ฝ่าวิกฤตชีวิตมนุษย์เงินเดือน ! “เป็นหนี้ มีลูก แถมไม่มีเงินเก็บ”

หากให้พูดถึงอาชีพที่มีความมั่นคงมากที่สุด ทั้งในรูปแบบของการทำงานและสถานะทางการเงิน คงต้องยกให้ทุกอาชีพประจำที่ได้รับเงินเดือน ด้วยอาชีพเหล่ามีความมั่นคงสูงและการันตีได้ว่าคนทำงานจะได้รับเงินอย่างสม่ำเสมอในแต่ละเดือนแน่นอน ซึ่งข้อเสียเดียวของอาชีพเหล่านี้ คือคนทำงานจะไม่สามารถเพิ่มจำนวนเงินหรือรายรับให้มากได้ตามที่ใจต้องการ ที่สำคัญทุกคนที่ทำงานประจำหรือที่หลายคนชอบเรียกว่า “มนุษย์เงินเดือน” ยังจำเป็นต้องวางแผนและบริหารการเงินอย่างรัดกุมมากกว่าอาชีพอื่น ๆ เนื่องจากการได้รับเงินเป็นก้อน มีโอกาสสูงมากที่เงินเดือนจะหมดไปกับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ก่อนถึงสิ้นเดือน ดังนั้นหากมนุษย์เงินเดือนไม่มีการวางแผน จัดการและบริหารเงินอย่างรัดกุมแล้วละก็ งานนี้อาจสร้างความลำบากให้กับตนเองในระยะยาวได้

1.การวางแผนและบริหารการเงิน เรื่องที่มนุษย์เงินเดือนต้องให้ความสำคัญ

การบริหารเงินสำหรับมนุษญ์เงินเดือนถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของการอยู่รอดเลยก็ว่าได้ ด้วยรูปแบบการได้รับเงินเป็นก้อนในครั้งเดียว ส่งผลให้มนุษย์เงินเดือนต้องบริหารจัดการและจัดสรรปันส่วนเงินเดือนให้เพียงพอกับค่าใช้จ่ายทั้งหมดในเดือนนั้น ๆ โดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือนที่กำลังมีลูกน้อย กำลังเป็นหนี้ ไม่มีเงินเก็บและอยู่ในช่วงเศรษฐกิจย่ำแย่ด้วยแล้ว การบริหารการเงินยิ่งมีบทบาทสำคัญมากที่สุด คุณจะอยู่รอดหรือไม่ งานนี้อาจต้องอาศัยสุดยอดเทคนิคและวิธีในการวางแผนและบริหารการเงินเพื่อรับมือกับสถานการณ์ข้างต้นโดยเฉพาะ ดังนั้น การวางแผนและบริหารการเงินจึงเป็นเรื่องที่มนุษย์เงินเดือนทุกคนต้องให้ความสำคัญเป็นลำดับแรก ต้องลงมือปฏิบัติอย่างจริงจังและไม่ละเลยการปรับเปลี่ยนแผนการเงินระยะสั้นเมื่อพบว่าสถานการณ์ทางการเงินได้เปลี่ยนแปลงไป เพื่อให้การบริหารจัดการการเงินในแต่ละช่วงชีวิตไม่ติดขัดหรือติดขัดน้อยที่สุดนั่นเอง

2.เทคนิคน่ารู้ วางแผนและบริหารการเงินเมื่อคุณเป็นมนุษย์เงินเดือน

อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า มนุษย์เงินเดือนทุกคนมีรูปแบบเกี่ยวกับการเงินที่แน่นอนกว่าอาชีพอื่น ๆ แต่นั่นก็นำมาซึ่งการวางแผนการเงินที่ต้องแยบคายและมีระเบียบแบบแผนกว่าด้วย เพราะเราต้องไม่ลืมว่าในช่วงระยะเวลา 1 เดือนหลังจากได้รับเงินเดือนแล้ว เราจะไม่ได้รับเงินพิเศษใด ๆ อีกเลย หากเราไม่เลือกทำอาชีพเสริมควบคู่ไปด้วย โดยในส่วนของการวางแผนและบริหารการเงินของมนุษย์เงินเดือนนั้น ไม่ยากอย่างที่หลายคนเข้าใจ ขอเพียงแค่คุณมีวินัยทางการเงินที่ดี มีความสม่ำเสมอและลงมือปฏิบัติอย่างจริงจังเท่านั้น แผนการเงินของมนุษย์เงินเดือนอย่างคุณก็เป็นเรื่องง่าย ๆ ในการปฏิบัติและทำให้สำเร็จตามเป้าหมายแล้ว

