คนที่ใช้บัตรเครดิตเป็นและใช้อย่างเหมาะสมนั้นจะมีประโยชน์มากในเรื่องการอำนวยความสะดวก เพราะบัตรเครดิตถือเป็นการใช้จ่ายเงินสดผ่านบัตรแทนการถือเงินสด อีกทั้งบัตรเครดิตยังช่วยให้ปลอดภัยไม่ต้องพกเงินติดตัวมาก รวมถึงการใช้บัตรเครดิตยังให้ส่วนลด คะแนนสะสม ผ่อนซื้อสินค้า 0% ฯลฯ ที่หากใช้เงินสดจ่ายก็จะไม่ได้สิทธิประโยชน์เหล่านี้
แต่บัตรเครดิตก็เหมือนเป็นดาบสองคม หากเราไม่ระมัดระวังในการใช้จ่ายก็มีโอกาสสูงที่ผู้ถือบัตรจะรูดเพลิน แรก ๆ ก็รูดแล้วจ่ายเต็ม รูดไปรูดมายอดก็เพิ่มขึ้นจนจ่ายไม่ไหว จนกลายเป็นหนี้ก้อนโตเต็มวงเงินบัตรเครดิตไปก็มี แถมบางคนทำบัตรเครดิตไว้หลายใบ พอใบไหนเต็มก็ใช้อีกใบรูด ไป ๆ มา ๆ เต็มวงเงินทุกใบ จ่ายแค่ขั้นต่ำก็ยังไม่ไหว ถึงเวลาแบบนี้บัตรเครดิตก็ได้กลายเป็นปัญหาใหญ่สำหรับเราไป
คนที่มีปัญหามีหนี้บัตรเครดิตก้อนโตมักไม่รู้ว่าจะจัดการกับปัญหาของตัวเองได้อย่างไรดี วันนี้เรามีเรื่องราวดี ๆ มานำเสนอค่ะ เป็นบทความเกี่ยวกับการแชร์ประสบการณ์ของคนที่เป็นหนี้บัตรเครดิตแล้วสามารถจัดการกับหนี้นั้นได้จนปัจจุบันเรียกว่าหมดหนี้หมดสิน ซึ่งวิธีการจัดการกับหนี้บัตรเครดิตของเธอจะเป็นอย่างไรนั้น ตามไปดูกันเลยค่ะ
กระทู้นี้เองค่ะ http://pantip.com/topic/35577317 เจ้าของกระทู้เป็นหญิงสาวเพิ่งเรียนจบมาใหม่ ๆ พอเริ่มต้นทำงานมีเงินเดือนเป็นของตัวเองได้ไม่นาน ก็สมัครบัตรเครดิตไว้โดยตอนแรกคิดว่าจะทำไว้เผื่อกรณีฉุกเฉินเท่านั้น แต่พอมีบัตรเครดิตใช้นานไปก็เพลิน ควบคุมตัวเองไม่ได้ ใช้จ่ายเป็นว่าเล่น แถมพอมีบัตรเครดิต แฟนก็ช่วยกันรูดช่วยกันใช้ แล้วก็ช่วยกันผ่อน ซึ่งขณะที่ยังคบกันอยู่นั้นก็ยังช่วยกันผ่อนจ่าย แต่พอเลิกกับแฟนไป ด้วยความที่บัตรเครดิตเป็นชื่อตัวเอง เจ้าของกระทู้ก็เลยต้องรับภาระผ่อนจ่ายคนเดียวไปแบบเต็ม ๆ
รายละเอียดที่เจ้าของกระทู้เธอให้ไว้ก็คือ เธอมีเงินเดือน 12,000 บาท เป็นหนี้บัตรอิออน 40,000 บาท และ First Choice 18,000 บาท ไม่รวมดอกเบี้ย เจ้าของกระทู้ผ่อนบัตรอิออนอยู่เดือนละ 6 พันบาท และบัตร First Choice 2 พันบาท เท่ากับว่าผ่อนเดือนละ 8 พันบาท เทียบกับเงินเดือน 12,000 บาท แน่นอนว่าย่อมไม่ไหว เธอจึงผิดนัดไม่ได้จ่ายหนี้ไป 2 เดือนเต็ม ทั้งบริษัทที่ทำงานอยู่ยังประสบปัญหาทำให้จ่ายเงินเดือนให้เธอไม่ครบ 12,000 บาทด้วย สุดท้ายเจ้าหน้าที่ของอิออนโทรมาทวงหนี้เธอตัดสินใจรับสายและเล่าเรื่องทุกอย่าง เจ้าหน้าที่อิออนเสนอทางเลือกให้เธอผ่อนน้อยลงจากเดือนละ 6 พันบาท เหลือเดือนละ 1,800 บาท ให้ผ่อน 36 งวด เธอก็ตกลงไปแต่พอมาคิดดอกเบี้ยแล้วปรากฏว่ามันแพงมาก เพราะต้องจ่ายดอกเบี้ยสูงถึงสองหมื่นกว่าบาท
