ในปัจจุบัน เพื่อความมั่นคงในระบบเศรษฐกิจ จึงทำให้หลายๆประเทศเลือกที่จะจับมือ พึ่งพาซึ่งกันเพื่อที่จะได้คอยช่วยเหลือในระบบเศรษฐกิจ เพื่อที่จะทำสัญญาข้อตกลงต่างๆเพื่อที่จะให้ประเทศของตัวเองมีความเจริญก้าวหน้ารวมไปถึงมีความมั่นคงในระบบเศรษฐกิจ โดยเราสามารถสังเกตได้จากข่าวในแต่ละประเทศที่มีการรวมตัว มีการจับมือระหว่างประเทศต่างๆ ซึ่งถ้าหากใครที่ยังนึกภาพไม่ออก ก็ลองนึกถึงการเปิดประชาคมอาเซียนหรือ AEC ดูสิ
แน่นอนว่าการเปิด AEC มันจะทำให้กำแพงภาษีของแต่ละประเทศลดต่ำลงอย่างมากและทำให้สินค้าต่างๆที่มีการค้าขายระหว่างภายในประเทศที่เป็นสมาชิก AEC มีราคาที่ถูกกว่าเดิมอย่างมากเลยล่ะ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าการทำข้อตกลง AEC หรือทำข้อตกลงอื่นๆ ก็ไม่อาจจะลดความเลื่อมล้ำของระบบเศรษฐกิจลงได้ ด้วยปัจจัยต่างๆของแต่ละประเทศที่แตกต่างกันไปไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของค่าแรง ในเรื่องของคุณภาพแรงงาน ในเรื่องของทรัพยากร และอื่นๆอีกมากมาย จึงทำให้ยังคงต้องมีการแข็งขันในเรื่องของส่วนนี้เพื่อที่จะดึงดูดเหล่านักลงทุน รวมไปถึงเพื่อที่จะสร้างเม็ดเงินจากสิ่งต่างๆเหล่านี้ให้มากที่สุด และสำหรับไทยในตอนนี้ที่มีกลุ่มประเทศ CLMV ล้อมรอบ ควรจะปรับตัวอย่างไรและจะเกิดอะไรขึ้นกับไทยบ้างนะ
เศรษฐกิจกลุ่มประเทศ CLMV ก็จะประกอบไปด้วย กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ซึ่งประเทศเหล่านี้ก็ล้อมรอบประเทศไทย ถ้าหากว่าเรามองผิวเผินในประเทศเหล่านี้ เราก็อาจจะไม่ค่อยรู้สึกกลัวอะไรสักเท่าไหร่เพราะด้วยเทคโนโลยีต่างๆที่ค่อนข้างด้อยกว่าเรา แต่เมื่อมองดูภาพรวมแล้วกลุ่มประเทศ CLMV กลับเป็นประเทศที่น่ากลัวไม่น้อยเลยล่ะ
โดยมีจุดเด่นในแต่ละด้านที่ดีพอๆกับไทยหรืออาจจะมากกว่าเลยก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของค่าแรง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของทรัพยากร ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของความอ่อนของเม็ดเงิน และที่สำคัญก็คือความขยันของคนภายในประเทศ และด้วยจุดเด่นต่างๆเหล่านี้ ก็ส่งผลกระทบกับไทยในอนาคตได้อย่างมากเลยทีเดียวล่ะ โดยในอีก 5 ปีข้างหน้านี้ EIC ก็ได้ประเมินไว้ว่าคนเวียดนามจะมีศักยภาพที่เพิ่มมากขึ้นและยังเป็นประเทศที่เศรษฐกิจขับเคลื่อนด้วยประสิทธิภาพที่ผ่านการยกระดับด้วยเทคโนโลยีพร้อมทั้งยังเป็นแรงงานที่มีประสทธิภาพ ส่วนประเทศอื่นๆอย่างเมียนมา กัมพูชา และลาว ยังเป็นกลุ่มประเทศที่มีข้อจำกัดในเรื่องของระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานที่ยังต้องมีการพัฒนาอีกเยอะ
แต่เมื่อมองในด้านอุตสาหกรรม ประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งที่มีความโดดเด่นในด้านอุตสาหกรรม เนื่องด้วยศักยภาพของไทยที่มีความเชื่อมโยงไปกับกลุ่มประเทศ CLMV ที่มากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นทั้งในด้านการค้าที่ได้รับประโยชน์จากทางภาษีต่างๆ รวมไปถึงการเข้าถึงแหล่งทรัพยากรทางธรรมชาติ เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างมากเลยล่ะในส่วนนี้ ฉะนั้นแล้วการเลือกที่จะลงทุนอุตสาหกรรมในกลุ่มประเทศ CLMV ก็เป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อยเลย
