เป็นกระแสข่าวกันมานานพอสมควรเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางไปท่องเที่ยวยังต่างประเทศ บางพฤติกรรมเมื่ออ่านข่าวเจอหรือเห็นภาพที่แชร์กันในโลกโซเชียลมีเดียแล้วก็ต้องมีอึ้ง ทึ่งไปเหมือนกัน นึกในใจไม่คิดว่าจะมีใครกล้าทำพฤติกรรมแบบนี้ในที่สาธารณะ แม้จะพยายามทำความเข้าใจนิสัยของคนจีนมากแค่ไหน แต่บางอย่างก็บอกตรง ๆ ว่ารับไม่ได้จริง ๆ เช่นกัน
ข่าวพฤติกรรมไม่เหมาะสมของนักท่องเที่ยวจีนไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น แต่เกิดขึ้นมานานพอสมควรแล้ว หลายปีที่เราได้ยินข่าวเรื่อย ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ เรียกง่าย ๆ ว่าพี่จีนไปที่ไหนนี่ป่วนที่นั่นจนวุ่นวายเป็นข่าวได้แทบจะทุกครั้งทีเดียว เริ่มจากนิสัยขี้โวยวายเสียงดังของคนจีนที่ไปไหนก็เอะอะล้งเล้งอยู่เป็นประจำ ทำให้นักท่องเที่ยวชาติอื่นที่เดินทางไปในที่เดียวก็ถึงกับหมดอรรถรสการท่องเที่ยวไปเลย หากทริปนั้นต้องเจอกับนักท่องเที่ยวชาวจีนร่วมขบวนไปด้วย
อย่างที่เป็นข่าวไม่นานมานี้ในเมืองไทยของเรา ที่นักท่องเที่ยวชาวจีนจับกลุ่มร้องเพลงชาติจีนดังสนั่นที่อาคารของสนามบินดอนเมือง เนื่องจากไม่พอใจที่ต้องรอเครื่องบินดีเลย์เป็นเวลานานกว่า 10 ชั่วโมง จากเหตุผลเรื่องสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย จนแม้แต่ทางการจีนเองก็ยังต้องออกมาแบล็กลิสต์พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าว หรือกรณีคล้ายกันแต่อันนี้ซีเรียสกว่าเพราะเป็นเรื่องความปลอดภัยและเกิดที่ประเทศจีนเองด้วย เมื่อมีผู้โดยสารชาวจีนไม่พอใจที่เครื่องบินดีเลย์ 7 ชั่วโมง จึงเดินไปเปิดประตูฉุกเฉินของเครื่องบินขณะเครื่องบินกำลังจะบินขึ้น ยิ่งทำให้เครื่องบินต้องยิ่งล่าช้าออกไปอีก
อันที่แทบจะรับไม่ได้ก็ต้องเป็นเรื่องการขับถ่ายที่ไม่น่าเชื่อว่าพี่จีนจะขับถ่ายได้ไม่เลือกที่ จากข่าวที่มีคุณยายชาวจีนพาหลานนั่งขับถ่ายที่หน้าร้านสุดหรู อย่าง Burberry ที่ประเทศอังกฤษ แถมมีภาพข่าวประจานอีก ซึ่งทุกคนก็ไม่เข้าใจเพราะห้องน้ำก็เดินห่างออกไปอีกแค่ไม่กี่เมตรเท่านั้น ทำไมต้องขับถ่ายที่หน้าร้านด้วยหรือมีแม่ชาวจีนที่ให้ลูกชายนั่งอึที่พื้นหน้าห้องน้ำบนเครื่องบินด้วยเหตุผลว่าห้องน้ำเครื่องบินเล็กเกินไป โห นี่รับไม่ได้เหมือนกัน ขนาดมีแอร์โฮสเตสมาเตือนว่าไม่ได้แต่ก็ยังทำ
