมาก็คือ อัตราดอกเบี้ยที่รวมค่าธรรมเนียมแล้วจะสูงกว่าบัตรเครดิต นั่นเป็นเพราะบริษัทผู้ให้บริการบัตรกดเงินสด คิดอัตราดอกเบี้ยที่ 15% รวมกับค่าธรรมเนียม 13% รวมแล้วจะมีค่าใช้จ่ายในรูปของดอกเบี้ยรวมสูงสุดถึง 28% ต่อปีเลยทีเดียว แต่ส่วนดีก็มีเช่นกัน นั่นคือ ฟรีค่าธรรมเนียมในการกดเงินสดออกมา จากตู้ ATM ต้องการกดเงินสดจำนวนเท่าไหรก็ได้ (ขั้นต่ำ 100 บาท) ซึ่งมาถึงประเด็นสำคัญที่ว่า แล้วอย่างนี้จะเลือกใช้บัตรใบไหนดี ระหว่างบัตรเครดิต และบัตรกดเงินสด
เปรียบเทียบความคุ้มค่าระหว่างบัตรเครดิต และบัตรกดเงินสด
สิ่งหนึ่งที่ควรรู้ การกดเงินผ่านบัตรเครดิต จะต้องกด 3,000 บาท ขึ้นไป เพราะธนาคารการเงินส่วนใหญ่จะกำหนดให้สามารถกดเงินสดผ่านบัตรได้จะต้องกด 3,000 บาทขึ้นไป แต่สำหรับใครที่มีทั้งบัตรเครดิต และบัตรกดเงินสดต้องการใช้เงินสด 3,000 บาท มาดูกันว่าบัตรใบไหนกดแล้วคุ้มค่ากว่ากัน
สมมติ : ในวันที่ 1 กรกฎาคม คุณต้องการกดเงินสดมาใช้เป็นจำนวน 10,000 บาท และเนื่องจากบัตรทั้งสองชนิดคิดอัตราดอกเบี้ยเป็นรายวัน จากยอดเงินที่กด คุณจึงสามารถเปรียบเทียบภาระหนี้ของบัตรทั้งสองชนิดได้ดังนี้ค่ะ
ตารางเปรียบเทียบภาระหนี้ ของบัตรเครดิต และบัตรกดเงินสด
จากข้อมูลในตารางคุณจะเห็นได้ว่า ถึงแม้ว่าดอกเบี้ยของบัตรเครดิตจะต่ำเพียง 20% ต่อปี แต่เนื่องจากค่าธรรมเนียมในการกดเงินสดจะเกิดขึ้นทันที 3% พร้อมกับ VAT 7% ทำให้ภาระหนี้สินมากกว่าการใช้บัตรกดเงินสดค่ะ คุณลองสังเกตในการชำระงวดสุดท้าย บัตรเครดิต ต้องเสียเงินจำนวน 778.12 ซึ่งเป็นเงินค่าธรรมเนียมในการกด บวกกับดอกเบี้ยทั้งสิ้น ซึ่งจำนวนเงินสูงกว่า บัตรกดเงินถึง 163.37 เลยทีเดียว และยิ่งคุณชำระหนี้เร็วขึ้น คุณก็จะรับภาระดอกเบี้ยในการกดเงินสดจากบัตรกดเงินสดลดน้อยลงเท่านั้น
นอกจากนี้ สำหรับการชำระคืนขั้นต่ำในแต่ละเดือนนั้น บัตรเครดิตจะต้องชำระขั้นต่ำ 10% ของยอดคงค้าง แต่บัตรกดเงินสด สามารถชำระได้เพียง 3 – 5% ของยอดคงค้างในแต่ละเดือนเท่านั้น ดังนั้น หากมองถึงภาระการผ่อนชำระในแต่ละเดือนนั้น บัตรกดเงินสดน่าจะมีตัวเลือกที่ดี สามารถลดภาระการผ่อนต่อเดือนให้น้อยลงได้ ที่สำคัญช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินในระยะสั้นดีกว่าอีกด้วย
ดังนั้น เราขอสรุปง่าย ๆ คือ ถ้าคุณต้องการใช้เงินสด ไม่เกิน 3,000 บาท และสามารถชำระหนี้ได้ภายใน 2 – 3 เดือน แนะนำให้ใช้บัตรกดเงินสดดีกว่า เพราะกดเงินสดผ่านบัตรกดเงินสดจะไม่เสียค่าธรรมเนียม 3% นั่นเอง แต่ถ้าคุณต้องการเงินมากกว่า 3,000 บาท และผ่อนชำระคืนในระยะเวลาเกิน 6 เดือน แนะนำให้ใช้บัตรเครดิตแทน เนื่องจากยิ่งนาน ก็ยิ่งเสียดอกเบี้ยมาก ดังนั้น เลือกใช้บัตรเครดิตที่เสียดอกเบี้ยน้อยกว่า จะช่วยให้เสียดอกเบี้ยที่น้อยกว่า
คราวหน้า ต้องการเงินสดเมื่อไหร่ ควรคิดสักนิดว่า บัตรเครดิตหรือบัตรกดเงินสดเสียอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมน้อยกว่ากัน เพื่อให้ทุกการใช้จ่าย คุ้มค่ามากที่สุดนั่นเองค่ะ