เธอจึงพยายามหามาตรการที่เป็นทางออกให้กับชีวิตโดยที่อยากหลุดพ้นวงโคจรของหนี้บัตรเครดิตหนี้และไม่อยากจ่ายดอกเบี้ยแพงด้วย มาดูมาตรการที่เธอทำกันค่ะ
- หางานใหม่ เพิ่มรายได้ วิธีแรกที่เธอคิดออกก็คือต้องหางานที่ได้เงินเดือนมากกว่าเดิม ซึ่งเธอก็เจาะจงที่จะหางานเป็นพนักงานประจำกินเงินเดือนเหมือนเดิม ครั้นจะหาอะไรทำเป็นของตัวเอง เช่น ขายของ ทุนก็ไม่มี สุดท้ายเธอก็หางานใหม่ทำได้ด้วยเงินเดือน 18,000 บาท
- แจกแจงหนี้สิน ต่อมาเธอก็นำกระดาษแผ่นหนึ่งมาและนั่งเขียนแจกแจงหนี้สินต่าง ๆ ของเธอลงในกระดาษแผ่นนั้น เงินเดือนหักประกันสังคมเหลือ 17,000 บาท จ่ายบัตรเครดิตอิออน 1,800 บาท จ่ายบัตร First Choice 1,000 บาท ให้แม่ 5,000 บาท ค่าโทรศัพท์ 1,200 บาท ค่ารถไปกลับที่ทำงาน 700 บาท ค่าอาหาร 3,000 บาท สรุปจากค่าหนี้ที่ต้องผ่อนคืนและค่าใช้จ่ายต่อเดือนที่เธอแจกแจงออกมา เธอเหลือเงินอยู่ประมาณเดือนละ 4,300 บาท
- เปิดบัญชีเงินฝากแบบไม่ทำ ATM เธอเลือกเปิดบัญชีเงินฝากประจำ 1 เล่ม และบัญชีออมทรัพย์ 1 เล่มเพื่อออมเงินทุกเดือน โดยฝากประจำเดือนละ 1,000 บาท และฝากออมทรัพย์เดือนละ 3,000 บาท
- เปลี่ยนนิสัยสร้างวินัยการใช้จ่าย ต่อมาเธอลด ละ เลิก ไม่เที่ยว ไม่กินของแพง วันหยุดไม่ออกไหน พยายามอยู่บ้าน เพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายให้ได้ตามที่แจกแจงไว้ และมีเงินเหลือเก็บออมตามเป้าหมาย พอครบทุก 3 เดือนบัญชีออมทรัพย์มีเงินครบ 9,000 บาท ก็จะถอนแล้วนำไปจ่ายหนี้บัตรเครดิต โดยนำไปจ่ายหนี้บัตรที่มียอดน้อยก่อนจะได้ปิดไปหนึ่งก็คือบัตร First Choice ตอนโทรไปติดต่อย่างเข้าเดือนที่ 4 First Choice ขอว่าหากจะปิดบัตรก็ให้จ่ายทีเดียว 12,000 บาท พอดีมีเงิน 9,000 บาทบวกเงินเก็บใหม่ของเดือนนี้ได้ครบ 12,000 บาท ปิดไปได้ 1 บัตร
เธอเลือกทำวิธีเดียวกันกับบัตรอิออน แต่อิออนไม่มีนโยบายส่วนลดปิดบัตร เธอก็เลยใช้วิธีพอเก็บเงินครบ 3 เดือนได้ 9,000 บาทก็นำไปจ่ายที เดือนอื่นก็จ่ายตามยอดปกติ ทำแบบนี้ไปประมาณปีกว่า ๆ ก็สามารถปิดบัตรอิออนได้สำเร็จ
สำหรับเหตุผลที่เธอเลือกที่จะเก็บเงินเดือนละ 3 พันให้ครบ 3 เดือนค่อยนำไปโปะหนี้บัตรเครดิตก็เพราะเธอเผื่อไว้กรณีฉุกเฉินด้วย หากมีเรื่องอะไรที่ต้องใช้เงินก็จะได้มีเงินส่วนนี้ไว้ใช้ แต่หากไม่มีเรื่องอะไรพอเงินครบก็นำไปโปะเลย
เจ้าของกระทู้เธอบอกว่าเข็ดกับบัตรเครดิต ตอนนี้หมดหนี้แล้วเก็บเงินได้มากขึ้น อยากได้ของชิ้นไหนก็จะเก็บเงินให้ได้ก่อนแล้วนำเงินสดไปซื้อ และตอนนี้ไม่ว่าจะมีเจ้าหน้าที่คนใดโทรมาให้เธอสมัครบัตรเครดิต เธอก็จะปฏิเสธไปแบบว่าไม่เอาแล้วค่ะ ขอแค่ครั้งเดียวก็เกินพอ