สำหรับประเทศไทยของเราก็มีให้เห็นเช่นกัน เป็นข่าวเรื่อย ๆ มาโดยตลอด และยิ่งเดี๋ยวนี้ข่าวอะไรก็แชร์กันสนั่นในโลกโซเชียลมีเดีย มีการคอมเม้นท์กันอย่างออกรส เรื่องจึงกระจายไปได้อย่างรวดเร็ว ทั้งเรื่องที่นักท่องเที่ยวไปใช้ห้องน้ำสีทองที่วัดร่องขุ่นอย่างไม่เหมาะสม จนอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ถึงกับต้องออกมาปิดป้ายห้ามนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้าชม หรือเรื่องของการปีนป่ายกำแพงเก่าเมืองเชียงใหม่เพื่อถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ยังไม่เคยมีคนไทยคนไหนทำเลยหรือพฤติกรรมการทานบุฟเฟ่ต์ในโรงเรียนที่คงไม่ต้องอธิบายเชื่อว่าทุกคนคงเห็นในคลิปจานกุ้งกันอยู่แล้ว ปัจจุบันคลิปนี้เรียกได้ว่าเผยแพร่แทบจะไปทั่วโลกแล้ว นอกเหนือจากนั้นก็มีอีกหลายเรื่องทั้งเรื่องการใช้ห้องน้ำ การไม่เข้าแถวต่อคิว สูบบุหรี่ในที่ห้ามสูบ ฯลฯ ก็เรียกได้ว่าเยอะมาก จนหากจะมีข่าวเพิ่มเติมอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็จั่วหัวกันเลยว่า เอาอีกแล้ว…
ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่าที่นักท่องเที่ยวชาวจีนเพิ่มจำนวนมากขึ้นอย่างรวดเร็วไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศใดในโลกก็ตาม เป็นเพราะเศรษฐกิจของจีนที่ดีขึ้นมีการขยายตัวเป็นอย่างมากในช่วงกว่าทศวรรษที่ผ่านมา ทำให้ชาวจีนมีโอกาสขยับฐานะทางเศรษฐกิจขึ้นมาจนถึงขั้นสามารถเปิดตัวเองเพื่อออกมาเดินทางท่องเที่ยวได้มากขึ้นกว่าสมัยก่อน สำหรับประเทศไทยเองก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตที่คนจีนเลือกที่จะมาเช่นกัน คนจีนชอบมาเที่ยวที่กรุงเทพและเชียงใหม่ โดยเฉพาะเชียงใหม่นี่คนจีนชอบเป็นพิเศษ จากกระแสความนิยมในภาพยนตร์เรื่อง Lost in Thailand ที่มีฉากการถ่ายทำที่เชียงใหม่ สถิตินักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยถือเป็นอันดับที่หนึ่ง โดยในปีที่ผ่านมา 2558 เชื่อว่ามีจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนสูงถึงกว่า 8 ล้านคนทีเดียวที่เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย รายได้จากการท่องเที่ยวของชาวจีนก็สูงถึง 371,000 ล้านบาท และจะสูงขึ้นต่อไปอีกในอนาคต
ล่าสุดจากที่กระแสข่าวเรื่องพฤติกรรมไม่เหมาะสมของนักท่องเที่ยวจีนในประเทศไทย และก็ได้มีการแชร์กันไปสนั่นโลกโซเชียลมีเดีย จนถึงกับทำให้นักท่องเที่ยวจีนเองก็ไม่พอใจต้องออกมาบอยคอตไม่มาท่องเที่ยวไทยอีกต่อไป ซึ่งเรื่องนี้ก็เรียกได้ว่ามีผลทันทีเช่นเดียวกัน อย่างที่เชียงใหม่ก็มีข่าวว่านักท่องเที่ยวชาวจีนนั้นลดลงไปมากกว่า 50% เลยทีเดียว ทำให้เป็นห่วงกันในเรื่องอนาคตว่าอาจไม่มีนักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวที่เชียงใหม่อีกแล้ว เพราะชาวจีนก็ถือว่าเป็นประเทศชาตินิยมเช่นกัน และก็เคยมีกรณีที่เกิดกับประเทศฝรั่งเศส ทุกวันนี้แทบไม่มีคนจีนไปท่องเที่ยวที่ฝรั่งเศสกันแล้ว