เคล็ดไม่ลับวางแผนการเงินฉบับมนุษย์เงินเดือน

เพราะเป็นมนุษย์เงินเดือน แผนการเงินจึงต้องมีความชัดเจนและเป็นระบบ ซึ่งหากตอนนี้ใครกำลังเป็นมนุษย์เงินเดือนอยู่ละก็ ต่อไปนี้คือสุดยอดแผนการเงินสำหรับมนุษย์เงินเดือนทุกคน ที่ช่วยให้มนุษย์เงินเดือนอยู่รอดในทุกสถานการณ์และทุกช่วงเวลาของชีวิต

1.วางแผนการเงินให้ครอบคลุมทุกช่วงเวลาของชีวิตตั้งแต่เริ่มต้นทำงาน มีครอบครัว มีลูก ไปจนกระทั่งถึงวัยเกษียณ พร้อมทั้งกำหนดเป้าหมายเกี่ยวกับการเงินทั้งในแผนระยะสั้น ระยะกลางและแผนระยะยาว

2.สร้างแผนการเงินตามเป้าหมายที่กำหนดไว้และบริหารการเงินด้วยการจัดสรรรายรับกับรายจ่ายให้สมดุลกัน เพียงพอ มีเหลือสำหรับเงินออมและการลงทุน

3.ควบคุมรายจ่ายที่เกิดขึ้น ทั้งรายจ่ายประจำ อย่าง ค่าน้ำค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ฯลฯและรายจ่ายผันแปร อย่างเช่น ค่าเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า

4.วางแผนเสียภาษีด้วยการคำนวณรายรับ เพื่อให้เราทราบว่าสามารถใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีอะไรได้บ้าง และสามารถลดหย่อนได้มากแค่ไหน

5.สร้างรายได้ที่มากกว่าด้วยงานพิเศษและงานอดิเรกที่ชื่นชอบ

6.ลงทุนสร้างความมั่งคั่งเพื่อลดความเสี่ยงทางการเงินและเตรียมพร้อมสำหรับวัยเกษียณ

ทั้งหมดนี้คือแผนการเงินฉบับมนุษย์เงินเดือนที่ใครก็สามารถลงมือปฏิบัติได้ง่าย ๆ รวมทั้งตัวคุณเอง ซึ่งสิ่งเดียวที่จะทำให้แผนการเงินของมนุษย์เงินไม่ประสบความสำเร็จตามที่วางแผนและตั้งเป้าหมายไว้ คือการขาดวินัยในการลงมือทำอย่างจริงจัง และนั้นนำมาซึ่งปัญหาทางการเงินที่สร้างความวุ่นวายจนทำให้ชีวิตของมนุษย์เงินเดือนบางคนไม่มีความสุขไปทั้งชีวิต แล้วคุณล่ะ อยากเป็นมนุษย์เงินเดือนแบบไหน

