ประกันสุขภาพ Co-Payment กับ Deductible ต่างกันยังไง เหมาะกับใคร?
ล่าสุดนี้ วันที่ 20 มีนาคม 2568 เริ่มใช้กรมธรรม์ใหม่แบบ Co-Payment ที่ผู้เอาประกันร่วมจ่ายค่ารักษาพยาบาลด้วยในปีกรมธรรม์หน้า ซึ่งก็ถือเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่สร้างความกังวลไม่น้อย วันนี้เราจะสรุปทุกประเด็นให้ ตั้งแต่ ประกันสุขภาพ Co-Payment คืออะไร แล้วต่างกับแบบ Deductible ยังไง เหมาะกับใคร และใครควรเลือกแบบไหน?
ประกันสุขภาพ Co-Payment คืออะไร?
Co-Payment แปลแบบตรงตัวก็คือการร่วมจ่าย กล่าวคือเป็นการที่ผู้เอาประกันต้องจ่ายเงินส่วนหนึ่งของค่ารักษาพยาบาลเอง ส่วนที่เหลือบริษัทประกันจะเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งจำนวนเงินที่ต้องจ่ายจะขึ้นอยู่กับอัตราส่วนที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์
ยกตัวอย่าง: แผนประกันระบุว่า Co-Payment 20%
หมายความว่าหากค่ารักษาพยาบาลรวมอยู่ที่ 100,000 บาท ผู้เอาประกันต้องจ่าย 20,000 บาท และบริษัทประกันจะจ่าย 80,000 บาท
ข้อดีของ Co-Payment
- เบี้ยประกันถูกกว่าประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย
- ใช้คู่กับสิทธิ์ประกันสังคมหรือสวัสดิการอื่น ๆ ได้
ข้อเสียของ Co-Payment
- มีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมทุกครั้งที่ใช้ประกัน
- ไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการคุ้มครองเต็มจำนวน
ประกันสุขภาพ Deductible คืออะไร?
Deductible (ค่าเสียหายส่วนแรก) คือ เงินที่ผู้เอาประกันต้องจ่ายเองก่อนทุกครั้งที่ใช้สิทธิ์ประกันสุขภาพ จากนั้นบริษัทประกันจะรับผิดชอบส่วนที่เหลือ
ยกตัวอย่าง: แผนประกันกำหนด Deductible 5,000 บาท
หมายความว่า หากค่ารักษาพยาบาลคือ 20,000 บาท ผู้เอาประกันต้องจ่าย 5,000 บาทก่อน และบริษัทประกันจะจ่ายที่เหลือ 15,000 บาท กรณีค่ารักษาไม่ถึง 5,000 บาท ผู้เอาประกันต้องจ่ายเองทั้งหมด
ข้อดีของ Deductible
- ช่วยลดเบี้ยประกันได้มาก
- หากไม่มีการเคลมเลยจะคุ้มค่ามาก
ข้อเสียของ Deductible
- ต้องเตรียมเงินสดไว้จ่ายค่ารักษาส่วนแรกเสมอ
- หากใช้สิทธิ์บ่อยอาจไม่คุ้มค่า
ประกัน Co-Payment vs Deductible ต่างกันยังไง?
คุณสมบัติ | Co-Payment | Deductible |
การจ่ายเงินเอง | จ่ายตามเปอร์เซ็นต์ของค่ารักษา | จ่ายเงินก้อนแรกก่อนเคลม |
ค่าเบี้ยประกัน | ปานกลาง – ค่อนข้างต่ำ | ต่ำ |
เหมาะกับใคร? | ผู้ที่มีค่ารักษาไม่สูงมาก และต้องการลดเบี้ย | ผู้ที่มีเงินสำรองและไม่ค่อยเคลม |
การใช้ร่วมกับสิทธิ์อื่น ๆ | ใช้ได้กับประกันสังคมหรือสวัสดิการ | ใช้ลดภาระค่ารักษาร่วมกับประกันอื่น ๆ |
เลือกประกันสุขภาพแบบไหนดี?
- ถ้าคุณต้องการประกันที่จ่ายน้อยแต่ยังมีส่วนร่วมในการรักษา แบบ Co-Payment จะค่อนข้างตอบโจทย์กว่า
- ถ้าคุณมีเงินสำรองพอจ่ายค่ารักษาส่วนแรกเอง และอยากลดเบี้ยประกัน เลือกแบบ Deductible ก็จะคุ้มกว่า
สำหรับประกันสุขภาพทั้งแบบ Co-Payment และ Deductible ก็เป็นเงื่อนไขร่วมจ่ายที่ช่วยลดค่าเบี้ยประกันสุขภาพเหมือนกัน หากต้องการความคุ้มครองแบบจ่ายน้อยแต่ออกเงินร่วม Co-Payment ก็จะเหมาะกว่า แต่หากเงินสำรอง และอยากลดค่าเบี้ย Deductible เป็นตัวเลือกที่ดีกว่า ซึ่งก็แนะนำว่าก่อนเลือกซื้อประกันสุขภาพ ก็ควรพิจารณาจากการใช้ชีวิต ค่าใช้จ่าย และการวางแผนการเงินของตัวเอง เพื่อให้ได้แผนประกันที่เหมาะสมที่สุดนั่นเอง