วางแผนการเงินผ่อนคอนโด ฉบับมนุษย์เงินเดือน

ความฝันของใครหลายคน เราเชื่อว่า สิ่งหนึ่ง ต้องเกี่ยวกับการสร้างความมั่นคงเพื่ออยู่อาศัยอย่างแน่นอนไม่ว่าจะเป็นที่ดิน บ้าน หรือคอนโด ก็ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องมีการวางแผนที่ดี สำหรับวันนี้ เรามีวิธีการ “วางแผนผ่อนคอนโดฯ แบบสบาย ๆ” มาแนะนำค่ะ วิธีการวางแผนจะเป็นอย่างไรนั้น มาดูพร้อมกันเลย

อ่านเพิ่มเติม : คนรุ่นใหม่ เลือกอะไร ระหว่างบ้านกับคอนโด

• เช็คความพร้อมทางการเงินของตนเอง

การเช็คความพร้อมทางการเงิน สามารถทำได้ง่าย ๆ เริ่มด้วยการดูรายได้ที่รับต่อเดือน นำรายได้มาคูณ 50 เท่า จะออกมาเป็นราคาคอนโดฯ ที่คุณสามารถผ่อนซื้อได้ อย่างเช่น คุณมีรายได้ต่อเดือน 15,000 บาท ต้องการซื้อคอนโดฯ ควรมีราคาไม่เกิน 700,000 – 800,000 บาท หากมีรายได้ต่อเดือน 20,000 บาท คุณก็สามารถซื้อคอนโดฯ ได้ในราคา ไม่เกิน 1,000,000 บาท เป็นต้น

นอกจากการคำนวณความสามารถในการผ่อนต่อเดือนแล้ว บางท่านอาจจะมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ด้วย อย่างเช่น บัตรเครดิต ค่างวดผ่อนรถ ฯลฯ ซึ่งการซื้อผ่อนคอนโดฯ ต่องวดจะต้องอยู่ประมาณ 1 ใน 3 ของรายได้แต่ละเดือน อย่างเช่น ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท ระยะเวลาผ่อน 30 ปี คุณต้องผ่อนเดือนละ 6,000 – 7,000 บาท แต่หากราคาคอนโดฯ อยู่ที่ 2 ล้านบาท คุณต้องผ่อนเดือนละ 12,000 – 14,000 บาท และราคาคอนโดฯ อยู่ที่ 3 ล้านบาท คุณต้องผ่อนเดือนละ 18,000 – 21,000 บาท เป็นต้น

• ออมเงินไว้สำหรับ “วางเงินดาวน์”

เงินดาวน์  ส่วนมากการซื้อคอนโดฯ จำเป็นต้องวางเงินดาวน์ อย่างน้อยประมาณ 10 – 15% ของราคาบ้าน หรือเท่ากับ คุณต้องเตรียมออมเงินไว้ ประมาณ 10 – 15% หรือมากกว่านั้นก็ยิ่งดี เนื่องจากทางธนาคารส่วนมาก จะปล่อยวงเงินกู้ให้ไม่เต็ม 100%แต่จะให้เพียง 80 – 90% ของราคาบ้านเท่านั้น ดังนั้น การวางเงินดาวน์จึงเป็นเรื่องที่คุณต้องให้ความสำคัญ และวางแผนการออมเงินดาวน์ก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นจึงค่อยมาคำนวณเงินผ่อนชำระต่อเดือน

ทั้งนี้ การวางเงินดาวน์ ยิ่งวางมากก็ยิ่งดี เพราะสามารถช่วยลดภาระการจ่ายค่างวดได้ หากคุณไม่มีเงินในการวางดาวน์เลย ในอนาคตคุณอาจจะต้องรับภาระการผ่อนชำระต่องวดสูงมาก ซึ่งประมาณ 1 – 3 ปีแรก การคำนวณค่างวดต่อเดือนนั้น ส่วนมากจะคิดอัตราดอกเบี้ย 70 – 80% ส่วนเงินต้นที่คุณชำระไปเพียง 20 – 30% เท่านั้น กว่าจะเริ่มผ่อนชำระแบบสบายตัวขึ้น ก็ประมาณ ปีที่ 4 – ปีที่ 5 เป็นต้นไป

• ลดระยะเวลาผ่อนคอนโดฯ ต่องวด

ในขั้นนี้ เหมาะสำหรับผู้ที่มีโอกาสซื้อคอนโดฯ ตอนอายุ 30 ปีขึ้นไป หากระยะเวลาการผ่อนคอนโดฯอยู่ที่ 30 ปีอีก กว่าคุณจะได้มีคอนโดฯ เป็นของตัวเองจริง ๆ ก็อายุเข้าไป 60 – 70 ปีแล้ว ดังนั้น ความลดระยะเวลาการผ่อนชำระให้น้อยลง โดยใช้เทคนิคง่าย ๆ ก็คือการนำเงินก้อนมาโปะ ค่างวดเรื่อย ๆ เพื่อให้เงินต้นลดลงเร็ว ๆ จะทำให้ภาระดอกเบี้ยแต่ละเดือนลดลงตามไปด้วย

หากใครมีความสามารถหาเงินก้อนมาโปะได้อย่างต่อเนื่อง ภาระหนี้ ก็จะอยู่ที่ประมาณ 10 – 15 ปี ซึ่งลดลงมาเกือบครึ่งเลยทีเดียว