3.วางแผนและบริหารการเงินอย่างไร เมื่อคุณมีครอบครัวและมีลูกน้อย

เมื่อมนุษย์เงินเดือนพร้อมมีครอบครัวและลูกน้อย ในช่วงเวลานี้แผนการเงินที่เคยวางไว้อาจต้องปรับเปลี่ยนในบางส่วน ซึ่งนั่นก็เป็นส่วนหนึ่งในแผนการเงินที่คุณได้วางเอาไว้แล้วตั้งแต่เริ่มต้นเป็นมนุษย์เงินเดือน โดยในส่วนที่ต้องปรับเปลี่ยนนั้น คือเรื่องของการเงินสำหรับครอบครัว เพราะเมื่อคุณเริ่มต้นใช้ชีวิตคู่ การเงินของคุณก็ต้องแชร์กับคู่ชีวิตของคุณด้วย ซึ่งการวางแผนการเงินที่ดีสำหรับชีวิตคู่ควรเริ่มต้นวางแผนในทันทีเมื่อคู่รักตกลงใจว่าจะใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน ต้องช่วยกันวางแผนการเงินเพื่อสร้างอนาคตที่มั่นคงให้ครอบครัว วางแผนออมเงินเพื่อการแต่งงานที่ไม่ก่อหนี้ยืมสิน เรียนรู้หลักการบริหารการเงินเมื่อต้องเป็นพ่อแม่และมีลูก รวมทั้งต้องวางแผนการเลี้ยงดูและจัดสรรเงินออมเพื่ออนาคตที่ดีของลูก ๆ อีกด้วย

โดยในส่วนของการวางแผนการเงินสำหรับคู่ชีวิตเพื่อเริ่มต้นชีวิตครอบครัวอย่างเป็นสุขและอบอุ่นมั่นคงนั้น สามารถทำได้ ดังนี้

1.วางแผนออมเงินเพื่อการแต่งงานอันแสนหวานโดยไม่เริ่มต้นด้วยการเป็นหนี้  มีการกำหนดวันแต่งงาน สำรวจค่าใช้จ่ายทั้งหมด จากนั้นเดินหน้าเก็บเงินเพื่อการแต่งงานอย่างตั้งใจและทำให้ได้ตามแผนที่วางไว้

2.วางแผนรวมเงินสองกระเป๋าให้เป็นกระเป๋าเดียว เนื่องจากการแต่งงานคือจุดเริ่มต้นของชีวิตคู่ที่รวมคนสองคนเป็นหนึ่งเดียว ดังนั้น การวางแผนการเงินก็เช่นเดียวกัน หากต้องการสร้างอนาคตที่อบอุ่นร่วมกันในทุกเรื่อง คู่รักต้องเปิดใจและช่วยกันวางแผนการเงินของครอบครัว

3.กำหนดบัญชีกลางของครอบครัว ด้วยการจัดทำประมาณการรายรับและรายจ่ายทั้งหมดของครอบครัวในแต่ละเดือนว่ามีอะไรบ้าง และอะไรที่เป็นค่าใช้จ่ายส่วนกลาง อย่างเช่น ค่าน้ำค่าไฟ ค่าอาหาร ค่าผ่อนรถผ่อนบ้าน และค่าใช้จ่ายจิปาถะ เมื่อทราบจำนวนที่แน่นอนแล้ว ให้กำหนดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้อย่างลงตัว เพื่อให้เหลือเงินสำหรับจัดสรรและบริหารในส่วนอื่น ๆ

4.กำหนดบัญชีเงินออมและเงินสำรองฉุกเฉิน ด้วยการจัดสรรเงินเพื่อเป็นหลักประกันของครอบครัวโดยจัดสรรให้ครอบคลุมอย่างน้อย 3 – 6 เดือน เพื่อเป็นหลักประกันในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน ตกงาน เจ็บป่วย ฯลฯ และเหตุการณ์ไม่คาดฝันต่าง ๆ

5.จัดทำบัญชีเพื่อการลงทุนสร้างความมั่งคั่งและอิสระทางการเงินให้กับครอบครัว โดยในส่วนนี้ให้จัดสรรเงินจากรายรับประมาณ 10% ของเงินเดือนทั้ง 2 คนรวมกัน มาต่อยอดสร้างความมั่งคั่งให้กับครอบครัวด้วยการลงทุนรูปแบบต่าง ๆ

