ยุคนี้ถือว่าเป็นยุคเฟื่องฟูของระบบประกันแบบต่างๆมากมายโดยเฉพาะประกันสุขภาพและประกันอุบัติเหตุซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่คนไทยเนื่องจากคนไทยจำนวนหนึ่งต้องการสร้างความมั่นคงในชีวิตโดยเฉพาะในเรื่องของสุขภาพและอุบัติเหตุการ การทำประกันสุขภาพจึงเป็นเหมือนกับการสร้างความมั่นคงในชีวิตอย่างหนึ่งให้กับตัวเองเพราะเมื่อยามเจ็บป่วยหรือประสบอุบัติเหตุนั้นคุณจะได้รับการคุ้มครองจากประกันที่คุณทำนั่นเองซึ่งในปัจจุบันนั้นมีประกันหลากหลายชนิดรูปแบบความคุ้มครอง ค่าเบี้ยชำระ รวมถึงสวัสดิการและสิทธิพิเศษต่างๆในการรักษาที่แตกต่างกันไป รูปแบบการเคลมการชำระเบี้ยและเงินส่วนต่างชดเชยอื่นๆ วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับประกันสุขภาพในระบบแบบเหมาจ่ายกันว่ามีแบบไหนและเป็นอย่างไรบ้าง
ปกติแล้วประกันสุขภาพนั้นเราสามารถแบ่งแยกได้เป็นสองรูปแบบหลักๆคือประกันสุขภาพแบบแยกค่าใช้จ่ายและการประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายโดยประกันสุขภาพแบบแยกค่าใช้จ่ายนั้นจะมีวงเงินคุ้มครองค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่ย่าเป็นรายการต่างๆได้แก่
- ค่าห้อง ค่าอาหาร และบริการทางการแพทย์ สูงสุด xx วันต่อครั้งต่อโรค
- ค่าห้อง ไอ ซี ยู และบริการทางการแพทย์ สูงสุด xx วันต่อครั้งต่อโรค
- ค่ารักษาพยาบาลทั่วไป ได้แก่ ค่ายา ค่าทำแผล ค่าเอ็กซ์เรย์ ค่าตรวจในห้องแลป ค่ากายภาพบำบัด ค่าห้องผ่าตัด การรักษาพยาบาลฉุกเฉินแบบผู้ป่วยนอก การรักษาตัวต่อเนื่องสำหรับอุบัติเหตุนั้นๆ
- ค่าธรรมเนียมทางการแพทย์สำหรับการผ่าตัด (แบ่งเป็น % ตามประเภทการผ่าตัด)
- ค่าแพทย์เยี่ยมไข้ ค่าคำปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะโรค
- ค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยนอก
- ค่าชดเชยรายวัน ไม่เกิน xx วัน
โดยแต่ละหมวดหมู่กำหนดวงเงินเอาไว้ และถ้าใช้เกินวงเงินที่ระบุในแต่ละเรื่อง ผู้เอาประกันจะต้องจ่ายในส่วนที่เกินเอง แต่ทั้งนี้ก็นับว่าคุ้มค่าพอสมควรเพราะช่วยลดค่าใช้จ่ายไปได้ในระดับหนึ่งนั่นเอง
แต่สำหรับประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายนั้นจะกำหนดแค่เพียงวงเงินค่ารักษาพยาบาลแบบต่อครั้ง โดยไม่กำหนดเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ แบ่งหมวดหมู่คร่าวๆดังนี้ ค่าห้อง ค่าอาหาร การบริการทางการแพทย์แบบไม่จำกัดวัน ค่ารักษาพยาบาล ผู้ป่วยใน จ่ายตามจริงแต่ไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันสูงสุด ค่ารักษาพยาบาล ผู้ป่วยนอก จ่ายตามจริงแต่ไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันสูงสุด ค่าชดเชยรายวัน กรณีเป็นผู้ป่วยใน เนื่องจากการที่ไม่มีการแยกย่อยค่ารักษาพยาบาลจึงมีความยืดหยุ่นมากกว่า และ ดำเนินการเบิกค่าใช้จ่ายต่างๆ ก็ง่ายกว่าด้วย ประกันแบบนี้จึงเป็นที่นิยมกันมากขึ้น แต่ข้อเสียค่าเบี้ยประกันที่จะสูงกว่าปกติ โดยราคาอาจจะแตกต่างจากประกันแบบดั้งเดิมตั้งแต่หลักพัน ไปถึงหลายหมื่น ซึ่งการคุ้มครองก็ขึ้นอยู่กับว่าเงื่อนไขของแต่ละบริษัทประกันแต่ส่วนใหญ่แล้ว การประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายนั้นจะค่อนข้างได้รับความนิยมมากกว่าซื้อประกันสุขภาพส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการจ่ายเบี้ยประกันแบบทิ้งไม่ใช่การจ่ายเบี้ยประกันแบบออม