ซึ่งสำหรับในการปรับตัวนั้นด้วยลักษณะของกลุ่มประเทศ CLMV นั้นเป็นกลุ่มประเทศที่ค่อนข้างมีค่าแรงที่ถูกกว่ามาก โดยเมื่อคิดค่าแรงเป็นดอลลาร์สหรัฐฯต่อเดือนแล้ว
- เราจะพบได้ว่าในประเทศกัมพูชามีค่าแรงอยู่ที่ 140 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อเดือน
- ลาว 111 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อเดือน
- เมียนมา 67 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อเดือน เวียดนาม 107-156 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อเดือน
- ในขณะที่ไทยนั้นจะอยู่ที่ 251 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อเดือน
- อินโดนีเซียจะอยู่ที่ 82-232 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อเดือน ซึ่งเมื่อเราแปลงเป็นค่าเงินบาทไทยแล้ว
เราจะพบได้ว่าค่าแรงของกลุ่มประเทศ CLMV นั้นถูกอย่างมากเลยล่ะ โดยนอกจากในเรื่องของค่าแรงที่ถูกแล้ว ในกลุ่มประเทศ CLMV ยังเป็นกลุ่มประเทศที่ประเทศไทยสามารถเข้าถึงทรัพยากรได้อย่างไม่ยาก ยิ่งเป็นกลุ่มประเทศที่มีทรัพยากรที่มากด้วยแล้ว เรียกได้ว่าไม่ต้องลงทุนนำเข้ามากเท่าไหร่นะ ดังนั้นการเลือกที่จะเข้าไปลงทุนยังประเทศเหล่านี้ จึงถือได้ว่าเป็นโอกาสทองอย่างมากเลยล่ะ หรืออาจจะหาหุ้นส่วน ที่ปรึกษาทางธุรกิจที่เชื่อถือได้ มาช่วยแนะแนวทางทำธุรกิจภายในประเทศต่างๆเหล่านี้เพื่อที่จะสร้างกำไรจากผลประกอบการให้มากที่สุด
โดยเราสามารถเลือกลงทุน 7 ธุรกิจได้ดังนี้
- ธุรกิจการเกษตรและอาหาร
ในช่วงนี้พื้นที่เกษตรของประเทศเพื่อนบ้านของเราเริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ จึงเป็นโอกาสของเราที่จะเข้าไปแสดงความสามารถนะ
- ธุรกิจค้าปลีก
การเปิดเสรีให้แต่ละประเทศมีการซื้อขายที่มากขึ้น นั่นหมายถึงความต้องการบริโภคก็จะมีมากขึ้นเช่นกัน การลงทุนสร้างศูนย์การค้าจึงเป็นโอกาสทองอย่างมากเลย
- ธุรกิจยานยนต์
ด้วยลักษณะโครงสร้างของกลุ่มประเทศ CLMV ที่จำเป็นต้องมีการเดินทาง มีการขนส่งกันมากขึ้น จึงทำให้ธุรกิจยานยนต์เป็นอะไรที่น่าจับตามอง
- ธุรกิจก่อสร้าง
ด้วยลักษณะของสาธารณูปโภคพื้นที่ของกลุ่มประเทศ CLMV ไม่ดีเท่าที่ควร การเลือกลงทุนในลักษณะนี้จะช่วยสร้างกำไรได้อย่างมากเลย
- ธุรกิจการบริการขนส่งและโลจิสติกส์
การลงทุนในธุรกิจการบริการขนส่งและโลจิสติกส์ จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันได้เป็นอย่างดี และยิ่งเรามีระบบโครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้ที่เพียบพร้อมกว่าด้วยแล้ว จึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเรานั
- ธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยว
ด้วยระบบเศรษฐกิจและการเป็นอยู่ของคนภายในประเทศดีขึ้น การท่องเที่ยวเพื่อสร้างเวลาพักผ่อนให้ตัวเองจึงเป็นสิ่งที่พวกเขามักจะนิยมทำกันอยู่เสมอๆ และการที่เราลงทุนธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยว รับรองได้ว่าสร้างกำไรได้มากเลยล่ะ
- ธุรกิจการแพทย์
หากเราสังเกตบ่อยๆ ในโรงพยาบาลต่างๆที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน ก็มักจะมีคนจากประเทศนั้นเข้ามารักษากับเราอยู่บ่อยๆ ซึ่งจะดีกว่าหรือเปล่าล่ะหากเราเลือกที่จะใช้บริการพวกเขาเหล่านั้นถึงที่เลย