สำหรับเรื่องนี้หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องต่างก็ออกมาแสดงความกังวลเช่นกัน และก็ได้พยายามช่วยเหลือเพื่อให้สถานการณ์ดีขึ้น ทางฝั่งจีนเองก็มีการออกมาตรการต่าง ๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวชาวจีนที่ออกไปเดินทางต่างประเทศวางตัวอย่างเหมาะสมขึ้น ออกเป็นกฎเหล็ก 9 ข้อห้าม เช่น
- ห้ามสร้างความเสียหายต่อที่สาธารณะ
- ห้ามขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ระหว่างอยู่บนอากาศยานหรือยานพาหนะ
- ห้ามดูหมิ่นวัฒนธรรมท้องถิ่น
- ห้ามทำลายโบราณสถาน โบราณวัตถุ
- ห้ามยุ่งเกี่ยวกับการพนันและยาเสพติด
- ห้ามทำลายระบบนิเวศ
- ห้ามแสดงพฤติกรรมที่เป็นการเสื่อมเสียแก่ชื่อเสียงของประเทศ เช่น ห้ามถ่ายอุจจาระหรือปัสสาวะเรี่ยราดในที่สาธารณะ
กฎเหล็กเหล่านี้ก็ตั้งเนื่องมาจากพฤติกรรมที่เป็นข่าวในอดีตที่ผ่านมาทั้งสิ้น ชาวจีนเองก็คงต้องอยู่ในช่วงปรับตัวเหมือนกับนักท่องเที่ยวอเมริกันหรือญี่ปุ่นที่สมัยที่เพิ่งเปิดประเทศนักท่องเที่ยวเพิ่งได้มีโอกาสท่องโลกกว้างก็มีพฤติกรรมแบบชาวจีนนี้เหมือนกัน ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปก็มีการปรับตัวจนสอดคล้องและมีพฤติกรรมการท่องเที่ยวที่เหมาะสม มีมารยาทและให้ความเคารพแก่สถานที่เหมือนเช่นทุกวันนี้
นอกจากนั้นล่าสุดสื่อจีนก็ได้เผยแพร่คลิปการ์ตูนชุด ได้โปรดเข้าใจคนจีน ผ่านทางเฟซบุ้ค Thai CCTV เพื่อให้ทุกคนเข้าใจถึงวัฒนธรรมของชาวจีนทั้งเรื่องภาษา น้ำเสียงและการกิน ในคลิปยังได้ย้ำถึงเรื่องจีนกับไทยเป็นเหมือนญาติสนิทกัน เมื่อได้รับการถูกต่อว่าก็ต้องมีการน้อยใจบ้างเป็นธรรมดา ขอให้คนไทยทุกคนเข้าใจและอยากให้สานสัมพันธ์ที่ดีกันไว้
ในฐานะเจ้าของบ้านประชาชนชาวไทยก็เปิดใจให้ระดับหนึ่งต้องมีความเข้าใจอย่างแรกเลย ก็คือ ไม่ใช่นักท่องเที่ยวจีนทุกคนที่จะมีพฤติกรรมแบบที่ว่าที่ดี ๆ ก็มีเช่นกัน ดังนั้น เมื่อเหมารวมก็จะทำให้หลายคนเกิดความรู้สึกไม่ดีขึ้นได้ และการท่องเที่ยวต่างประเทศยังถือเป็นเรื่องใหม่สำหรับชาวจีนบางคน เมื่อเดินทางท่องเที่ยวก็มักไปกับครอบครัวที่มีความสนิทชิดเชื้อกัน บางครั้งก็จึงมีการทำตัวแบบสบาย ๆ กันไปบ้าง เรื่องการเคารพกฎระเบียบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าคิว กฎจราจรหรือเรื่องอื่น ๆ คงต้องให้เวลาชาวจีนในการปรับตัว เพราะแม้แต่ที่ประเทศจีนเอง คนก็ไม่เคารพกฎกติกาอะไรมากมายอยู่แล้ว อันนี้เหมือนเป็นปัญหาระดับชาติที่เขาคงต้องไปแก้ไขกันต่อไป นักท่องเที่ยวชาวจีนที่เป็นคนรุ่นใหม่ที่ท่องเที่ยวเองไม่ได้ไปกับทัวร์ คนพวกนี้ไม่ค่อยมีพฤติกรรมอย่างที่ว่าที่มักจะทำโดยคนรุ่นเก่า ๆ ก็ทำให้เชื่อได้เช่นกันว่าชาวจีนเองก็จะมีการปรับตัวในเรื่องนี้โดยไม่ช้าเช่นเดียวกัน