เราควรทำประกันตอนใด
หลายคนคิดว่าเราควรจะเริ่มทำประกันตอนใดจริงๆแล้วเราควรเริ่มทำประกันตั้งแต่ตอนที่สุขภาพของเรายังคงแข็งแรงดีอยู่เพราะเมื่อป่วยขึ้นมานั้นไม่ว่าจะเป็นโรคใดโรคหนึ่งบริษัทประกันอาจจะยังไม่ทำการรับประเมินประกันหรือให้เข้าใจง่ายว่าไม่รับประกันนั่นเอง ยกตัวอย่างง่ายๆว่าถ้าป่วยเป็นโรคเบาหวานมาก่อนทำประกันนั้นบริษัทก็อาจจะไม่คุ้มครองหากผู้ทำประกันนั้นรักษาตัวด้วยโรคเบาหวานน้ำเป็นเหตุผลที่เราควรจะทำประการตั้งแต่ตอนที่ยังมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงดี เพราะเมื่อเราอายุมากขึ้นโรคภัยไข้เจ็บก็จะตามมาเป็นเงาตามตัวโอกาสที่บริษัทจะรับประกันก็น้อยลงซึ่งประกันสุขภาพนั้นบางกรมธรรม์อาจจะให้เราทำตอนอายุมากๆเช่นที่เคยเห็นในโฆษณาอายุ 80 ปีหรือตลอดชีวิตแต่นั่นก็ต้องมีการทำประกันมาก่อนหน้านั้นหรือเป็นการทำประกันสุขภาพปีต่อปี ดังนั้นการทำประกันตั้งแต่อายุยังน้อยจึงเป็นอีกทางออกหนึ่ง
หลักการเลือกบริษัทประกันสุขภาพ
ปัจจุบันเรามีบริษัทประกันจำนวนมากแต่ละบริษัทก็จะมีแพ็คเกจประการที่แตกต่างกันดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของผู้บริโภคที่จะต้องศึกษาและเลือกบริษัทประกันสุขภาพที่มีความคุ้มครองตรงความต้องการของผู้บริโภคให้มากที่สุด ทั้งในส่วนของการประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายนั้นส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเงินจ่ายเปล่ารายปีไม่ใช่เป็นประกันแบบออมทรัพย์นอกจากนี้ข้อดีของมันคือความคุ้มครองต่อโรคที่เราเป็นการประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายเมื่อเราป่วยเข้าโรงพยาบาลนั้นด้วยโรคใดๆก็ตามจะมีวงเงินความคุ้มครองซึ่ง วงเงินความคุ้มครองตรงนี้เราจำเป็นต้องทำการเปรียบเทียบของแต่ละบริษัทโดยเปรียบเทียบกับเบี้ยประกันที่เราต้องจ่ายเพื่อเลือกอันที่คุ้มค่าที่สุด และทำให้เราสามารถจ่ายได้แบบสบายๆ ที่สุดอีกด้วย
และนี่ก็เป็นข้อมูลเกี่ยวกับประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายซึ่งกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆเนื่องจากเรื่องของสุขภาพนั้นเป็นเรื่องที่มีค่าใช้จ่ายสูงโดยเฉพาะหากต้องการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชน เพียงแค่ความคุ้มครองของระบบประกันสุขภาพของรัฐที่เป็นระบบพื้นฐานอาจจะไม่เพียงพอดังนั้นคนจำนวนหนึ่งจึงนิยมซื้อประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายเพิ่มเพื่อเพิ่มวงเงินในการคุ้มครองให้มากยิ่งขึ้นอีกทั้งยังตอกย้ำความมั่นคงในชีวิตและยังไม่เป็นการสร้างภาระค่าใช้จ่ายให้ตัวเราหรือคนข้างหลังต้องหนักใจเรื่องของค่าใช้จ่ายในการรักษาหลังยามที่เราเจ็บป่วยได้อีกด้วยมาทำประกันเพื่อวางแผนในอนาคตที่ดีของตัวเราเองกันเถอะ