6.จัดทำบัญชีเพื่อลูกน้อย ด้วยการคำนวณค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ของลูกทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นค่าอาหาร ค่าเลี้ยงดู รวมไปถึงค่าเครื่องใช้ ของเล่นและค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการศึกษาจนกระทั่งถึงระดับการศึกษาสูงสุดที่พ่อแม่ตั้งเป้าหมายเอาไว้ ซึ่งการวางแผนการเงินสำหรับลูกรักนั้น ควรวางแผนควบคู่ไปกับการวางแผนลงทุนเพื่อสร้างผลกำไร เพราะมีการลงทุนหลายรูปแบบทีเดียวที่ให้ผลกำไรที่สูงมากพอจะเป็นค่าการศึกษาในระดับปริญญาตรีของลูกรักได้ ดังนั้นในส่วนนี้คุณพ่อคุณแม่ต้องให้ความสำคัญและใส่ใจศึกษารายละเอียดในการลงทุนเพื่อสร้างอนาคตให้กับลูกน้อยอย่างจริงจัง

7.จัดทำบัญชีเพื่อจัดสรรค่าใช้จ่ายส่วนตัว เพราะถึงแม้ว่าคนทั้ง 2 จะใช้ชีวิตร่วมกัน แต่แน่นอนว่าแต่ละคนก็ยังมีไลฟ์สไตล์ ความชื่นชอบและความฝันที่แตกต่างกัน รวมไปถึงการการสังสรรค์กับเพื่อนฝูงที่คู่ชีวิตต้องเปิดโอกาส ดังนั้น การเงินในส่วนนี้ต้องให้ความสำคัญและจัดสรรอย่างน้อย 10 – 15 % ของเงินเดือนรวม โดยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่เข้าไปก้าวก่ายการเงินในส่วนนี้ของอีกฝ่าย

แม้จะมีหลายอย่างที่ต้องจัดสรรและวางแผนอย่างรอบคอบ แต่ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่คู่ชีวิตต้องให้ความสำคัญ เพราะเมื่อวางแผนการเงินของครอบครัวอย่างลงตัวแล้ว ที่เหลือคือการปฏิบัติตามแผนจะเป็นเรื่องที่ง่ายมากขึ้น ช่วยให้การเงินของครอบครัวราบรื่น ไร้ปัญหา อนาคตของลูก ๆ ก็เป็นไปตามแผนที่วางไว้ ชีวิตครอบครัวจึงมีแต่ความสุขสมดังตั้งใจ

4.วิธีการวางแผนและบริหารการเงินเมื่อคุณกำลังเป็นหนี้

สำหรับการวางแผนและบริหารการเงินเมื่อมนุษย์เงินเดือนเป็นหนี้นั้น ถือว่าเป็นการวางแผนการเงินระยะสั้นที่ต้องกำหนดขึ้นเพื่อจัดการและบริหารการเงินเพียงช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น เพื่อให้การจัดสรรรายรับ รายจ่าย เงินออมและหนี้ ลงตัวที่สุด โดยไม่กระทบกับแผนการเงินที่ได้วางเอาไว้แล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งแผนการเงินที่ดีที่สุดในช่วงที่คุณกำลังเป็นหนี้นั้น คุณจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้จ่ายของตัวเองเสียใหม่ ด้วยการหยุดใช้จ่ายในเรื่องที่ไม่จำเป็นและฟุ่มเฟือยทุกรูปแบบ พร้อมทั้งไม่สร้างหนี้สินเพิ่มซ้ำซ้อนและมองหาโอกาสชำระหนี้ให้ลดลงโดยเร็วที่สุด ซึ่งรายได้พิเศษที่จะนำมาชำระหนี้ให้หมดเร็วขึ้นนั้น อาจเกิดจากการทำงานพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นงานฝีมือ งานพาร์ทไทม์ ฯลฯ รวมไปถึงผลกำไรจากการลงทุน ที่สามารถสร้างรายได้ให้เกิดขึ้น โดยเฉพาะใครที่กำลังเป็นหนี้บัตรเครดิตด้วยแล้ว สมควรอย่างยิ่งที่จะชำระให้หมดโดยเร็ว เพราะดอกเบี้ยจากบัตรเครดิตนั้น ถือว่าแพงกว่าเงินกู้รูปแบบอื่น ๆ 2-3 เท่าตัวเลยทีเดียว

ดังนั้น หากใครกำลังเป็นหนี้อยู่ ต่อไปนี้คือวิธีการวางแผนและบริหารการเงินเมื่อคุณกำลังเป็นหนี้