ยกตัวอย่างเช่น คุณซื้อคอนโดราคา 1 ล้านบาท ผ่อนชำระเดือนละ 7,000 บาท ต้องการให้ระยะเวลาลดลง โดยการจ่ายค่างวดเพิ่มขึ้น เป็นเดือนละ 8,500 บาท ไปตลอด จะทำให้คุณสามารถผ่อนคอนโดฯ หมดได้ภายใน 20 ปี

สำหรับผู้ที่ที่ไม่คิดจะโปะเงินค่างวดเลย แต่ผ่อนยาวตลอดจนถึง 30 ปี รวมแล้ว คุณต้องจ่ายดอกเบี้ยให้กับธนาคารเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย ๆ ประมาณ 60 – 70% เลยทีเดียว เพราะว่าอัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารคำนวณนั้น เป็นแบบลดต้นลดดอก หากเงินต้นลดลง ดอกเบี้ยที่ต้องเสียก็จะน้อยตามไปด้วยนั่นเอง

การซื้อคอนโดฯ ด้วยเงินผ่อนเป็นเรื่องใหญ่ เพราะต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก ดังนั้น คุณควรวางแผนให้ดี สำหรับขั้นตอนการวางแผนที่เราแนะนำไปนั้น คุณสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ แต่สำหรับผู้ที่เป็นหนี้บัตรเครดิต แต่ต้องการผ่อนคอนโดฯ เราขอแนะนำให้คุณปลดหนี้บัตรเครดิต หรือปลดหนี้อื่น ๆ ให้หมดเสียก่อน เนื่องจากการผ่อนคอนโดฯ ต้องใช้เงินจำนวนมาก และต้องชำระตรงเวลา การที่คุณมีภาระหนี้หลาย ๆ ด้าน อาจจะไม่สามารถหมุนเงิน แล้วนำมาชำระผ่อนคอนโดฯ ได้ตรงต่อเวลา

เทคนิคการการปลดหนี้บัตรเครดิตก่อนผ่อนคอนโดฯ

อย่างที่เราได้กล่าวไปแล้วว่า หากคุณมีหนี้ หรือเป็นหนี้บัตรเครดิต ควรที่จะปลดหนี้ให้หมดเสียก่อน เพราะอาจจะทำให้คุณรับภาระมากในทุกเดือนได้ ทั้งดอกเบี้ยจากบัตรเครดิตและดอกเบี้ยจากคอนโดฯ เทคนิคการปลดหนี้บัตรเครดิต เราขอแนะนำวิธีการง่าย ๆ แต่ได้ผลดังนี้

• ไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

สำหรับเริ่มแรกในการปลดหนี้บัตรเครดิต คุณก็ไม่ต้องใช้บัตรเครดิตเพิ่ม เพราะการใช้บัตรเครดิตจะยิ่งเพิ่มภาระหนี้ให้คุณมากขึ้น การหมุนเงินบัตรเครดิต คือ การที่คุณไม่ชำระหนี้ทั้งหมด แต่จ่ายเพียง 5 – 10% เท่านั้น หนี้จะค้างชำระจะเพิ่มในเดือนถัดไปดอกเบี้ยของคุณเพิ่มขึ้น ประมาณ 2.4 – 2.75% ต่อเดือนเลยทีเดียว ถ้าคุณมีหนี้ค้างชำระ 10,000 บาท และคุณใช้เงินผ่านบัตรเครดิตไป 1,000 บาท  จำนวนเงินที่ค้างชำระจะเป็น 11,000 บาท และดอกเบี้ยนั้นจะคิดกับเงินต้นที่ 11,000 บาทไม่ใช่ 10,000 บาท ดังนั้น ถ้าคุณต้องการปลดหนี้บัตรเครดิต คุณก็เลิกใช้บัตร และเริ่มวิธีการปลดหนี้ขั้นต่อไป

• หารายได้เพิ่ม

หากคุณได้รับเงินเป็นรายเดือน และต้องชำระหนี้บัตรเครดิตจำนวนเงินที่มีความใกล้เคียงกับรายได้ คุณก็ไม่สามารถปลดหนี้บัตรเครดิตได้เร็ว การหารายได้เพิ่ม ก็มีหลายช่องทาง อย่างเช่น การลงทุนในกองทุนรวม การเล่นหุ้น และอื่น ๆ มากมาย ขึ้นอยู่กับความรู้และความสามารถ ทั้งนี้เมื่อคุณมีรายได้เพิ่มขึ้น คุณก็สามารถปลดหนี้บัตรเครดิตได้อย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่คุณจะตัดสินใจซื้อผ่อนคอนโดฯ ควรวางแผนการเงินให้ครอบคลุม โดยรายได้ที่เข้ามาจะต้องมีมากกว่า ค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนทั้งหมดรวมกัน คุณจึงสามารถผ่อนคอนโดฯ ได้อย่างสบาย ๆ สำหรับบทความหน้าเราจะนำเสนอเกี่ยวกับ “เคล็ดลับการปลดหนี้ แบบรวดเร็วทันใจ” สำหรับผู้ที่ต้องการปลดหนี้แบบรวดเร็ว และเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน ก็สามารถติดตามบทความของเราได้ที่นี่ค่ะ