1.จัดสรรรายรับ รายจ่ายและหนี้ให้สมดุลกัน ด้วยการจัดทำบัญชีรายรับและรายจ่าย เพื่อคำนวณเงินคงเหลือ พร้อมทั้งมองหาอาชีพเสริมเพื่อสร้างรายได้ให้มากขึ้น

2.งดรายจ่ายฟุ่มเฟือย ไม่จำเป็นและไม่มีประโยชน์ทุกรูปแบบ

3.เลือกชำระหนี้มีที่ดอกเบี้ยแพงและสูงก่อนเพื่อตัดภาระค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนลง

4.ทยอยใช้หนี้ให้เหลือน้อยที่สุดและไม่สร้างหนี้สินให้เพิ่มพูนหรือซ้ำซ้อนในขณะที่กำลังเป็นหนี้

5.หากเป็นหนี้กับทางธนาคาร ควรเจรจาเพื่อขอประนอมหนี้หรือรีไฟแนนซ์ เพื่อรวมหนี้ทั้งหมดเอาไว้ที่เดียว

6.ตั้งใจชำระหนี้ให้ตรงเวลาและชำระให้หมดโดยเร็วที่สุด

6 วิธีข้างต้นที่กล่าวมานี้ เป็นวิธีการง่าย ๆ ในการวางแผนและบริหารการเงินเมื่อคุณกำลังเป็นหนี้ ให้มนุษย์เงินเดือนสามารถวางแผนการเงินและจัดสรรเงินรายรับให้ลงตัวที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ พร้อมทั้งสามารถชำระหนี้ให้หมดได้โดยเร็ว เพราะฉะนั้นมนุษย์เงินเดือนทุกคนที่กำลังมีหนี้สินพอกพูนอย่าพลาดเทคนิคและวิธีการในการวางแผนการเงินเมื่อเป็นหนี้ที่เรานำมาฝากนี้ หนี้สินที่มีจะได้มีวิธีการจัดการอย่างเป็นระบบและหนี้สินลดลงเรื่อย ๆ จนหมดหนี้ในที่สุด

5.เคล็ดไม่ลับวางแผนและบริหารการเงินเมื่อคุณไม่มีเงินเก็บ

ในส่วนของ “เงินเก็บ”นั้น หลายคนยังมีความคิดเห็นว่าขอแค่มีเงินใช้อย่างพอเพียงในแต่ละเดือน เท่านี้ก็น่าจะเพียงพอแล้ว เพราะเราคงปฏิเสธไม่ได้ว่า “เงินเก็บ” คือเงินส่วนสุดท้ายที่หลายคนจัดสรร หลังจากจัดการกับรายจ่ายประจำต่าง ๆ แล้ว หากมีเงินเหลือ นั่นแหละคือเงินเก็บ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว เงินเก็บควรเป็นส่วนหนึ่งของแผนการเงินที่มนุษย์เงินเดือนกำหนดขึ้น ไม่ว่าเงินเก็บนี้จะถูกจัดสรรเอาไว้กี่เปอร์เซ็นต์ก็ตาม เพราะเงินเก็บนี้ก็คือเงินออม ซึ่งอาจมีความจำเป็นในยามฉุกเฉิน ช่วยสร้างฐานการเงินของมนุษย์เงินเดือนให้มั่นคงและเป็นเงินต้นสำหรับการสร้างความมั่งคั่งทางการเงินได้ แล้วอย่างนี้จะทำอย่างไรหากมนุษย์เงินเดือนไม่มีเงินเก็บแล้ว ทั้ง ๆ ที่บางคนมีเงินเดือนสูงมาก แต่กลับพบว่าแทบไม่มีเงินเก็บเลย

วิธีวางแผนและบริหารการเงินเมื่อคุณไม่มีเงินเก็บ

1.ปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้จ่ายเงินใหม่ทั้งหมด ด้วยการจัดสรรรายรับและรายจ่ายอย่างสมดุล

2.จัดสรรเงินไว้บางส่วนเพื่อการออม เป็นเงินเก็บ เงินฉุกเฉินและเงินสำหรับการลงทุน

3.งดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นหากพบว่าเงินเดือนมีไม่เพียงพอที่จะซื้อในสิ่งที่ต้องการ พร้อมทั้งไม่นำเงินในส่วนของเงินออมาซื้อหรือใช้จ่ายโดยไม่จำเป็นอีกด้วย

4.ลงทุนเพื่อเพิ่มมูลค่าเงินออมที่มี

ทั้ง 4 ข้อนี้คือเคล็ดไม่ลับในการวางแผนและบริหารการเงินเมื่อมนุษย์เงินเดือนไม่มีเงินเก็บ ซึ่งเป็นวิธีการง่าย ๆ ที่ทุกคนสามารถทำได้ตั้งแต่วันนี้

6.สุดยอดเทคนิควางแผนและบริหารการเงินเมื่อเศรษฐกิจย่ำแย่

การวางแผนและบริหารการเงินสุดท้ายที่เราจำเป็นต้องคำนึงถึงเสมอ คือเมื่อเศรษฐกิจย่ำแย่หรือมนุษย์เงินเดือนตกงาน แม้ว่าเหตุการณ์เหล่านี้อาจไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก แต่ก็ไม่ควรมองข้ามและควรวางแผนเอาไว้อย่างรอบคอบเสมอ

ซึ่งหากมนุษย์เงินเดือนคนไหนกำลังตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้แล้วล่ะก็ สุดยอดเทคนิคและวิธีการจัดการเมื่อเศรษฐกิจย่ำแย่ ได้แก่

1.ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นทั้งหมด โดยในกรณีมนุษย์เงินเดือนตกงาน ควรจัดสรรรายได้ที่เหลืออยู่ให้เพียงพอสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในระหว่างตกงานด้วย

2.ใช่จ่ายตามแผนการเงินที่วางไว้อย่างเคร่งครัด

3.มองหาโอกาสสร้างรายได้เพิ่มจากงานอดิเรก งานฝีมือและงานพิเศษต่าง ๆ เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงิน

4.ใช้จ่ายเงินอย่างประหยัด

ต้องถือว่าวิธีการข้างต้นที่กล่าวมานี้ในความเป็นจริงแล้วก็เป็นส่วนหนึ่งของแผนการเงินพื้นฐานอยู่แล้วเพียงแต่รูปแบบและวิธีการปฏิบัติอาจจำเป็นต้องจริงจังและปฏิบัติอย่างเคร่งครัดมากกว่าแผนปกติ เพื่อปรับสถานการณ์ทางการเงินให้มนุษย์เงินเดือนยังคงสามารถอยู่ได้ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่ที่สุดทางการเงินนั่นเอง

เป็นอย่างไรบ้างกับเทคนิค วิธีการและสารพัดเคล็ดไม่ลับในการวางแผนและบริหารการเงินในสถานการณ์ต่าง ๆ ตั้งแต่เริ่มต้นเป็นมนุษย์เงินเดือน มีลูกน้อย เป็นหนี้ ไม่มีเงินเก็บและเศรษฐกิจย่ำแย่ ซึ่งอย่างที่บอกไปแล้วว่า แต่ละวิธีการในการบริหารจัดการการเงินนั้น มนุษย์เงินเดือนทุกคนสามารถปฏิบัติได้ด้วยตัวเอง ขอเพียงให้ความสำคัญ ไม่มองข้ามและลงมือปฏิบัติอย่างจริงจังและตั้งใจเท่านั้น เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่ามนุษย์เงินเดือนทุกคนต้องสามารถผ่านพ้นทุกช่วงเวลาสำคัญในชีวิตไปได้อย่างสบาย ๆ การเงินไม่ติดขัดและไม่พบปัญหาทางการเงินที่ส่งผลให้ชีวิตไม่มีความสุขอย่างที่มนุษย์เงินเดือนบางคนกำลังเผชิญ เพราะไม่รู้จักการวางแผนและบริหารการเงินในช่วงเวลาต่าง ๆ อย่างรอบคอบนั่นเอง